ฝ้ากับจุดด่างดำ ต่างกับแผ่นขาวบนผิว ก็แน่ละซิ มันคนละสีกันนี่นา สีคล้ำ กับปลอดสี ย่อมต่างกัน การกำเนิดต่างกันตรงที่ว่าเซลล์สร้างสีผิว (Melanocytes) ซึ่งเป็นเซลล์ที่ก่อกำเนิดสีผม สีผิว ไม่ว่าใครทุกคนเกิดมาจะมี 4 สี คือ ดำ น้ำตาล แดง เหลือง ต่างกันที่เชื้อชาติจะกำหนดว่าชาติใดมีสีอะไรมากกว่ากัน เอเชียก็มีสีแก่ผมดำผิวคล้ำมากกว่าสีเหลือง หรือเรียกว่าผิวขาวผมบลอนด์ ทีนี้ความผิดปกติก็คือว่าแทนที่จะกระจายไปทั่ว กลับเป็นผื่นเป็นแผ่นต่างกับสีปกติ บางที่ก็กลายเป็นสีแก่เรียกว่าฝ้า บางที่ก็กลายเป็นสีขาวกว่าปกติเรียกว่าสีเผือก แม้แต่สีตาก็จางผิวก็ขาวจัด แต่ก่อนนี้การผิดปกติที่ไม่ใช่มาแต่กำเนิดนี้แพทย์บอกว่าไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ปัจจุบันไม่ต้องแพทย์ก็มีทางรักษาให้คลายสภาพเป็นปกติได้

กำเนิดของฝ้ามาจากการที่โปรตีนในผิว (Melanosomes) สร้างสีแก่ หรือรวบรวมสีแก่มารวมกันเป็นจุดหรือเป็นแผ่นเพื่อปกป้องผิวมิให้เป็นอันตรายจากการแทรกซึมของแสงอุลตร้าไวโอเลตในแสงแดด ถ้าไม่ต้องการให้ผิวทำงานสร้างแผ่นหรือจุดสีคล้ำก็อย่าให้แสงแดดเผามากๆ ก็แล้วกัน

ทีนี้ผิวบางประเภทอาจไวต่อแสงแดด (Photosynthesis) ถูกแดดไม่ได้เป็นรู้สึกแสบผิวทันที อย่างนี้เป็นกันทุกคน เพราะใครก็ทนแดดไม่ได้ทั้งนั้น ยิ่งคนที่มีการสะสมเอสโตรเจนหรือฮอร์โมนเพศหญิงแก่กล้าในตัว จากการทานยาเสริม พวกนี้จะมีฝ้าโดยไม่รู้ตัว

การเป็นฝ้า หรือจุดด่างดำตามธรรมชาติ กินเวลานานมาก บางทีออกแดดตอนเที่ยงวันเมื่ออายุ 20 ปี เพิ่งเห็นจุดดำตามหน้าและตามตัวเมื่ออายุย่างเข้า 40 ปีก็มี ฉะนั้นการจะกำจัดจุดดำหรือแผ่นดำที่หน้าที่ตัว อย่าคิดว่าจะจางหายไปภายในเดือนเดียว เพราะจำเป็นต้องสร้างโปรแกรมของโปรตีนในผิวไม่ให้สร้างสีแก่นานพอสมควรจึงจะจางหายไปได้

การกำจัดการสร้างโปรตีนสีแก่ ต้องให้เซลล์สร้างผิวคือ Melanocytes ผลิตสีตามเชื้อชาติเสียก่อน คือมาตามสายเลือด แล้วจึงป้อนโปรแกรมให้ผิวรับรู้ใหม่ว่า ไม่ต้องการสีแก่อีกแล้ว โดยการไม่ถูกแสงอุลตร้าไวโอเลตอีก ในขณะเดียวกันก็ป้อนเซลล์ในผิวด้วยโปรตีนให้เกิดใหม่มีสีเหลืองมากขึ้น

การสร้างสีเหลืองในผิวส่วนหนึ่งมาจากอาหารกลุ่มที่เรียกว่า คาโรตีน (Carotene) ได้แก่แครอท มันเทศ ผักหรือผลไม้สีเหลืองพวกสควช พริกเหลือง พริกสีส้ม ไข่แดง ไขมันในนม และไขมันในร่างกายก็สีเหลือง หรืออาจพบในกลุ่มไวตามินที่มาในรูปของ อัลฟ่าคาโรตีน เบต้าคาโรตีน และแกมมาคาโรตีน ที่นิยมทานไวตามินกันมากคือเบต้าคาโรตีน ที่จะแปรรูปเป็นไวตามินเมื่อร่างกายต้องการ เป็นวิธีที่ปลอดภัยเพราะถ้าทานไวตามินเอมากเกินไป อาจทำให้ผมร่วงเพราะทำให้โคนผมบวม

ทั้งนี้มิได้หมายความว่าในระยะที่ต้องการกำจัดฝ้า จะตั้งหน้าตั้งตาทานแครอทเพื่อให้สร้างเซลล์สีเหลืองก็หาไม่ เพียงแต่อย่าไปเสริมการสร้างเซลล์สีคล้ำมากขึ้นก็แล้วกัน ตั้งหน้าลอกเซลล์สีคล้ำให้หมดไปดีที่สุด แล้วก็เสริมการสร้างเซลล์สีอ่อนขึ้นแทนที่

การลอกเซลล์สีคล้ำทำได้ตามวิธีธรรมชาติ อย่าไปใช้กรดเคมีกัดจนกระทั่งการป้องกันผิวไม่ทันกับการเลื่อนตัวของเซลล์ขึ้นมาแทนที่ชั้นบน จะทำให้ผิวคล้ำดำเป็นแผ่นมากขึ้น

ก่อนการลอกเซลล์สีคล้ำ ควรบำรุงเซลล์ด้วยโปรตีนเสียก่อน เพื่อให้เซลล์สีคล้ำเตรียมเลื่อนมาอยู่ชั้นบน พร้อมที่จะถูกกำจัดไป การป้อนด้วยโปรตีน ทำได้โดยการป้อนเซลล์ด้วยการพอกหน้าโปรตีนเอนไซม์สองหรือสามชั้น แล้วบำรุงที่บ้านอีกหนึ่งอาทิตย์ โดยการทาภายนอกเช้าและก่อนนอนด้วยโปรตีนที่มีเอนไซม์เป็นตัวนำย่อยเข้าสู่เซลล์ เริ่มตั้งแต่การล้างหน้าด้วยโปรตีนเอนไซม์ ตามด้วยการล้างทำความสะอาดชั้นที่สองด้วยกรดผลไม้ธรรมชาติเรียกว่าอัลฟ่าไฮดรอกซี แล้วสเปรย์ด้วยโปรตีนเอนไซม์ เป็นตัวนำร่องเอาอาหารผิวโปรตีนเอนไซม์ที่อยู่ในรูปของน้ำ และเจลที่มีประสิทธิภาพในการสร้างเซลล์

ขณะนี้เซลล์ผิวชั้นบนพร้อมที่ถูกกำจัดออก โดยสร้างชั้นป้องกันผิวไว้เพียงพอแล้ว การกำจัดออกทำด้วยเครื่องปัดฝ้า และหรือจะใช้กรดผลไม้กำจัดเฉพาะจุดหรือลอกทั่วทั้งหน้าก็ได้ แล้วก็ปรุงผิวด้วยโปรตีนเอนไซม์ต่อไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนที่ใช้อุปกรณ์ปิดแผ่นดำหรือจุดดำทิ้งไปอีก โดยมากระยะประมาณหนึ่งอาทิตย์จะเลื่อนเซลล์สีคล้ำให้ตายและเลื่อนขึ้นมาชั้นบน โดยมีชั้นป้องกันผิวมากพอที่จะคงอยู่ทำหน้าที่สกัดมิให้ผิวไวต่อแสงแดดเกินไป

ปฏิบัติการนี้ง่ายมาก เป็นความร่วมมือของตัวเองกับอาหารที่ป้อนเข้าสู่เซลล์ ถ้าจะใช้วิธีรวดเร็วก็มีตามคลินิกแพทย์ เช่นการใช้ในโตรเจนเหลว ดูเป็นไอสีขาวแตะที่จุดดำ ไม่นานก็ตกสะเก็ดแห้งไป ถ้าไปเผาด้วยแสงเลเซอร์ก็ถูกน้ำไม่ได้ประมาณ 10 วัน เพื่อให้ผิวที่ไหม้ตกสะเก็ดก่อนที่น้ำจะทำให้อักเสบได้