สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
แก่อย่างแข็งแรง

คนเราพอสูงอายุก็มักเสื่อมถอยทั้งกำลังวังชา การเดินเหิน ความคิด เพราะร่างกายมีสารที่ทำลายความแข็งแรงเกิดขึ้นตามอายุขัย ไม่ใช่ว่าธรรมชาติจะต้องแก่จะต้องอ่อนแออย่างเดียว กล้ามเนื้อ กระดูก และระบบประสาทก็ทำงานเสื่อมถอยตามอายุที่เพิ่มขึ้น จะเกิดที่ osteoclast เป็นกรดที่ละลายแคลเซี่ยมทำให้เดินเหินไม่แข็งแรง ล้มง่าย ดังเช่นที่เคยเห็นหญิงอายุมากตกกระไดสูง ไม่ใช่ว่าเหยียบขั้นบันไดพลาดอย่างเดียว อาจมาจากการยั้งตอนเหยียบขั้นบันไดไม่มีแรงย้ำพอก็ทำให้ร่างทรุดลงไป โดยเฉพาะถ้ามีน้ำหนักมากที่พุง ขาก็รับน้ำหนักไม่ไหวที่จะพยุงร่างกายให้ตรงไว้ได้เมื่อเหยียบขั้นต่ำลงไป ก็ทำให้ทั้งร่างทรุดลงกองอยู่ตรงขั้นบันได ถ้ามือจับขั้นบันไดไว้ทันก็ไม่ไถล เพียงแต่นั่งบนขั้นบันไดได้ ทั้งหมดนี้ เกิดจาก osteoclast เป็นภาวะที่กรดที่ละลายแคลเซี่ยมในกระดูก เมื่อนานขึ้น ก็ทำให้กระดูกยืนยั้งตัวไม่ได้เมื่อทิ้งน้ำหนักตัวลงบันไดขั้นต่ำลงไป ทั้งนี้จาก International Science Journal ที่ผู้เขียนจดไว้ตั้งแต่ปี 2016 เขาเปรียบว่า osteoclast เป็นตัวทำลายความแข็งแรงของกระดูก คือ เป็น osteoblast เพราะถ้ากระดูกขาดคุณสมบัติอันแข็งแรงของแคลเซี่ยม ไหนเลยจะสามารถพยุงร่างอันหนักทั้งกล้ามเนื้อ โลหิต และกระดูกนับร้อยได้

ตัว osteoclast เป็นภาวะกรด โลหิตของเราก็เป็นภาวะกรดแต่ก็ยังมีน้ำเหลืองและส่วนอื่นสมดุลได้ แต่เมื่อกรดเกิดจาก osteoclast มักจะเป็น osteoblast ที่จะทำลายแคลเซี่ยมที่สร้างความแข็งแรงของกระดูกโดยตรง ทำให้การทรงตัวของร่างกายทั้งหมดถดถอย เราเรียกว่า แก่แล้วไม่มีแรงพยุงร่างไว้ได้ การเดินเหิน การทิ้งร่างลงบันไดจึงทรุดตัว

ตัว osteoclast สองอย่าง จะก่อให้เกิด หรือภาษาอังกฤษใช้คำว่า precursor หรือตัวบงการให้เกิดเซลล์ต่างกันอีก 2 ชนิด ที่ทำลายกระดูก เพราะกระดูกสร้างด้วยสารหลายอย่าง เมื่อมีตัวบ่อนทำลาย ไหนเลยจะคงความแข็งแรงไว้ได้ เราก็ไม่รู้ว่า มันจะทำลายตัวไหนก่อน เราเพียงแต่หาวิธีจะกินอะไร จะทำอะไร เพื่อเป็นการทดแทนสิ่งที่สูญเสียไป

อย่างน้อยๆ เขาก็รายงานว่า soybean หรือถั่วเหลืองสามารถช่วยป้องกัน osteoporosis หรือกระดูกเปราะได้ เพราะถั่วเหลืองมี isoflavonoid ซึ่งมีสรรพคุณเทียบเท่ากับเนื้อวัว

อีกอย่างหนึ่งผลไม้ Kiwi ก็สามารถป้องกัน osteoporosis ได้เหมือนกัน

การออกกำลังกายเพื่อขับกระดูกขาให้ทำงานแข็งแรงขึ้น ยกตัวอย่างเช่น

1.เขย่งส้นเท้าขึ้นแล้วปล่อยต่ำลง

2.เขย่าเท้าตรงข้อประมาณ 1 นาที

3.ทรุดร่างลงครึ่งตัว หลายครั้ง เท่าที่แรงทำได้ พอประมาณ อย่ามากเกิน

4.นั่งเก้าอี้แล้วลุกขึ้นยืน แล้วทรุดนั่งลงแล้วลุกขึ้นยืน ซ้ำกันเท่าที่ทำได้

ออกกำลังกระดูกชุดนี้ ประมาณวันละ 10 ครั้ง เมื่อมีโอกาส ไม่ใช่หลังทานอาหารใหม่ๆ

การออกแรงขาอีกท่าหนึ่ง คือนอนราบพื้นที่ไม่ใช่ฟองน้ำหรือสปริงค์ แล้วยกเท้าขึ้นสูง ค้างไว้ประมาณ 30 นาที หรือเท่าที่จะสบายพอทนได้ ทำทุกวันประมาณ 1 เดือน

และให้งดเว้นการกินเกลือ หรือกินให้น้อยลง

เพื่อส่งเสริมการหมุนเวียนของโลหิต ให้ดื่มน้ำบริสุทธิ์ก่อนนอน หรือตอนเย็น นี่เป็นหลักของแพทย์ด้าน urologist ไม่รู้แปลเป็นไทยว่าอะไร อาจไม่สุภาพ ตรงตัวอาจเรียกว่า แพทย์ดูแลด้านปัสสาวะประจำวัน

นับว่าโน้ต 4-5 ปีมาแล้ว อาจนำมาใช้ให้เกิดผลดีตอนวัยชราได้ด้วยวิธีง่ายๆ ข้างต้น

เริ่มจาก อาหารการกิน นอกจาก แป้ง โปรตีน แล้วก็ควรมีถั่ว soybean ผู้เขียนซื้อถั่วสำเร็จรูปรวมกันประมาณ 10 ชนิด อบด้วยน้ำผึ้ง เรียกว่า Honey Roasted Nuts กินพร้อมอาหารหรือแกล้ม น้ำพริกอ่อง หรือกินหลังอาหารเป็นประจำ ไม่ต้องมีพิธีรีตองในการกิน แล้วก็ดื่มน้ำมะพร้าวในกล่องกระดาษ ไม่เติมรสหวานใดๆ นอกจากนี้ก็กิน Snickers บางทีก็เคี้ยวหมดแท่ง หรือ สามสี่คำ แล้วแต่จะอยาก สังเกตว่าช็อกโกแลตช่วยให้นอนหลับดี ไม่มีภาวะน้ำตาลสูงหรือน้ำตาลต่ำที่ต้องพึ่งการรักษาพยาบาลของแพทย์ ถ้ามีช็อกโกแลตผงก็อาจชงกับนมผงดื่มก่อนนอน แต่เรื่องมาก สู้เคี้ยวสนิกเกอร์แล้วแปรงฟัน ก็นอนได้เลย

วกกลับมาเรื่องศัตรูที่ทำลายกระดูก หรือ osteoclast ที่เปรียบเสมือนเป็นผู้ร้าย osteoblast สามารถปล่อยกรด 2 ชนิด ทำลายเซลล์ คือ malignant ซึ่งศัพท์ตัวนี้ เขาใช้เรียกเซลล์ที่เป็นบ่อเกิดของเซลล์มะเร็งโดยทั่วไป ดูฤทธิ์เดชของมันว่าร้ายแค่ไหนก็แล้วกัน ที่ร้ายก็คือ จากรายงานกล่าวว่า มันจะมุ่งทำลายกระดูกตลอดไป ศัพท์ในรายงานใช้คำว่า continue ซึ่งน่ากลัวผลเสียต่อการเดินเหินหรือเมื่อย่างเข้าวัยชรา จึงควรเลี่ยงมิให้เกิดขึ้นในร่างกายเสียเลย เพราะเมื่อเกิดขึ้นแล้ว จะลุกลามเสมือนเซลล์มะเร็งทีเดียว ยั้งไม่อยู่ เพราะภาวะเป็นกรดจะกระจายไปทั่ว และจะแยกเซลล์ออกเป็นสอง ผลเสียจะทำลายมากเป็นสองเท่า สรุปได้ว่า เจ้าเซลล์ตัวนี้ที่เรียกว่า osteoclast จะทำหน้าที่ทำลายเรียกว่า osteoblast มากเป็นสองเท่าเพราะสร้างเป็นสองเซลล์ หรืออีกนัยหนึ่ง สองเซลล์นั้นต่างชนิดกัน แต่จะทำหน้าที่ทำลายกระดูกต่างวิธีกัน น่ากลัวไหมล่ะ เรากินนอนอยู่ดีๆ มันยกขบวนทำลายภายในมากขึ้นเรื่อยๆ ย้อนกลับไปอ่านตั้งต้นใหม่แล้วกัน ว่าจะป้องกันด้วยอะไร

อย่างน้อย การบริโภคประจำวันต้องครบ 5 หมู่ มีถั่ว soybean ลูกกีวี ไว้บ้างก็ดี ความรู้จากหลายหมอก็น่าจะทำตามบ้าง เพราะเขาทดลองมาแล้วว่าได้ผล น้ำที่ดื่มต้องบริสุทธิ์ ใช้น้ำกลั่นล้างผักสดผลไม้สด น้ำแกงจืดกระดูกหมูบ้างเผื่อได้สารจากกระดูกออกมาใส่ปาก ผู้เขียนตั้งใจจะให้มีอารมณ์เบิกบานเพราะฝนตกไม่แช่มชื่นเอาเสียเลย ยังดี เห็นแต่ข่าวทอร์นาโด ก็ยังดีที่รัฐนี้มีแค่ภูเขาทรุดถนนแหว่ง คนไร้บ้าน หรือแมวไร้บ้านก็ลำบากหน่อย