เมื่อดูนักปีนเขาใช้ห่วงเหล็กเจาะเข้าไปในหินภูเขาแล้วไต่ตามเชือกที่โยงถึงคนอื่น 2-3 คนที่ปีนในกลุ่มด้วยกัน มีหญิงสาวคนหนึ่ง ก็รู้สึกทึ่งในความสามารถ เมื่อถึงยอดเขาซึ่งสูงเทียมฟ้าเขาก็สูดอากาศด้วยความสุข นึกถึงตัวเองเมื่อขึ้นเขาสูงไปกับทีมผู้ถ่ายทำฉากโฆษณา เป็นการระเบิดภูเขาสูงเทียมฟ้าเหมือนกันเป็นหิน limestone คือเนื้อร่วนเหมือนกัน ต่างกันตรงที่ว่า เรานั่งรถจิ๊บขึ้นเขาแล้วเดินไปแอบหลังบังเกอร์ดูภูเขาระเบิด เพื่อย่อยหิมให้เล็กลงพอที่จะเข้าเผาในเตาเผากลมยาวใหญ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 30 ฟุต ยาวประมาณ 1,000 ฟุต ด้วยอุณหภูมิประมาณ 1,780 องศาเซลเซียส เพื่อทำการย่อยขนาดให้เล็กลงได้และบดละเอียดเป็นปูนซีเมนต์ต่อไป ถ้าเติมน้ำในปูนซีเมนต์มักก็จะแข็งดุจหินภูเขาอีก ที่เราใช้ในการก่อสร้าง นั่นเป็นฉากโฆษณาของบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงสมัยที่ผู้เขียนทำงานอยู่ 10 ปี ฉากการระเบิดภูเขาเป็นการสร้างชื่อเสียงให้กับปูนซีเมนต์ตรานกอินทรีน้องใหม่ดังเหมือนกับฉากระเบิดภูเขาเลยทีเดียว

ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งที่เห็นจากภาพยนต์สารคดีทางทีวี ก็คือประวัติของผู้ได้รังรางวัลโนเบลไพรส์ชื่อ สตีเพ่น ฮอร์กินส์ เขาเกิดปีเดียวกับผู้เขียน คือปี 1942 ร่างกายแขนขาลีบต้องเคลื่อนไหวด้วยรถเข็น มีสมองที่ฉลาดปราดเปรื่อง เขียนหนังสือชื่อ A Brief History of Time ที่ติดตลาดขายดีเป็นอันดับหนึ่งของโลกอยู่ถึง 4 ปี เขาไม่มีนิ้วครบ แขนไม่มีกล้ามเนื้อ พูดเป็นคำพอฟังออกได้ แต่สมองยอดเยี่ยมขนาดเป็นนักฟิสิกส์ของจักรวาลที่โด่งดังด้วยความรู้ทั่วสากลโลก ชื่อเสียงระดับนักวิชาการของมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ หนังสือที่เขาเขียนขายทั่วโลกกว่า 10 ล้านเล่ม และอยู่อันดับขายดีที่สุดถึง 4 ปี นับเป็นหนังสือเล่มเดียวที่จัดว่าเป็น No.1 selling book in the world เป็นความรู้ด้านฟิสิกส์ของยูนิเวอร์สเล่มเดียวที่โด่งดังถึง 11 ปี เขาฝันที่จะออกสู่อวกาศ แต่อีลอน มัสถ์ ก็ยังไม่มียานอวกาศออกนอกโลกและเปลี่ยนบรรยากาศเป็นออกซิเจนได้ในระยะนั้น เขาจบชีวิตเมื่อายุได้ 76 ปี เมื่อปี 2018 นี่คือความแตกต่างระหว่างบุคคล

มิสเตอร์ Nishimoto Yuki สามารถวาดภาพเรียกว่า black ink painting คือใช้พู่กันระบายหมึกสีดำเป็นภาพต่างๆ บนแผ่นโปสเตอร์ขนาดกำแพงรั้ว ต่อหน้าผู้ชมเป็นร้อย เมื่อเสร็จจึงรู้ว่าเป็นภาพอะไร เพราะการป้ายหมึกดำไปตามใจเขานั้น เดาไม่ออกจนกว่าจะเสร็จเรียบร้อย เนื่องจากเขาวาดไปตามมือถือพู่กันที่จิ้มหมึกดำ นี่คือความแตกต่างแห่งมโนภาพ ที่เขามีไว้ในใจแต่ผู้เดียว ผู้ดูไม่รู้ พอสูงวัย ความคิดของแต่ละคนจะแตกต่างกัน มีข้อคิดที่แตกต่างออกไป เพื่อป้องกันมิให้จิตตก เช่น

1.ฉันอายุ 80 แล้ว แต่ฉันยังรักตัวเอง 100%

2.ฉันกำลังมีบทบาทและความเชื่อในด้านดีเกี่ยวกับความชรา

3.คนเราเลี่ยงความแก่ไม่ได้ แต่เราควรขอบคุณตัวเองที่เลือกทางแห่งการย่างเข้าสู่ความชราอย่างฉลาด

4.ฉันแก่อย่างมีความหมายด้านดีที่ฉันสร้างขึ้นเพื่อตัวเอง

5.ฉันพอใจในความชราที่ฉันมีอยู่และดำเนินต่อไปอย่างมีคุณค่า

6.ฉันพอใจที่จะเลือกกินสิ่งที่เป็นประโยชน์ ออกกำลังพอสมควรแก่ร่างกาย นอนหลับง่ายตามเวลาที่ต้องการ

7.ฉันวางแผนการเงินไว้เรียบร้อยเมื่อถึงคราวแก่ชรา

8.ฉันจะแก่อย่างแตกต่างไปจากบรรพบุรุษ

9.ฉันมีความสุขที่เห็นตัวเองยังสดใสในวัยชรา

10.ฉันเคยปล่อยให้ตัวเองแก่เกินวัย แต่เดี๋ยวนี้ฉันคิดได้แล้วและทำตัวแตกต่างจากสมัยก่อน

จะเห็นได้ว่า เวลาเยาว์วัยมีความคิดอย่างหนึ่ง เวลาแก่ตัวลง ความคิดจะเปลี่ยนไป ขอให้รักษาความคิดไว้เหมือนตอนเริ่มเจริญวัย คือกระฉับกระเฉง สนใจที่จะเรียน สนใจที่จะคบเพื่อน สนใจต่อสิ่งรอบตัวและรักที่จะมีความสุขในวัยเริ่มชรา ไม่ต้องยากอะไร หาสัตว์เลี้ยงที่เราชอบ พามันไปเดินเล่น แหย่กับสัตว์เลี้ยง ซื้อหาของเล่นใหม่ให้เขา การมุ่งความสนใจไปในสิ่งที่เราควบคุมได้ จะได้รับผลสมองกลับที่เรานึกไม่ถึง และเมื่อนั้นคือจังหวะแห่งความสุขที่เกิดขึ้นไม่รู้ตัว การซื้อของเล่นให้สัตว์เลี้ยง การหาอาหารใหม่ๆให้เขากิน การอยู่ใกล้ชิดกับเขา จะพาให้เราเพลิน และไม่รู้สึกแก่ตัว เป็นความแตกต่างของการใช้ชีวิตในวัยชรา

บางที เราไม่คิดอยากกินอาหาร เพราะเกิดความเบื่อ ขอให้นึกว่าเราจะกินอะไรให้แตกต่างออกไปจากเดิม แล้วจะเกิดความอยากกิน บางทีต้องคิดว่า ฉันไม่อยากกินอะไรเลย อยากนอนอย่างเดียว ตอนนอนก็ได้ยินเสียงท้องร้องจ๊อกๆ แสดงว่าระบบย่อยอาหารเริ่มหิว ขอให้ทำจิตติดว่าเราอยากกินอะไรดีนะ ให้แปลกออกไปจากเดิม เป็นต้นว่ากินข้าวต้มมัดไส้กล้วยกันหมูหยอง เพราะแมวชอบหมูหยอง เราก็เลยลองกินดู ว่ามันอร่อยตรงไหนนะแมวถึงชอบ ก็เลยกินแกล้มข้าวต้มผัดไส้กล้วยเสียเลย อร่อยดีเหมือนกัน อิ่มท้องนอนหลับง่ายดี นั่นเป็นความแตกต่างที่ให้ผลดี

วีคหยุดสัปดาห์นี้จะทำอะไรดีให้แตกต่างไปจากเดิมที่เคย เบื่อไปวัดแล้วเพราะฟังพระสวดไม่ออก ลองไปโบสถ์คริสต์ดู เออมีความสุขดี ผู้คนอาศัยเป็นมิตรโอบอ้อมอารี เปลี่ยนบรรยากาศแตกต่างไปจากที่เคยรู้สึก ไปๆมาๆเลยไปฟังปาฐกถาของชาวคริสต์ เพราะได้แนวคิดแตกต่างจากเดิม เปลี่ยนชีวิตใหม่

การใช้ชีวิตแตกต่างออกไปจากที่เคย มีผลสำคัญต่อความรู้สึกทางจิตใจ กินอาหารแตกต่างจากเดิม ดูรายการต่างจากที่เคยดูเคยฟัง คบมิตรใหม่ เข้าสังคมต่างจากที่เคย ให้ความสนใจต่อสิ่งใหม่ๆ เช่นสนใจที่จะปลูกต้นถั่วลันเตาเพาะจากเม็ดถั่ว ความสนใจว่าเม็ดถั่วจะงอก จะสร้างความแปลกใหม่ให้กับชีวิต และผลแห่งความแตกต่างนั้นเกินคาด ลองใช้กลเม็ดแห่งความแตกต่างดู อาจได้ชีวิตใหม่ที่แตกต่างไปจากที่เคย เช่นซื้อกระเป๋าสไตล์ใหม่พิมพ์ลายดอกไม้หลากสีติดโบว์สดใส ซื้อหมวกปีกกว้างพิเศษที่นอกจากกันแดดไหม้ผิวหน้าแล้ว ยังเปลี่ยนลุคใหม่ที่พาให้อารมณ์แตกต่างไปจากเดิม คนอื่นก็จะเริ่มคิดว่าเรานี่คงบ้ายามชรา เพราะทำตัวแตกต่างไปจากคนเดิม เราก็จะรู้เองว่ามิตรกับคนไม่ใช่มิตรนั้นแตกต่างกันอย่างไร การใช้ความแตกต่างเยี่ยวยาชีวิต จะได้ผลว่าการกินยาที่มีผลข้างเคียง การคิดและการทำตัวแตกต่างจากเดิมจะสร้างผลด้านดีต่อชีวิตที่เปลี่ยนชรามากขึ้น ไม่เชื่อลองใช้ความแตกต่างให้เป็นประโยชน์ต่อชีวิตดู แล้วจะเห็นความแตกต่างเกิดขึ้นกับชีวิต อย่าลืมว่า ความแตกต่างสร้างผลดีให้กับชีวิต ไม่เชื่อก็ลองทำอะไรแปลกๆไปจากเดิม