สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ความสุข 10 ประการ

ความเปลี่ยนแปลงของสุขภาพสมองจะลดลงเรื่อยๆ เมื่ออายุมากขึ้น เช่น ขาดความสุข ซึ่งจะเป็นบ่อเกิดของอัลไซม์เมอร์ ความจำลดลง หรือมีความหลงลืมมากขึ้น มีน้ำตาลสูงขึ้น น้ำหนักตัวมากเกินไป พลังร่างกายลดลง การช่วยชะลอความเสื่อมต่างๆนี้ อาจทำได้จากการมีกิจกรรมทางร่างกายมากขึ้น เช่น เคลื่อนไหวร่างกายหรือออกกำลัง จะช่วยลดสารพิษที่สะสมในร่างกายให้น้อยลง ป้อนสิ่งที่บำรุงคุณภาพ ความสุขของสมอง เช่น กินอาหารที่ช่วยให้สมองทำงานอย่างมีความสุข ลดความกระวนกระวายใจ เพิ่มการหมุนเวียนโลหิต ลดการอักเสบต่างๆให้น้อยลง ได้รับไวตามินดีมากขึ้นจากบ่อเกิดคือแสงแดด การเคลื่อนไหวร่างกายในที่มีแสงแดดไม่จัดเกินไปจะได้ไม่สร้างจุดดำที่ผิว มีอารมณ์สุนทรีย์ในระหว่างออกกำลังเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งจะกล่าวง่ายๆถึงความสุข 10 ประการเบื้องต้น กล่าวคือ

1.กินเป็นสุข โดยมากร่างกายจะบอกว่าอยากกินอะไร เพราะร่างกายต้องการ ก็กินตามอยาก

2.ย่อยเป็นสุข คืออาหารที่ระบบย่อยง่าย ไม่เหลือเป็นพิษต่อสมองและอวัยวะต่างๆ

3.ถ่ายเป็นสุข เช่นมีกากที่ขับถ่ายสะดวกตามเวลา

4.นอนเป็นสุข ได้แก่หลับตามที่ต้องการ ถ้าต้องการสิ่งที่ให้หลับโดยไม่ทำลายสุขภาพ ก็ดื่มผงช็อกโกแลตยี่ห้อสวิสส์มิสส์ Swiss miss ชงในน้ำกลั่นอุ่นร้อนในไมโครเวฟ 35 วินาที กับนมผงลดไขมัน Instant Nonfat Dry Milk ไม่ต้องใส่ครั้งละหมดซองหรอก ใส่ผงช็อกโกแลตเพียง 1 ใน 3 ซองและนมผงเพียงครึ่งของก็พอ

5.หลับเป็นสุข หลังจากดื่มนมช็อกโกแลตจะหลับเร็วขึ้น หลับเป็นสุขตลอดจนเต็มเวลาตื่น

6.ฝันเป็นสุข ความฝันขึ้นอยู่กับอารมณ์และการจัดระเบียบระบบภายในให้ราบรื่น ด้วยการนวดมือทั้งสองข้าง ด้วยหัวแม่มือของอีกมือหนึ่ง เริ่มด้วยหัวแม่มือขวากดจากฐานข้อมือถึงกลางนิ้วทุกนิ้วเป็นการสัมผัสอวัยวะภายในให้ทำงานระหว่างที่เรานอนหลับ แล้วกดกลางมือหายใจเข้าเต็มท้อง แล้วหายใจออกช้าๆ นับถึง 8 สามครั้ง แล้วนวดข้างนิ้วทุกนิ้ว การย่อยการขับถ่ายใช้เวลาประมาณเท่ากับเวลาที่เราหลับคือ 8 ชั่วโมง พอตื่นขึ้นมาก็รีบวิ่งไปนั่งโถส้วมแทบไม่ทันเลยเชียว นั่นคือผลการทำงานของการนวด ปลายประสาทที่ฝ่ามือจะช่วยให้ฝันเป็นสุข เพราะการย่อยเอาสารอาหารเข้าระบบ

7.มองเป็นสุข หมายถึงว่า เห็นดอกซากุระพลาสติกที่อยู่ในแจกันก็ทำให้เกิดความสุขจากการมองได้

8.ดมเป็นสุข ถ้าจะให้ดีก็สเปรย์น้ำหอมที่ผม หรือที่ดอกไม้พลาสติก ก็เป็นสุขได้โดยไม่ต้องดมหรือสูด

9.เป็นสุขเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตรอบตัว หรือเขาเป็นสุขเราก็มีความสุข เช่นการให้อาหารแมงจรจัดเราก็มีความสุข หรือเห็นต้นไม้ในบ้านเติบโตก็มีความสุข ไม่ใช่กระทืบต้นดอกไม้ในสวนคนอื่นแล้วมีความสุข

10.มิตรดีช่วยให้เป็นสุข จะรู้เองว่าคนอย่างไรคือมิตรดี คือคนที่เราเป็นสุขเมื่ออยู่ใกล้

เมื่อวันอาทิตย์ผู้เขียนได้รับโทรศัพท์ตั้งแต่ 6 โมงเช้า บอกว่าอย่าลืมนะหมอจะโทรมาหาตอนเที่ยง ผู้เขียนก็ปฏิเสธที่จะไปโบสถ์เพื่อฟังบทบรรยายที่น่าสนใจต่างๆ ปรากฏว่าอยู่บ้านดูทีวีเรื่องน่าตื่นเต้น คือการแข่งรถยนต์ที่สนามไมอามี่อินเตอร์เนชั่นเนล เรียกว่า เฟอรารี่โดม สนามแข่งชื่อว่า Dolphin Stadium เกิดมาก็เพิ่งดูรายการแบบนี้แหละ น่าตื่นเต้นเร้าใจตลอดเวลา จนคนชนะยืนบนแป้นถ่ายรูป ดูใบหน้าเขาที่ดวงตาแสดงความมุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว คงจะอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆ เพราะร่างกายยังแข็งแรงแบบเริ่มโต เราก็เรียนรู้การบังคับจิตใจ มิให้เกิดอุบัติเหตุ และความเด็ดเดี่ยวแห่งความคิดความสามารถในการบังคับเครื่องยนต์ให้เลี้ยวให้เลี่ยงอันตรายต่างๆ เป็นผลการเรียนจากชีวิตประจำวัน ซึ่งไม่เคยสนใจเรื่องนี้มาก่อน จนได้ปรัชญาของความสำเร็จมาประดับความคิดของตนเอง เรียกว่า มีอะไรบงการให้อยู่บ้านได้เห็นได้เรียนรู้อะไรบางอย่าง ซึ่งปกติคงจะไม่ได้สนใจหรอก ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ การออกแบบเครื่องแต่งกายคนขับมีหมวกแก็ป เข้าชุดกับสีเสื้ออย่างดีมีศิลป์น่ายกย่อง ซึ่งเราก็คงคิดไม่ถึง ว่าจะต้องผ่านคนออกแบบเครื่องแต่งกายสำหรับที่จะออกโทรทัศน์ได้อย่างมีศิลป์ น่าชมเชยว่าอย่ามองข้าม

นั่นคือความสุขวันอาทิตย์ ซึ่งปกติคงไม่คิดว่าจะแหวกแนวไปดูการแข่งรถระดับโลกโดยบังเอิญ

ความสุขต่างๆไม่จำเป็นต้องมีแค่ 10 อย่าง แต่ทุกอย่างจะส่งผลให้สมองมีสุขภาพที่ดี ทำงานยืนยาว เพราะการขาดความสุขคือหนทางไปสู่โรคอัลไซม์เมอร์

ตัวปล่อยสารในสมองเรียกว่า Secretagogues ซึ่งจะปล่อยฮอร์โมน Somatotropins ซึ่งเป็นฮอร์โมนชนิดหนึ่งโดยระบบต่อมไร้ท่อในร่างกาย เช่น เอสโตรเจน ฮอร์โมนเพศหญิง เทสโทสเตอโรน ฮอร์โมนเพศชาย และฮอร์โมนกลางที่จะทำหน้าที่สมดุลชื่อฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่โด่งดังได้แก่ DHEA ซึ่งเป็นโมเลกุลสุดท้ายของโซมาโตโทรพินส์ ซึ่งจะสูงที่สุดเมื่ออายุ 30 ปี พออายุ 30 ปีก็ตกลงมาเกือบ 14 เปอร์เซ็นต์ต่อ 10 ปี การปล่อยโซมาโตโทรพินที่เรารู้จักกันในนามของโกรทฮอร์โมนมีประมาณ 500 meg ตอนอายุได้ 20 ปี พออายุ 40 ปี ก็ลดเหลือ 200 meg. พออายุ 80 ปี ก็ลดเหลือเพียง 25 meg. การปล่อยสารนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของไฮโปทาลามัส ที่ให้ฮอร์โมนชนิดหนึ่งสั่งการให้ปล่อยฮอร์โมน (Growth Hormone Releasing Hormones GHRH) แปลว่าจะต้องมีฮอร์โมนชนิดหนึ่งออกคำสั่งให้ปล่อยโกรทฮอร์โมน คำว่าฮอร์โมนหมายถึง การคุยกันระหว่างเซลล์ เป็นคำสั่งบงการให้เซลล์ทำงาน

ตัวโซมาโตทรอปส์เอง เมื่อแก่ชราก็เสื่อมสมรรถภาพในการปล่อยโกรทฮอร์โมน เพราะเกิดมีสารเรียกว่าโซมาโตสแตติน อันเป็นกลไกส่วนหนึ่งของไฮโปทาลามัสที่จะควบคุมให้ผลิตฮอร์โมนน้อยลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น จากการค้นคว้าทราบว่าถ้าต้องการให้มีการปล่อยโกรทฮอร์โมน ก็ต้องช่วยให้จุดรับมีความฉับไวมากขึ้น หรือไม่ก็กระตุ้นให้ ฮอร์โมน GHRH ขยันทำงานมากขึ้น

ความสัมพันธ์ในการสั่งให้ปล่อยโกรทฮอร์โมนเข้าสู่ระบบร่างกายเกี่ยวโยงไปถึงการทำงานของฮอร์โมนอีกชนิดหนึ่ง คือ สารปัจจัยแห่งการเติบโตทำหน้าที่เหมือนอินซูลิน (Insulin-like Growth Factor-1, IGF-1) สารนี้สม่ำเสมอมากกว่า จึงถูกนำมาใช้ในการรักษาระดับโกรทฮอร์โมนในร่างกาย การขาด IGF-1 นานๆจะก่อให้เกิดการหย่อนสมรรถภาพในการสังเคราะห์แป้ง อันเป็นบ่อเกิดของเบาหวาน ซึ่งสามารถรักษาได้ โดยการให้โกรทฮอร์โมนบำบัด (HGH Therapy)

เราเองมีครบ 10 ระบบ เริ่มจากระบบการสื่อสารที่รู้จักกันในนามระบบประสาท ต่อมพิจุอิทาริใต้สมอง ขนาดเท่าเม็ดถั่ว ทำงานโดยการบงการควบคุมของสาร 11 ชนิดผลิตจากไฮโปทาลามัส ต่อมนี้กระตุ้นความหิว ความง่วง การตื่น การเคลื่อนไหวโดยอัตโนมัติ อุณหภูมิ ความต้องการทางเพศ ระบบประจำเดือน และผลิตฮอร์โมนที่จะบงการต่อมอื่นๆ ให้ผลิตฮอร์โมนอื่นๆด้วย ส่วนหน้าของต่อมพิจุอิทาริส่งสัญญาณสำคัญไปยังต่อมไทรอยด์ ต่อมหมวกไต ต่อมเพศชายเพศหญิง เช่นการสร้างน้ำนม ที่สำคัญที่สุดก็คือ การสร้างโกรทฮอร์โมน สาเหตุที่เราสนใจโกรทฮอร์โมนก็เพราะเป็นตัวบงการโครงสร้างของร่างกาย