เมื่อตอนอากาศร้อน 104 องศาสัปดาห์ที่แล้ว ผู้เขียนเลือกชุดกระโปรงผ้าฝ้ายใยโปร่งทอจากเมืองไทย คิดว่าเหมาะกับอากาศที่สุดแล้ว เมื่อเดินบนถนนคอนกรีต รู้สึกถึงความร้อนระอุของพื้นซีเมนต์ที่น่องทั้งสอง ถึงเวลากลางคืนลงนอนเหยียดขาเท่านั้น ขาเกร็งปวดไปหมดทั้งแต่เท้าถึงหัวเข่า เอาละซี นวดก็ไม่หาย ทายาหม่องสมุนไพรเสลดพังพอนที่เคยได้ผลก็ไม่หาย ทาน้ำมันร้อยแปดของหมอสิงห์ก็ไม่หาย ปวดอยู่เกือบ 2 ชั่วโมง เขาว่าตะคริวเกิดจากการขาดไวตามินดี ก็อาจจะมีส่วน เพราะอากาศร้อนก็เลี่ยงการออกแดดตอนกลางวันทุกวัน จะออกไปก็เมื่อตะวันรอนลับขอบฟ้าไปแล้ว เผอิญวันนั้นต้องไปช็อปปิ้งตอนเที่ยงวันเพราะจำเป็นที่มีคนมารับ แต่เข็ดแล้วไม่ใส่กระโปรงอีก วันต่อมาก็ใส่กางเกงขายาวยีนส์และสวมเสื้อเชิ้ตยีนส์แขนยาวทับเสื้อผ้าฝ้ายแขนสั้น เรียกว่าไม่ยอมให้แสงแดดถูกผิวเด็ดขาด แต่กระนั้นก็ยังรู้สึกถึงผิวหน้าร้อนผ่าวใต้หมวกทอโปร่งจากเมืองไทย ไม่นานก็เกิดอาการวิงเวียน ดื่มน้ำผลไม้เสริมไวตามิน Gatoradec แช่เย็นที่ติดมือไปก็ไม่ดีขึ้น ท้องไส้ปั่นป่วนพาลคลื่นไส้วิงเวียน ดีว่ากลับบ้านทันการก่อนจะยุ่งยากไปกว่านั้น

นี่คือเรื่องของการปวดของกล้ามเนื้อ ไม่ใช่ว่ามาจากขาดไวตามินดีอย่างเดียว แต่อากาศร้อนก็ส่งผลต่อผู้สูงอายุได้รวดเร็ว ไม่ว่าจะป้องกันแค่ไหน ร่างกายแสดงออกทางความปวดของกล้ามเนื้อ วิงเวียนศีรษะและไม่สบายทันที เพราะไม่ใช่สิ่งปกติที่ร่างกายควรได้รับ ถึงแม้จะพัดวีก็ไม่ทันกับปฏิกิริยาของกล้ามเนื้อต่อความร้อน ปกติร่างกายเราอุณหภูมิอยู่ที่ 98 องศา ถึงเปลี่ยนเป็น 104 องศาเรียกว่าไข้ขึ้น นี่คืออุทาหรณ์ว่าผู้สูงอายุต้องอยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมกับร่างกาย สมาคมที่ดูแลผู้สูงอายุเขาเสนอให้พัดลมถ้าไม่มี

ทำอย่างไรผู้สูงอายุจะอายุยืนยาวผ่านความร้อนที่ทำท่าว่าจะร้อนขึ้นทุกปี ถึงแม้อเมริกาจะส่งยานอวกาศไปศึกษาดวงอาทิตย์ กว่าจะได้ความรู้อะไรเพิ่มเติมในระยะ 7 ปี ต่อไปที่ยานทำงาน เราก็แก่มากขึ้นด้วย ครั้งต่อไปจะออกแดดร้อนต้องมีผ้าเย็นพาดหลังคอ ดูทีรึว่าจะได้ผลอย่างไร สัตว์โลกมีวิธีเอาตัวรอดนี่นา ดูอย่างตัวแมวน้ำที่แม่คลอดไว้ที่ชายฝั่งแล้วทิ้งไว้ให้หาอาหารเอง ตัวแมวน้ำยังว่ายน้ำไม่เป็นจนกว่าอายุสัก 5 สัปดาห์ เขาไม่บอกว่าเจ้าทารกแมวน้ำอยู่รอดอย่างไร แต่ไม่ปรากฏว่ามีแมวน้ำตายบนชายหาดสักตัวเลย

หลัก 7 ประการที่ทำให้สุขภาพแข็งแรงมีอายุยืนนาน (พอจะทนกับความร้อนที่สูงขึ้นได้)

1.ทำความสบายแก่ตนเอง นัยว่ากินแล้วนอน

2.ประมาณในสิ่งที่สบาย นัยว่าอย่าทนทุกข์ทรมานกับสิ่งรอบตัว

3.บริโภคสิ่งที่ย่อยง่าย นัยว่า ถ้าเคี้ยวไม่ไหวก็อย่ากลืน อาจติดคอตายเสียก่อน

4.เที่ยวไปในภาวะอันสมควร ถ้ารู้ว่าอากาศร้อนก็ป้องกันไม่ให้เป็นอันตราย

5.ประพฤติเพียงดังพรหม คือ มีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ใจเป็นสุขใส ไม่เชื่อลองดูซิ

6.มีศีล ถ้าไม่รู้แปลว่าอะไร ให้ถามพระ หรือไปฟังเทศน์เสียบ้าง

7.คบมิตรที่ดีงาม อันนี้คือ ปิดหนทางของ Dark energy ไม่ให้ถึงตัวเรา

หลัก 8 อ. เพื่อสุขภาพที่ดี ตามแนวบุญนิยม

1.อิทธิบาท 4 ได้แก่ ฉันทะ (พอใจ) วิริยะ (เพียร) จิตตะ (จดจ่อ) วิมังสา (ตรวจ)

2.อารมณ์

3.อาหาร

4.อากาศ

5.ออกกำลังกาย

6.เอนกาย

7.เอาพิษภัยออก

8.อาชีพที่เหมาะสม

นายแพทย์เมเมท ออซ เคยพูดไว้ว่า ถ้าจะส่งเสริมให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนได้เองอันจะส่งผลให้ฮอร์โมนอื่นๆครบถ้วนไปด้วย ได้แก่ อาร์จินีน ไกลซีน ไลซีน และออร์นิทีน อันจะส่งเสริมให้จิตใจเป็นสุข อันนี้เป็นคำตอบถึงบทความฉบับสัปดาห์ที่แล้วเรื่อง “สุขใส” ว่าเพราะอะไรผู้เขียนถึงตื่นขึ้นด้วยความเป็นสุขอย่างใสบริสุทธิ์ทั่วจิตใจและร่างกาย เพราะว่าร่างกายได้รับสารอาหารและสมองผลิตฮอร์โมนดังกล่าวนี้เอง

ด็อกเตอร์ออซกล่าวว่า การจะส่งเสริมให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมนได้นั้น มี 3 ประการคือ

1.ขจัดตัวต่อต้านการผลิตโกรทฮอร์โมนในร่างกาย (นัยว่า หลัก 8 อ. ดังกล่าวข้างต้นใช้ได้)

2.หลับให้สนิท (deep sleep)

3.มีอะมิโนแอซิด คือตัวที่จะสร้างโปรตีน เช่น เนื้อแดง อันนี้เข้าข่ายคำตอบว่าเพราะอะไรผู้เขียนถึงตื่นขึ้นด้วยความสุขใส เพราะกินเนื้อสเต็ก พอรุ่งขึ้นก็ได้ผลชัด พอวันที่ 2 ก็รู้สึกไม่ชัดเท่าวันแรก

หมอออซกล่าวอีกว่า ตัวที่จะสร้างอะมิโนแอซิดอีก 2 ตัวได้แก่ ถั่วเหลืองและไข่ อันนี้ผู้เขียนเว้นไว้ เพราะตัวผู้เขียนสงสัยว่าจะได้รับผลข้างเคียงจากถั่วเหลือง คือเคยเป็นบุคคลที่โปรดอาหารจากถั่วเหลืองทุกชนิด ผลข้างเคียงที่ได้รับคือสารพัดปวด เมื่อเลิกกินอาหารจากถั่วเหลืองก็ดูว่าจะปัญหาจะยุติ แต่อาจเป็นเฉพาะผู้เขียนก็เป็นได้ ถ้าใครกินอาหารจากถั่วเหลืองแล้วไม่มีผลข้างเคียงก็เชื่อหมอออซได้ ว่าถั่วเหลืองเป็นอาหารที่ให้อะมิโนแอซิดที่จะใช้สร้างโปรตีน

แพทย์ชื่อ เจ.เจ. เวอร์จิน กล่าวว่า อาหารที่ควรเว้น 3 อาทิตย์ เพื่อให้บรรเทาอาการปวดเข่า สร้างพลังงาน และส่งเสริมสมองให้ทำงาน ได้แก่อาหารต่อไปนี้ ถั่วเหลือง ไข่ ถั่วลิสง น้ำตาลและของหวานที่ผลิตจากน้ำตาล ข้าวโพด กลูเต้น (คือสารที่ทำให้แป้งข้าวสาลีเหนียว) และนมกับผลิตภัณฑ์จากนมทุกชนิด

ท่านผู้อ่านจะเชื่อแค่ไหนก็แล้วแต่ สำหรับผู้เขียนเชื่อร้อยเปอร์เซ็นต์ และได้ผลดีตามที่แพทย์ว่าไว้ บางทีก็อดไม่ได้ที่จะกินถั่วลิสง เพราะอยู่ในไส้ช็อกโกแลตสนิกเกอร์ที่กินเป็นประจำหลังอาหารพร้อมกับถั่วพิชตาชิโอทุกวัน หมายความว่า ถั่วลิสงนิดหน่อยไม่ถึงกับทำลายคุณค่าส่วนดีอื่นๆ ของถั่วพิชตาชิโอ

อย่าลืมว่าเรายังมีวิธีอื่นที่จะรักษาความสมดุลทั้งจิตใจและร่างกาย เป็นต้นว่า เร็คคี้ จักระ สมาธิ และการสวดมนต์ภาวนา รวมทั้งการบำบัดด้วยหินและน้ำต่างๆ ขอให้ทุกคนปฏิบัติจิตและกาย ดังที่กล่าวแล้ว