สุขภาพและการบำบัด
สดศรี สุริยะฉาย
ข้อคิดจากศาสนา

ความเชื่อที่จะเป็นศาสนาใช้เวลานับพันปี ผู้เขียนมีความรู้ทางศาสนาไม่มากนัก แต่ก็ได้สัมผัสเรื่องความเชื่อไม่มากก็น้อย ตั้งแต่เด็ก มีสุภาพบุรุษสองคนมาสอนเรื่องศาสนาคริสต์ถึงบ้านสวนที่บางซื่อ ซึ่งต่อมาถูกการรถไฟแห่งประเทศไทยเวนคืนเพื่อขยายสถานีรถไฟจากหัวลำโพงออกกว้างจนถึงบางซื่อ ซึ่งใช้เวลาถึง 50 ปีหลังจากนั้นจึงปรากฏเป็นรูปเป็นร่างตามแพลน สมัยยังเด็กตอนนั้น ผู้เขียนได้แต่ติดตามคุณแม่ไปวัด พระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว เรียกว่าเติบโตกับศาสนาพุทธ รู้สึกทึ่งในภาพวาดฝาผนังและการออกแบบอาคารมากทั้งวัดและมหาราชวังที่อยู่ติดกัน เป็นศิลปะสูงในความคิดการออกแบบและศิลปะฝีมือ จนผู้เขียนรู้สึกว่าเติบโตมาพร้อมกับความสนใจในงานศิลปะเสมอมา ชอบงานวาดเขียนและงานเย็บปักถักร้อยมีโอกาสช่วยพี่สาวที่เรียนการเรือนเสาวภา ทำงานปักดิ้นและงานที่เป็นประณีตศิลป์ก็ส่งต่อมาให้ผู้เขียนช่วยทำถึงตอนอายุชราภาพ ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับคำสอนเกี่ยวกับศาสนาคริสต์อีก เพราะมีผู้รู้มาสอนอีก ผู้เขียนก็มีโอกาสเรียกร้องขอฟังนิทานอันน่าสนใจอยู่เสมอ เลยรู้จักอยู่สองศาสนา จากทั้งหมดมีอยู่ 6 ศาสนาคือ

1.ฮินดู

2.พุทธ

3.ปรัชญาจีน

4.อิสลาม

5.Judaism

6.คริสเตียน

ศาสนาฮินดู รู้เพียงแต่ว่าเป็นศาสนาของพราหมณ์ ใช้ภาษาเรียกว่า Hindi ในอินเดีย มีคำอธิบายเกี่ยวกับความเชื่อนี้เพียงว่า ชอบความสันโดษ ผู้เขียนจำได้ว่า คุณแม่ชอบอัญเชิญพราหมณ์มาทำพิธีเจิมบ้านเพื่อความเป็นสิริมงคลขึ้นบ้านใหม่ หรือเปิดธุรกิจใหม่ ตอนนั้นยังไม่เข้าใจว่า พราหมณ์มาจากศาสนาฮินดู แต่ก็มีความเคารพนับถือในความศักดิ์สิทธิ์แห่งพิธีของพราหมณ์เป็นอย่างสูง

ศาสนาพุทธ นับว่าเป็นศาสนาคู่กับชีวิตนับแต่เกิด มีหลักง่ายๆ เรียกว่า สภาวธรรม หรือ ขันธ์ห้า เป็นอนิจจัง คือ ความไม่เที่ยง ทุกขัง คือความไม่แน่นอน อนัตตา คือ ความไม่ใช่ตัวตน หมายถึงว่า อย่าไปยึดถือว่าร่างกายนี้เป็นของเรา เพราะย่อมมีการเจริญเติบโตจนในที่สุดก็แตกสลายไปอย่าไปเป็นทุกข์กับความเปลี่ยนแปลงของสังขาร เพราะเป็นอนัตตา คือความไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่คน สัตว์หรือสิ่งของ เพราะมาจาก 5 สิ่งที่เรียกว่า ขันธ์ 5 ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ล้วนแต่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป เพราะมาจากธาตุต่างๆ เช่น ดิน น้ำ ลม ไฟ ก็กลับคืนไปสู่รูปเดิม หรือเข้าใจง่ายๆ คือ เนื้อหนังกระดูกกลับคืนสู่ดิน ลมหายใจออกจากร่างกายกลับสู่ภาวะอากาศ โลหิตและน้ำเหลืองหรือน้ำอื่นๆกลับคืนสู่น้ำ ไฟหรือความอบอุ่นในร่างกายก็ละร่างกายไปสู่บรรยากาศแห่งแสง หมายความตามวิทยาศาสตร์ที่เซลล์ประกอบด้วยน้ำ มีภาวการณ์ติดต่อระหว่างกันด้วยแม่เหล็กและไฟฟ้า ทำหน้าที่ transmission ระหว่างเซลล์ เมื่อสมองขาดภาวะสื่อสารก็เป็นอันยุติการทำงานของระบบชีวิต เรียกว่า อนิจจัง คือความไม่เที่ยง ทุกขัง คืออยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ และอนัตตา คือ ไม่มีตัวตน เรียกว่า ขันธ์ 5 ได้แก่ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ

ปรัชญาจีน เข้าใจเอาเองว่ามาจากความหมายของปรัญญาตะวันออก เกี่ยวกับ ปรัชญาเซ็น และปรัชญาเต๋า ที่เน้นอธิบายเกี่ยวกับปรัชญาสำหรับการปฏิบัติต่อชีวิตจริงเพื่ออบรมจิตใจ ความอ่อนน้อมถ่อมตน การให้ความอุ่นใจ ให้กำลังใจ ให้คำสั่งสอนและวิชาการที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของผู้อื่น เพื่อเป็นแนวทางปกป้องมิให้ชีวิตอยู่ในความลำบากในภายหน้า รูปปั้นที่นิยมมีไว้ประจำบ้าน เช่น ฮกลกซิ่ว ให้ความหมายแห่งสุขภาพดี อายุยืน และลูกหลานมากมาย เป็นแนวทางแห่งคติในการดำรงชีวิต

ศาสนาอิสสาม เรียกผู้นับว่าชาวมุสลิม เรียกศาสดาว่าพระอัลล่าห์ หรือ พระโมฮัมมัด มีแนวทางในการดำเนินชีวิตที่เคร่งครัดเป็นระเบียบในการกินอยู่ เพื่อดำรงสุขภาพอันดี เช่นหลีกเลี่ยงการบริโภคไขมันร้าย หรือ LDL เช่นจากเนื้อหมู การดำรงชีวิตประจำวันประกอบด้วยระเบียบแบบแผนเคร่งครัด

ศาสนา Judaism เป็นศาสนาเดียวของชาวยิว (Monotheistic religion) มีหลักการเน้นเรื่องจิตวิญญาณ และ ประพฤติธรรมเคร่งครัดในไบเบิ้ลและ Talmud ซึ่งเป็นกฎระเบียบของศาสนา

ศาสนาคริสเตียน นับถืออย่างกว้างขวางในปรัชญาและคำสอนแห่งพระเยซู หลักการและการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันกำหนดตามความถูกต้องที่จะอำนวยสุขภาพจิตและร่างกายให้ประสานกันสูงสุดและเป็นไปได้ในแง่ของวิทยาศาสตร์ Biology ที่เราศึกษาเกี่ยวกับกำเนิดแห่งชีวิต และมีปรากฏอยู่ปัจจุบัน

ทุกอย่างเป็นไปตามความสำรวมของจิต ดังที่พระอาจารย์สุภณกล่าวถึงขันธ์ 5 เกี่ยวกับรูปในแง่ของวิทยาศาสตร์ รูปเกิดจากธาตุ 4 ดิน น้ำ ลม ไฟ หรือมีการจุติจากเพศชายที่วิทยาศาสตร์เรียกว่า สเปิร์ม ผสมกับไข่ เรียกว่าเพศหญิง วิทยาศาสตร์ก่อให้เกิดร่างที่สร้างจากธาตุ 4 มีเนื้อหรือหัวใจ กระดูกหรือดิน น้ำหรือโลหิต กับไฟ คือการสื่อสารระหว่าง แม่เหล็ก กับไฟฟ้า เป็นปฏิกิริยาของสารประกอบโดยธรรมชาติ ของแม่เหล็กทำงานกับประจุไฟฟ้า ก่อให้ชีวิตก่อตัวเป็นรูปร่าง มีการสื่อสารที่เรียกว่า จิต สร้างวิญญาณอยู่ในกาย ความเชื่อต่างๆ จะสัมฤทธิ์ผลอยู่ที่การปฏิบัติตน และการบริโภคเพื่อสร้างกาย โดยจิตบงการ การได้เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระดำเนินอย่างแท้จริง มีสายลมโบกพระจีวรพริ้ว พระหัตถ์เคลื่อนไปตามจังหวะการย่างก้าวพระบาท เป็นไปได้จากการมีองค์ประกอบของขันธ์ 5 คือ “รูป” ของดิน น้ำ ลม ไฟ “เวทนา” คือ ความว่างของจิต ไม่มีสุขไม่มีทุกข์ “สัญญา” คือ ปราศจากความคิด ในขณะที่สมาธิหรือสภาวะจิตว่าง สร้างความสงบแห่งจิต “สังขาร” คือการปรุงแต่งไม่เกิดในขณะสมาธิ สมองสามารถทำงานตามการประสานงานของพลังแม่เหล็กและไฟฟ้าในตัวเซลล์โดยไม่ขาดตอน เรียกว่า Transmitter ทำงานได้ การส่งต่อข่าวสารก็ตลอดรอดฝั่ง การสร้างเซลล์ใหม่ที่แข็งแรงย่อมบรรลุผลสำเร็จ ประกอบด้วย “วิญญาณ” มาจุติที่จุดเริ่มต้นที่หัวใจของเซลล์หน่วยเล็กๆ คือที่ DNA หรือตัวสำคัญของโครโมโซมในเซลล์ที่สร้างชีวิต ประกอบด้วยตัวสำคัญสองตัวคือ ฟอสเฟตกับน้ำตาล เกาะเกี่ยวพันกันแน่นหนา เชื่อมโยงด้วยโซ่ของไฮโดรเจน เป็นระเบียบที่จะบ่งบอกสายพันธุ์กำเนิดต่อไป

ด้วยเหตุนี้ จิตจะบงการ กายจะรับสัญญาณ ทำงานใน 10 ระบบได้สมบูรณ์ ความเชื่อเริ่มต้นที่จิตปรับปรุงสื่อสารระหว่างเซลล์นับพันปี จนกระทั่งเกิดเป็นกาย จิตและ การทำงานของเซลล์ จนเรียกว่า ศาสนาของเผ่าพันธุ์

สรุปข้อคิดว่า องค์พระศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ทรงจากไป 2564 ปี บวกกับ 45 ปีที่ทรงสั่งสอน และ 6 ปี ที่ทรงดำรงพระจิตว่างและบรรลุพระอนุตตรสัมโพธิญาณ หรือ ตรัสรู้ เป็นระยะเวลาแห่งภาวะจิตบริสุทธิ์ สามารถที่จะเห็นอะไรได้ เป็นคำตอบที่ผู้เขียนเห็นพระองค์ทรงดำเนินอยู่ในภาวะจิตว่างหรือสมาธิ