สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
สมาธิทำงานร่วมกับปลายประสาท

คนที่นอนไม่หลับ หรือหลับยาก ลองพิจารณาการทำงานระหว่างสมองกับปลายประสาท และประสานการทำงานในระยะไกลจากปลายประสาทบนฝ่ามือ ส่งข่าวสารไปยังกลุ่มเซลล์สมอง เรียกว่า ระบบการกระตุ้นปลายประสาทให้ทำงานติดต่อกับเซลล์สมอง เพื่อผลดีต่อคนที่นอนไม่หลับ หรือหลับยาก เพียงแค่นวดปลายประสาทบนฝ่ามือ ก็ส่งผลให้เซลล์สมองผ่อนคลาย และสามารถติดต่อข่าวสารให้นอนหลับง่ายขึ้น และถ้ามีสมาธิเพิ่มด้วย รวมทั้งการบริโภคอาหารที่ได้คุณค่าตรงจุดแห่งการบกพร่อง ก็จะบรรลุผลส่งไปถึงเซลล์สมองให้ผ่อนคลาย และบำบัดอาการผิดปกติที่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย หรือนอนไม่หลับ หรือหลับยาก เรียกว่า ศาสตร์แห่งการบำบัดด้วยปลายประสาท หรือ Reflexology

สมองด้านหน้า เป็นการทำงานของระบบการพูด เหนือขึ้นไปเป็นการประสานงานของการคิดหาเหตุและผล ส่วนบนสุดเรียกว่า Cerebrum เป็นศูนย์กลางการทำงานหาเหตุและผล ส่วนบนเหนือขึ้นไปตรงกลางเป็นการสั่งการเคลื่อนไหว ส่วนบนถัดไปเรียกว่า Sense Center เป็นส่วนที่พิจารณาหาเหตุผล เช่นปกติแล้วหลังทานอาหารครึ่งชั่วโมง สมองจะสั่งการนอนหลับ หากไม่หลับ เป็นเพราะเหตุใด ต้องหาเหตุว่าไม่ได้ใส่ถุงเท้าทำให้เท้าเย็น หรือใส่เสื้อผ้าที่อึดอัดไม่สบายกายทำให้ไม่หลับ หรือมีแสงเสียงรบกวนรอบตัว หากยังหาสาเหตุไม่ได้ ก็ลองพิจารณาการนวดปลายประสาทที่ฝ่ามือ จะส่งสัญญาณการพักผ่อนไปยังสมอง ส่งผลให้นอนหลับได้ ที่เรียกว่า Reflexology นั่นแหละ

การทำงานของปลายประสาทบนฝ่ามือ ส่งผลมาจากประสาทสมองที่กระจายการทำงานติดต่อสื่อสารกับ 10 ระบบทั่วร่างกาย การสัมผัสปลายประสาทที่ฝ่ามือจึงกระตุ้นให้สมองส่งให้หลับได้ง่ายขึ้น สมาธิ คือ การสั่งงานให้ประสาทไม่ฟุ้งซ่านในการคิดเรื่องใดๆ สมองในภาวะว่างระหว่างสมาธิจึงสามารถกระตุ้นข่าวสารก่อนหรือระหว่างการทำสมาธิ ให้เป็นไปตามการสั่งงานนั้น

ยกตัวอย่างคนนอนหลับยาก จะต้องเริ่มทำสมาธิ กำหนดจิตแน่วแน่ให้สมองว่างไม่คิดอะไรระหว่างทำสมาธิ เพียงแต่กำหนดจิตว่า จะต้องนอนหลับ จะนอนหลับ จะหลับ ในขณะเดียวกันที่พยายามหลับ ให้นวดฝ่ามือ โดยใช้นิ้วหัวแม่มือขวากดจุดจากฐานข้อมือซ้าย เลื่อนไปสู่กลางนิ้ว เพื่อส่งผลต่อการทำงานของสมองส่วนหน้า เพื่อหาเหตุว่าเพราะอะไรจึงหลับยาก หรือนอนไม่หลับ เมื่อนวดไปจะคลายการทำงานของประสาทสมองส่วนนี้ ให้พักผ่อนและหลับตามครรลองของจิตเป็นสมาธิ และเมื่อนวดถึงกลางนิ้วหัวแม่มือแล้ว ก็เลื่อนมากดทุกนิ้วอย่างเดียวกันครบ 5 นิ้ว เป็นอันครบจุดที่ตั้งของดวงนิมิต จากฐานที่ 1 ที่ช่องจมูก สู่ฐานที่ 2 ที่หัวตา สู่ฐานที่ 3 ที่หางตา สู่ฐานที่ 4 ตรงระหว่างหางตากับหู สู่ฐานที่ 5 ที่ใบหู การสัมพันธ์ของการเดินทางของประสาท จากสมอง ไปยังนิ้วแต่ละนิ้วของสองมือมีพร้อมกัน เพราะประสาทสมองส่งข่าวสารไปยังด้านซ้ายและขวาพร้อมกัน ตามทางเดินของประสาทในระบบ Reflexology ฉะนั้น การกดมือเดียวแต่ละนิ้ว จะส่งผลสู่ร่างกายสองข้างพร้อมกัน จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิแน่วแน่ไม่คิดวอกแวกไปเรื่องอื่นใด เพียงแต่กดแล้วเคลื่อน สู่กลางนิ้ว แล้วเริ่มจากฐานข้อมืออีก กดสู่กลางนิ้วอีก จนครบทุกนิ้ว และครบสองมือ เพื่อผลต่อร่างกายสองด้าน อย่างสมบูรณ์ ในขณะนี้ คุณจะเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับ แต่ยังไม่จบกระบวนการนวดมือข้างหนึ่ง ต้องทำต่อไปคือ

เริ่มที่กลางฝ่ามือระหว่างเส้นหัวใจกับเส้นสมอง ใช้หัวแม่มือขวากดที่จุดกลางมือนั้น นับ 1 – 10 พร้อมกับการหายใจเข้าเต็มปอดเมื่อนับ 1 และผ่อนลมหายใจออกเมื่อนับถึง 10 อธิบายซ้ำคือ นับ 1 เมื่อหัวแม่มือขวากดกลางมือพร้อมกับการหายใจเข้าสู่ปอดจนเต็ม ซี่โครงเบ่งบานจนสุด เมื่อนั้นให้นับ 10 และผ่อนลม หายใจออกช้าๆ ไม่ต้องนับอะไร ทำซ้ำในการกดจุดกลางมือ นำลมหายใจเข้าเต็มท้องนับได้ 10 ผ่อนลมหายใจออก ท้องแบน เมื่อนับได้ 10 แล้วหายใจเข้าเต็มท้องเมื่อเริ่มนับ 1 – 10 แล้วหายใจออกจนท้องแบน ทำครบ 3 ครั้ง แล้วนวดสองข้างแต่ละนิ้วเริ่มจากนิ้วก้อย ด้วยนิ้วหัวแม่มือซ้ายกับนิ้วชี้ของมืออีกข้าง เพื่อคลายลมทำทุกนิ้วจากนิ้วก้อย สู่นิ้วนาง เริ่มใหม่จากฐานนิ้วกลาง แล้วกลับมาเริ่มใหม่จากฐานนิ้วชี้ และเริ่มจากฐานนิ้วหัวแม่มือออีก จะได้ครบทั้ง 5 นิ้ว เป็นอันว่า การผ่อนคลายสติอารมณ์ของการนวดปลายประสาทบนมือซ้าย หมดแล้ว ก็เริ่มใช้หัวแม่มือซ้ายทำแบบเดียวกันบนมือขวา จะได้สมดุลพลังทั้งสองด้านร่างกาย และการผ่อนคลายประสาทจะจบสิ้นสุด คุณจะสามารถหลับได้ตามธรรมชาติแห่งการนวดปลายประสาทบนฝ่ามือทั้งสองหากต้องการทำบนฝ่าเท้าทั้งสองเช่นเดียวกัน จะช่วยให้หลับได้แน่นอน แต่โดยมากเราพร้อมที่จะหลับโดยใส่ถุงเท้าไว้แล้ว เลยไม่ต้องนวดเท้าทั้งสองอีก เพียงพอที่จะช่วยให้คนหลับยาก หลับทันที่หลังจากการนวดมือสองข้าง ผู้เขียนใช้วิธีนวดสองมือ แล้วสวดมนต์บนชินบัญชร ซึ่งยาวพอที่จะทำให้หลับสนิททันที่ที่สวดจบ การสวดมนต์ช่วยความจำสำหรับผู้สูงอายุที่เริ่มรู้สึกตัวว่า ความจำลดน้อยถอยหลังไปตามอายุที่เพิ่มขึ้น เพียงแค่พิมพ์มาถึงจุดนี้ ก็อยากจะหลับเสียแล้ว เพราะจิตเริ่มผ่อนคลายตามตัวหนังสือ แต่เดี๋ยวก่อน ยังไม่ได้กินอาหารเลย เพราะครึ่งชั่วโมงหลังกินอาหารจะช่วยให้ประสาทหลับสนิทจนเต็มอิ่มโดยอัตนโนมัติ

จากกระดาษพิมพ์ประกอบพระพุทธรูป หลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ สร้างตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 มีกระดาษพิมพ์กำกับไว้เพื่อแสดงที่ตั้งของดวงนิมิตจากฐานที่ 1 ถึงฐานที่ 7 เริ่มที่ ฐานที่ 1 อยู่ตรงช่องจมูก ฐานที่ 2 อยู่ระหว่างตาทั้งสอง ฐานที่ 3 เรียกว่า จอมประสาท หรือที่ตั้งของ Sense Center ซึ่งเป็นส่วนกลางของสมองด้านบนสุด ฐานที่ 4 ที่เพดานปาก ฐานที่ 5 ที่ช่องลำคอตรงกระเดือก ฐานที่ 6 อยู่ที่ศูนย์กลางกายเหนือสะดือ ฐานที่ 7 อยู่เหนือฐานที่ 6 สองนิ้ว

พระพุทธรูปแขวนองค์เล็กนี้ เป็นที่นิยมและได้รับความเคารพตั้งแต่สมัยบิดาของผู้เขียนยังทำงานอยู่ และมีติดตัวตลอดเวลา ถ้านับเวลาที่บิดาของผู้เขียนบวชที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ถึงบัดนี้ ก็นับได้กว่าร้อยปี และเป็นพระพุทธรูปที่คนแสวงหาอยู่เสมอ วันนี้ ผู้เขียนเห็นแขวนอยู่ที่สายสร้อยห้อยคอสุภาพบุรุษที่นำอาหารจากศูนย์ Adult Day Health Care มาส่ง จึงเกิดความสนใจค้นคว้าเรื่องนี้ต่อ นับว่า ได้ความรู้ดีทีเดียว

หากไม่บูชารูปเคารพใดๆ ก็ต้องเชื่อเรื่องการบำรุงร่างกาย และจิตใจ ครบด้วยไวตามิน ตั้งแต่ A to Z อาทิ ไวตามินเอ อยู่ที่น้ำมันตับปลา ไข่ ตับ ช่วยบำรุงสายตา ผิวพรรณ ไวตามินบี 1 อยู่ที่เนื้อแดง ไข่ ข้าวซ้อมมือ ถั่วลิสง บำรุงระบบประสาท ไวตามินบี 2 อยู่ที่ตับ ไข่ นม พืชสีเขียว ไวตามิน บี 3 อยู่ที่ตับ ไข่ นม เนื้อแดง บำรุงผิวหนังและระบบฮอร์โมน ไวตามินบี 5 อยู่ที่ตับ หัวใจ ข้าวซ้อมมือ บำรุงระบบประสาท ระบบภูมิคุ้มกันไวตามินบี 6 อยู่ที่ตับ ปลา ข้าวซื้อมือ ไวตามินบี 12 อยู่ที่เนื้อ ตับ ไข่ บำรุงเม็ดเลือดแดง ไวตามินบี 13 อยู่ที่นมเปรี้ยว ช่วยชะลอวัย ไวตามินบี 15 อยู่ที่เมล็ดฟักทอง งา ช่วยชะลอความชรา ไวตามินบี 17 อยู่ที่สารสกัดจากเม็ดแออพลิคอต ยังไม่ยืนยันสรรพคุณ ก็กินไว้ก่อน ไวตามินบีคอมเพล็กซ์ อยู่ที่ตับ ไข่แดง ช่วยด้านความจำ และการทำงานของตับ ไวตามินซี อยู่ที่พืชสีเขียว และผลไม้เปรี้ยว ช่วยชะลอความแก่ ต้านทานเชื้อโรค และการแข็งตัวของเม็ดเลือด หน้านี้ควรหนักไวตามินซี เพราะช่วยต้านทานการติดเชื้อโคโรน่าได้บ้าง ไวตามินดี อยู่ในนม แสงแดด ช่วยต้านทานการเสื่อมของกระดูกและฟัน และเนื้อเยื่ออ่อนต่างๆ ไวตามินเอฟ อยู่ในถั่วเหลือง ผักเขียว และไข่ ไวตามินเอช อยู่ในตับ ไข่แดง ช่วยระบบกล้ามเนื้อ และเส้นผม กรดฟลอริค อยู่ในตับ ไข่แดง ฟักทอง แครอท ช่วยระบบประสาท ระบบโลหิต และเส้นผม ไวตามิน เค อยู่ในน้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันผักเขียว ช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด สร้างกระดูก ไวตามิน PABA อยู่ใน ส้ม มะนาว ผลไม้รสเปรี้ยว ไวตามิน ที อยู่ในไข่แดง ตับ ไต ช่วยสร้างเม็ดเลือด ไวตามิน ยู อยู่ในกะหล่ำปลีดิบ ช่วยรักษาแผล และผิวพรรณ