สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
สิ่งดีที่ให้แก่ชีวิตประจำวัน

เราควรให้สิ่งดีๆต่อชีวิต เพราะไม่ยั่งยืน ย่อมสลายไปตามกาลเวลาที่เรียกว่าวัย หรือ วงจรประจำที่เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดา แต่ตอนยังอยู่นี่สิ ใส่สิ่งดีๆ ต่อชีวิตไว้ก่อน เริ่มต้นด้วย อาหารเช้า ของฟรีจากซิตี้ของเมืองนางฟ้าที่มี Governor รูปหล่อ ส่งมาให้ผู้สูงอายุ ประกอบด้วยข้าวโอ้ต Oats ถั่วคีนัว Quinoa ลูกเดต Date แครนเบอรี่ Cranberry ถั่วหิมพานต์ Cashew nut ถั่ว Pepitas ถั่วอัลมอนด์ Almonds ล้วนอุดมด้วยโปรตีนโดยไม่มีโคเลสเตอรอล รวมมาอยู่ในจานเดียว ตั้งแต่ข้าวโพด ถั่วคีนัว ถัวอัลมอนด์ ถั่วหิมพานต์ เม็ดฟักทอง ข้าวโอ้ตสูงด้วยโปรตีนที่จะสร้างสายใยโปรตีนเป็นพิเศษ มีแป้ง 70% สำหรับเป็นพลังงานเริ่มแต่เช้าให้กับผู้สูงอายุ คนแก่จะได้มีพลังงานไว้ใช้ตลอดวัน ไม่นอนอย่างเดียวออกไปเดินเหินตากแดดบ้างก็ยังมีแรงพอ เม็ดทานตะวันที่เขาโรยหน้าอาหารเช้าจานนี้ก็โปรตีนสูง เรียกว่าถ้าเริ่มต้นวันด้วยโปรตีนสร้างพลังให้กล้ามเนื้อได้แล้ว แป้งก็จะรับช่วงเป็นกำลังงานใช้การได้ทั้งวัน ดูเหมือนกับว่าอะไรก็ไม่รู้ ไม่อร่อยเหมือนกินไข่กินเนื้อเลย มันคนละเรื่องกัน เริ่มต้นวันให้ถูกไว้ก่อน แล้วจะรู้เองตลอดวัน

มื้อต่อไป ประกอบด้วยเนื้อ ทำแบบห่อม้วนด้วย Tortilla เราเรียกทอร์เรีย ทำจากแป้งสาลี มีสารไนอะซิน ที่ช่วยตับนำโคเลสเตอรอลร้าย LDL ออกไปจากโลหิต แม้จะไม่เก่งกาจเท่ายาสแตติน statin ที่มีผลข้างเคียงทำให้กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรช่วยกำจัดโคเลสเตอรอลตัวร้ายเสียเลย บางทีเจ้าตัวนี้อาจทำให้ท้องผูก หรือเกิดมีแก๊ส แน่นท้องได้เหมือนกัน

อาหารทำจากเนื้อมีอยู่ 2-3 วัน นอกนั้นเป็นอาหารทำจากไก่ อาจจะเป็นเพราะไก่เลี้ยงง่ายโตเร็ว ถ้าคนแพ้ไก่ก็จะมีอาการปวดข้อ เพราะมันทำลายน้ำหล่อลื่นไขข้อที่เรียกว่า synovial fluid คนปวดข้อบางทีก็มาจากใช้มือมากเกินไป หรือกินไก่มากเกินเหตุ ก็แก้ที่สาเหตุนั้น ถ้าไก่ทำให้เกิดกรดยูริคสะสมไปทำลายน้ำหล่อลื่นตามข้อ เนื้อก็มีเหมือนกันแต่ไม่มากเท่าไก่ที่มีกรดยูริคสูงกว่า กรดนี้จะทำลายน้ำหล่อลื่นข้อแต่ไก่ก็มีส่วนดีตรงที่เนื้ออกไก่มีสานไนอะซิน และริโบฟลาวินซึ่งเป็นไวตามินบีช่วยในการหายใจของเซลล์ นำออกซิเจนเข้าสู่เซลล์ สร้างความชื่นชื้นในผิว ซึ่งก็นับว่าเป็นประโยชน์ต่อผิวอยู่ บางทีการมีไวตามินบี 6 มากเกินไป ก็อาจเกิดปฏิกิริยาต่ออาหารต่างกันไปทำให้เดินเหินไม่สะดวกติดกระดุมเสื้อไม่ได้ ก็ต้องหาสาเหตุที่แท้ ผักสลัดที่เขาเตรียมด้วยความรู้ทางโภชนาการอย่างรอบคอบ ประกอบด้วยผักสีเขียวและสีม่วงและสีส้ม มีน้ำสลัดทำจากแครอท ผักสีสดต่างๆมีสารไบโอฟลาโวนอยส์ช่วยต่อต้านสารศัตรูอิสระเช่นเดียวกับไวตามิน เอ ซี ดี อี และสารจากสมุนไพรชื่อ anticyanins และ proanthocyanadins ซึ่งจะช่วยป้องกันสายใยคอลลาเจนในผิวให้แข็งแรง และขัดขวางการสร้างทางเดินของเส้นเลือดใหม่ที่จะไปเลี้ยงเนื้องอกหรือมะเร็ง สารทั้งสองอย่างนี้จะพบได้ในผักสีแดง น้ำเงิน และม่วง เช่นดอกกะหล่ำปลีสีม่วง ผักสลัดสีม่วง รูบาร์บ ลูกพลัม องุ่น บลูเบอรี่ กำลังอยู่ในฤดูร้อน มีขายทุกตลาด ทานบลูเบอรี่ช่วยรสอาหารให้อร่อยขึ้น โดยเฉพาะอาหารเช้าจากโรตีห่อเนื้อทอดบีฟบาบาคอที่ทำสำเร็จรูปแล้วมีขายที่คอสโค เพียงแต่อุ่นพร้อมโรตีวางเนื้อรอบๆโรตีในกระทะพร้อมกัน พอเนื้อกรอบโรตีสุกก็ห่อม้วนใส่ปากกัดพร้อมแกล้มด้วยเม็ดบลูเบอรี่ชูรสยิ่งขึ้น ไม่ต้องใส่ซอสน้ำจิ้มใดๆ บางทีน้ำจิ้มทำให้ท้องเดินได้ เพราะเก่าเก็บไว้นาน

พูดถึงว่าอาหารเสริมจำเป็นหรือไม่ เลือกอย่างไร สรุปเหตุผลได้ว่า ร่างกายควรมีอาหารเสริมประกอบด้วย สารน้ำย่อย และสารช่วยน้ำย่อย (enzymes and co-enzymes) เพื่อช่วยการดูดซึมแร่ธาตุ ที่เป็นประโยชน์ให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีในการบำรุงซ่อมแซมเซลล์ ในขณะเดียวกันควรส่งผลให้ร่างกายไม่มีไขมันส่วนเกิน หรือเผาผลาญไขมันเป็นพลังงานอย่างเหมาะสม ช่วยให้ร่างกายมีแต่กล้ามเนื้อแน่นและแข็งแรง อาหารเสริมที่สมบูรณ์ประกอบด้วย สารฮอร์โมนเสริมจากต่อมไทมัส เพื่อช่วยระบบป้องกันการติดเชื้อโรค มีแร่ธาตุ และสารไวตามินธรรมชาติ และสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อการย่อย และการดูดซึม และป้อนแร่ธาตุที่มีคุณค่าต่อเซลล์ ซึ่งขาดไปในระบบการย่อย อาหารเสริมควรปลอดจากสารที่อาจทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ ไม่เคลือบด้วยยา น้ำตาล แป้ง เกลือ ข้าวโพด และยีสต์

อาหารเสริมที่ประกอบด้วยสาย่อยพิเศษ จะเพิ่มสิ่งที่ร่างกายไม่ได้รับจากอาหาร เช่น เสริมสารช่วยในการหายใจนำออกซิเจนเข้าสู่อาหารและเซลล์ โดยปกติ เราไม่สามารถควบคุมปริมาณออกซิเจนในชีวิตประจำวันได้ เช่น อาหารมีออกซิเจนไม่เพียงพอ สภาวะอากาศเป็นพิษไร้ออกซิเจน เช่นตอนที่มีไฟป่าโหมเป็นระยะทางกินเนื้อที่กว้างไกล หรือการหายใจเบาเฉพาะช่วงอก ไม่สามารถนำออกซิเจนไปถึงช่วงท้อง หรือขาดการออกกำลังกายภายในอากาศบริสุทธิ์ เป็นต้น สารย่อยในอาหารเสริมจะทำหน้าที่ป้อนออกซิเจน ให้แก่อาหารและเซลล์ ทำให้เซลล์ต่อต้านการเป็นมะเร็ง

จากผลของการค้นคว้าทางแพทย์รายงานว่า ถ้าระบบสร้างพลังงาน (metabolism) ไม่สามารถดำเนินการใช้อาหาร ในภาวะที่มีออกซิเจนสูง (ให้พลังงานสูง) เซลล์จะเริ่มสะสมของเสียและสารศัตรูอิสระอย่างรวดเร็วเกินกว่าที่ร่างกายจะสามารถขับออกระบบร่างกายได้ทันการ ของเสียและสารศัตรูอิสระจะดึงเอาไวรัสที่เป็นอันตราย ตลอดจนแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดโรคต่างๆ เช่นหวัด ลำไส้ใหญ่เป็นพิษ สารเคลือบผนังเส้นเลือดเป็นพิษ มะเร็ง และโรคเอดส์ หรือแม้ว่าจะเป็นยอดรักโคโรน่าที่อาละวาดสูงในอเมริกาขณะนี้ ถ้าเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้สูงรอบสารพิษ และศัตรูอิสระ อณูพวกนี้จะตายสลายตัวลง ถึงแม้ว่ามะเร็วสามารถเกิดจากต้นเหตุมากมายนานัปการ ด็อกเตอร์ ออตโต วอร์เบิร์ก (Dr.Otto Warberg) แพทย์ชาวเยอรมันที่ได้รับรางวัลโนเบลสองครั้ง รายงานในที่ประชุมผู้ได้รับรางวัลโนเบลที่เยอรมันมีเรื่องต้นเหตุและการป้องกันมะเร็งว่า “เซลล์ปกติในร่างกายของคนเรา ได้รับพลังงานจากการหายใจเอาออกซิเจนเข้าไป ในขณะที่เซลล์มะเร็งได้รับพลังงานจากการหมักของเสีย ออกซิเจนเป็นบ่อเกิดของพลังงานให้กับพืชและสัตว์ แต่เซลล์มะเร็งไม่แยแส กลับสร้างเซลล์ชั้นต่ำที่ทำลายเซลล์อื่นขึ้นแทนที่ เซลล์ในร่างกายคนเราจะเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งไม่ได้ ตราบใดที่เซลล์หายใจเอาออกซิเจนเข้าไปพอเพียง”