สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
หลุดพ้น

เย็นวันหนึ่งได้ยินเสียงหมาร้องอย่างเจ็บปวด เมื่อชะโงกหน้าต่างไปดู ก็เห็นหมาตัวหนึ่งถูกรถชนที่เกาะกลางถนน และนอนร้องด้วยความเจ็บปวด ทำให้นึกถึงเมื่อวันวานว่ามีหมาตัวหนึ่ง สงสัยว่าจะพลัดกับเจ้าของ หรือเจ้าของเอามันไปปล่อยที่พาร์ค มันก็เกินกลับหาเจ้าของ เดินไปก็หันไปส่งเสียงเห่าไปที่ถนนที่มีรถวิ่งไปมา เพื่อให้เจ้าของรู้ว่ามันอยู่ที่นี่นะ โถน่าสงสารถ้ามันคือหมาตัวเดียวกับเมื่อวานนี้ที่เดินไปถึงพาร์ค เมื่อไม่เจอเจ้าของก็เดินกลับและตัดสินใจข้ามถนนมายังฝั่งที่มันเดินอยู่เมื่อวานนี้ เผื่อจะหาทางเจอบ้านได้ แต่ก็จังหวะถูกรถชนเสียก่อน ผู้เขียนตะโกนลงไปยังถนนว่า ให้ช่วยหมาด้วย Please help doggy! Please help doggy! ในที่สุดก็มีรถคันหนึ่งพยายามจอดกลางถนน พยายามเปิดประตูลงมาจะดูหมา หมาก็พยายามพยุงตัวข้ามถนนอีก ก็มีรถอีกคันหนึ่งทับหมาเต็มแรง เสียงกระดูกหักดังกร็อบ กร็อบ แล้วหมาก็แน่นิ่งไป ไม่ร้องอีก สุภาพบุรุษคนนั้นก็พยายามลากร่างของหมาไปที่ริมถนน พอดีมีหนุ่มอีกคนหนึ่งผ่านมา และหยุดพูดกันแล้วก็โทรศัพท์ สักครู่ก็มีเสียงเฮลิคอปเตอร์ส่งสัญญาณให้ใครมารับไป หรือสุภาพบุรุษคนนั้นดูแลตอนจบ

เรื่องนี้ยังไม่จบง่ายๆ เพราะเหตุการณ์ปรากฏต่อหน้าต่อตา ความเจ็บปวดทรมานของหมาได้ยินอยู่ตั้งแต่เมื่อวานนี้ที่หมาพยายามหาเจ้าของ และต้องจบชีวิตลงด้วยความสะเทือนใจ ตกกลางคืนคืนนั้น ผู้เขียนเกิดปวดขาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ปวดทั้งขาบนและล่าง ซึ่งไม่เคยมีปัญหาในอดีต นวดด้วยยาหม่องเสลดพังพอนก็แล้ว ประคบด้วยผ้าพันก็แล้ว ปวดไปนวดไป จนหลับไป

เย็นวันรุ่งขึ้น ไปฟังธรรมะบรรยายของพระอาจารย์มหาสุภณ (แปลว่าพูดดี) ท่านถามว่าใครมีอะไรค้างอยู่ในใจบ้าง นักเรียนยกมือกันเป็นแถว ผู้เขียนคนหนึ่งละ เลยเล่าเหตุการณ์เรื่องหมาให้พระอาจารย์ฟัง คนอื่นก็มีเรื่องอื่น เยอะแยะ ลองมาฟังปัญหาต่างๆ ที่เราส่วนใหญ่มีค้างในใจเสียก่อน บางทีเราไม่รู้ตัวว่ามันได้กร่อนจิตใจจนความสุขความสงบในชีวิตน้อยลง เพราะมันฝังใจและมีผลระยะยาวต่อชีวิต เราไม่รู้ตัว เช่นเด็กหญิงคนหนึ่งไม่ยอมนุ่งผ้า เพราะแมวเคยฉี่ใส่ผ้านุ่ง สาวคนหนึ่งไม่ยอมแต่งงาน เพราะพบว่าคู่หมั้นดันทะลึ่งไปมีสัมพันธ์ชู้สาวกับว่าที่แม่ยายเพราะเหตุผลตามใจผู้ใหญ่ขอร้อง สมัยผู้เขียนยังเป็นเด็ก คุณแม่ชอบพาไปนั่งฟังเทศน์ที่วัดพระแก้ว ผู้เขียนก็วิ่งเล่นดูภาพเขียนฝาพนังโบสถ์โตมาเลยชอบวาดเขียน และศิลปะ เรื่องฝังใจนี้ ธรรมะได้มีวิธีแก้ไว้แล้ว เรียกว่า วิมุตติ แปลว่า หลุดพ้น

ท่านพระมหาสุภณ ตั้งคำถามนำว่า เจโตวิมุตติ กับ ปัญญาวิมุตติ ต่างกันอย่างไร

เจโตวิมุตติ คือการหลุดพ้นด้วยจิต

ปัญญาวิมุตติ คือการหลุดพันด้วยปัญญา

การหลุดพ้นเรียกว่า วิริเยน ทุกขมจเจติ คือ อาศัยความเพียร เช่น เจริญกรรมฐาน วิธีที่ผู้เขียนเข้าสู่สมาธิได้เร็วที่สุดก็โดยพิจารณาตามพระอาจารย์มหาสุภณสอนว่า ร่างกายของเรานี้ไม่ยั่งยืน ย่อมแตกดับไปเป็นธรรมดา เมื่อเอาจิตเข้าไปข้างในร่างกาย ก็พิจารณาอยู่เช่นนั้น จิตจะเข้าสู่ความว่าง เข้าสู่สมาธิ

การหลุดพัน มีสามประการ ได้แก่

ตทังควิมุตติ การหลุดพ้นชั่วคราว

วิกขภนวิมุตติ ข่มไว้

สมฺจเฉทนวิมุตติ เด็ดขาด

ต้องมีองค์ภาวนา คือ ศีล สมาธิ ภาวนา ของพระ ทาน ศีล ภาวนา ของฆราวาส

วิธีที่ผู้เขียนหลุดพ้นจากความเจ็บปวดของสุนัขมาสู่ร่างกายผู้เขียนเอง ก็โดยถวายอาหารพระพุทธ แล้วกรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แก่สุนัขผู้ได้รับความเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย ให้ไปเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้น และไม่ทนทุกข์ทรมานอีก อันนี้ทำทุกวัน แม้กระทั่งแมวไร้บ้านที่ผู้เขียนให้อาหารอยู่ สงสัยว่าจะถูกตีหรือวางยาพิษ เพราะไม่กินอาหารอยู่ 3 วัน กินแต่น้ำ ผู้เขียนป้อนให้โดยหลอดป้อนน้ำ เมื่อแมวตายแล้วผู้เขียนก็กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้แมวเช่นเดียวกัน นี่คือการหลุดพ้นจากภาวะความไม่ปกติในใจที่มีอยู่ หากไม่ได้ธรรมะบรรยาย เรื่องวิมุตติ หรือ การหลุดพัน เราก็จะมีอารมณ์ที่ไม่สงบ

ฆราวาสที่มีความไม่ปกติทางใจหรือทางกาย น่าจะลองทำใจให้หลุดพ้นจากภาวะที่เป็นอยู่ โดยการให้ทาน แจกของให้ผู้อื่น ช่วยให้ผู้อื่นมีความสุข การมีศีลอย่างน้อย 5 ข้อ หรือวันพระ 8 ข้อ เรียกว่าเนกขัมมะ ก็เป็นการล้างใจ ล้างระบบความหมักหมมของอาหารได้อย่างน้อยก็หนึ่งวัน เมื่อระบบสะอาด ใจก็โปร่ง จิตก็แจ่มใส ด้วยประการฉะนี้

การภาวนา ซึ่งเป็นประการที่สามขององค์ภาวนาของฆราวาส คุณเคยสวดมนต์บทอะไรได้ ที่จำได้จนขึ้นใจ ไม่ต้องดูหนังสือสวดมนต์ วิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะนำคุณไปสู่จิตว่างพร้อมที่จะหลับสนิทอย่างสงบทันที บทสวดมนต์ที่ผู้เขียนสวดก่อนนอนก็คือ ชินบัญชร เพราะยาว และจำได้ตลอด พอสวดจบ จิตก็เข้าสู่ภวังค์ของการหลับสนิทได้ตามระยะเวลาที่ร่างกายต้องการ เมื่อตื่นขึ้น ก็ออกกำลังกายเล็กน้อย

วิธีออกกำลังกาย ที่นักกายภาพบำบัดสอนให้ผู้เขียนถึงบ้าน หลังจากอยู่ในโรงพยาบาลฉุกเฉินสามวันก็คือ ก่อนจะลุกจากเตียง ให้หายใจลึกเข้าสู่ช่วงท้องพร้อมกันทั้งปากและทางจมูก แล้วหายใจออก (แล้วรีบไปห้องน้ำทันที เพราะร่างกายทำงานเร็วมาก เดี๋ยวไม่ทันการ) หลังจากนั้นถ้ามีเวลา ให้ฝึกหายใจเข้าสู่จักระ เรียกว่าการชาร์จจักระ

เรามี 7 จักระ ตามศูนย์รวมของอวัยวะแต่ละกลุ่มที่ทำงานสำคัญร่วมกันในแต่ละจุดของร่างกาย ดังนี้

จักระที่ 1 จุดกำเนิดชีวิต ที่สรีระเรียกว่า Perineum หมายถึงจุดกึ่งกลางระหว่างอวัยวะเปิดด้านหน้า กับด้านหลัง จักระจุดนี้เขาว่าไม่ต้องออกกำลังกาย ปล่อยให้เขาทำงานของเขาเอง ผู้เขียนคิดว่า เป็นเพราะเวลาเราทำสมาธิ พละกำลังจะเริ่มจากจุดนี้ไปตามเส้นทางพลังฮาร่า Hara รับจากพลังดินใต้ฝ่าเท้า ผ่านเพอริเนียม ผ่านเซครั่มด้านหลัง แยกไปด้านหน้าที่จุดสองนิ้วเหนือและใต้สะดือเป็นรู้เกือกม้า ก่อนที่พลังจะผ่านตามกระดูกสันหลังขึ้นสู่สมอง ซึ่งเมื่อเรายืนก็รับพลังส่งตามเส้นทางฮาร่าสู่สมอง เมื่อเรานั่งสมาธิเรียกว่าพลัง Kundalini พลังคุนดาลินี ส่งตามจักระเจ็ดจุดที่เราจะออกกำลังต่อไปนี้

จุดจักระที่ 1 มีผลต่อระบบท้องผูก เส้นเลือดโป่งที่ทวารที่เราเรียกว่า เฮโมรอยด์ น้ำหนักตัวเกินพิกัด อาการปวดหลัง อาการปวดขา อาการปวดข้อ อาการปวดเข่า และโรคนอนไม่หลับ ระหว่างออกกำลังจักระที่ 1 กำหนดจิตไว้ที่ ฐานเพอริเนียม

จุดจักระที่ 2 จุดนี้คือจุดที่พลังฮาร่าแยกไปสู่ด้านหน้าที่กล่าวแล้ว ตรงสองนิ้วเหนือสะดือกับสองนิ้วใต้สะดือ เรียกว่า Sacral Chakra เป็นจุดที่สร้างพลังชีวิต มีผลต่ออารมณ์ รังไข่ มดลูก อัณฑะ ตับ ไต การหมุนเวียนโลหิต พลังทางเพศ การหย่อนอารมณ์ การอักเสบของกระเพาะปัสสาวะ และอาการปวดต่างๆ ตามจักระที่ 1 การออกกำลังจักระที่ 2 ทำได้โดย ยืนตรงเท้าห่างกันเท่าระยะไหล่ มือเท้าไว้ที่สะโพกสองข้าง แล้วย่อตัวขึ้นลง 10 ครั้ง เพื่อบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องข้างต้น ระหว่างออกกำลังจักระที่ 2 กำหนดจิตไว้ที่สะดือ

จุดจักระที่ 3 เรียกว่าโซล่าเพล็กซัส Solar Plelxus มีผลต่อการสร้างเลือด ตับ กระเพาะปัสสาวะ และกล้ามเนื้อกระเพาะอาหาร มีผลต่อพลังสมอง ความคิด บุคลิกภาพ และการพัฒนาทั่วไป ระหว่างออกกำลังจักระที่ 3 กำหนดจิตไว้ที่กลางท้อง การออกกำลังจักระที่ 3 ใช้ท่ายืนเหมือนท่าที่ 2 แต่หมุนตัวไปทางซ้ายและขวา ครบรอบ 10 จะมีผลให้ระบบการย่อยอาหารดีขึ้น แก้แผลในกระเพาะอาหารและปัญหาระบบลำไส้ แก้เบาหวาน แก้การทำงานไม่ปกติขอบตับ แก้น้ำหนักตัวเกิน

จุดจักระที่ 4 อยู่ที่หัวใจ Heart ทำงานควบคุมอวัยวะใกล้เคียงด้วย เช่นต่อมไทมัสที่ส่งเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต่อมที่ลูกกระเดือก คุมการทำงานของระบบหัวใจ ปอด แขน ขา และมือ ระหว่างออกกำลังจักระที่ 4 กำหนดจิตไว้ที่หัวใจ การออกกำลังจักระที่ 4 ยืนด้วยการประสานมือไว้ที่หน้าจุดหัวใจ ดึงแขนข้างซ้ายไปด้าน แล้วกลับมาพักท่าเดิม แล้วเปลี่ยนเป็นดึงแขนขวาไปด้านหลังให้มากที่สุด แล้วกลับมาพักท่าเดิม จิตนิ่งที่หัวใจ ทำท่านี้ 10 ครั้ง ผลการออกกำลังจักระที่ 4 จะช่วยให้หัวใจทำงานดีขึ้น ดีต่อระบบความดันโลหิต การหายใจขัดข้อง และอาการปวดต่างๆ

จุดจักระที่ 5 อยู่ตรงฐานคอ หรือคอหอย หรือลูกกระเดือก หรือ อะดัมส์แอปเปิล หรือระหว่างกระดูกคอส่วนที่สาม ทำงานกับต่อมไทรอยด์ที่ควบคุมระดับน้ำในร่างกาย และต่อมพาราไทรอยด์ที่ส่งแคลเซี่ยมและฟอสฟอรัสสำหรับระบบสมอง ควบคุมการทำงานของตับ ลำคอ บ่า แขน มือ และหู รวมทั้งควบคุมระบบหายใจ การออกกำลังจักระที่ 5 ท่านั่งมือวางบนตัก ให้ก้มศีรษะจนคางชิดอก แต่ตาเหลือบสูง เมื่อหงายศีรษะไปทางหลังให้เหลือบตาลงต่ำ แล้วหมุนศีรษะตามเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง ทวนเข็มนาฬิกา 10 ครั้ง ให้ทำสลับกับการก้มศีรษะก็ได้จะได้ไม่เวียนศีรษะ การออกกำลังกายท่านี้ให้กำหนดจิตไว้ที่จักระที่ 5 คืออะดัมส์แอปเปิล ผลการออกกำลังจักระนี้ช่วยแก้คอพอก เพราะการะสม ไอโอไดน์มากเกินพิกัด เนื่องจากร่างกายขาดเกลือ แก้อาการต่อมไทรอยด์ทำงานบกพร่องได้แก่ไม่สามารถสนใจอะไรได้นาน ขาดสมาธิในการทำงาน แก้การหูตึง ปวดคอ อาการหวัดและแพ้อากาศ ไอจาม หายใจขัดข้อง แก้โรคผิวหนัง

จุดจักระที่ 6 อยู่ตรงหว่างคิ้ว เป็นระดับของต่อมพิจุอิทาริที่สร้างโกรทฮอร์โมน ต่อมไพนีลที่จัดระบบเวลาหลับหรือตื่น ควบคุมการทำงานของตา ทำหน้าที่สื่อสารด้วยจิต ที่เรารู้จักกันในนามของลางสังหรณ์ล่วงหน้า การหยั่งรู้ด้วยจิตใต้สำนึก การรู้เหตุการณ์ก่อนเกิดขึ้นจริง การออกกำลังจักระที่ 6 นั่งโดยมือทั้งสองกุมกันที่หว่างคิ้ว ตรงหน้าผาก แล้วเหยียดแขนทั้งสองขึ้นเหนือศีรษะ แล้วลดลงที่หว่างคิ้ว ทำซ้ำ 10 ครั้ง จิตกำหนดไว้ที่จุดตรงหว่างคิ้ว ผลจะแก้การปวดศีรษะ สายตาไม่เที่ยง อาการหวาดกลัว หวั่นไหว

จุดจักระที่ 7 อยู่ตรงจุดสูงสุดของกระหม่อม เรียกว่า Vertex จุดนี้ทำงานสำคัญของระบบสมอง ควบคุมสมองส่วนหน้าที่จะทำการคิด การพูด การเคลื่อนไหว และการประสานงานของร่างกายทุกส่วน การเข้าใจชีวิต การทำกิจกรรมต่างๆ การออกกำลังจักระที่ 7 มือทั้งสองประสานกันเหนือศีรษะ นิ้วชี้ขึ้นตรงทั้งสองนิ้วชี้ฟ้า แล้วยกมือทั้งสองสูงจนสุดแขนเหนือศีรษะ แล้วลดมือลงในท่าเดิม ทำซ้ำ 10 ครั้ง กำหนดจิตนิ่งไว้ที่กระหม่อม ผลจะทำให้ปราศจากอาการซึมเศร้า ป่วยทางจิต แก้อาการที่เรารู้จักกันในนามออทิสติค คือประสาททำงานบกพร่องด้านใดด้านหนึ่ง หรือเรียกว่าอีเดียทไม่สามารถเรียนรู้

การออกกำลังจักระทุกจังหวะนี้ ประสานกับการหายใจเข้าออกอย่างสัมพันธ์กับการเคลื่อนไหวร่างกายทุกระยะ และสัมพันธ์กับการกำหนดจิตหมายรู้ ณ จักระทุกจุด

เรารู้ว่า การออกกำลังกาย สร้างพลังความร้อน และสร้างเม็ดเลือดขาว (ทำหน้าที่ป้องกันโรค) การออกกำลังจิตโดยการสำรวมจิต ณ จุดใดจุดหนึ่ง เป็นการสร้างแอนโดรฟิน จากต่อมพิจุอิทาริ ณ จักระที่ 6 สำคัญสำหรับความสุข ความสงบ ความเสมอภาคของการทำงานของร่างกายทั้งหมด เรียกว่า mind-body-spirit are Hermetically sealed คือจะสร้างสมดุลของระบบร่างกายทุกส่วน ผ่อนคลายอารมณ์ หายเครียด หายปวด ปราศจากเซลล์ที่จะก่อเป็นมะเร็ง เนื่องจากความที่เซลล์ทุพพลภาพ เพราะไม่สามารถสื่อสารได้สม่ำเสมอเป็นปกติ นี่คือ วิมุตติ การหลุดพ้น