คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



"ฉลองครบรอบ 60 ปี...ใน พ.ศ.2555
จากสถาบันเกริกเป็น มหาวิทยาลัยเกริก"
จากคืนวัน ฝันเป็นเดือน เคลื่อนเป็นปี
คุณความดี มิได้ หายไปไหน
คิดถึงท่าน อาจารย์เกริก ผู้จากไป
เดือนดวงใด ก็ไม่เหมือน เดือนดวงเดิม

โดย...อ.พิมล แจ่มจรัส


มหาวิทยาลัยเกริก
ประวัติความเป็นมาของมหาวิทยาลัยเกริก

มหาวิทยาลัยเกริกได้เปิดดำเนินการเป็นครั้งแรกที่อาคาร ก. ราชดำเนิน เมื่อปี พ.ศ. 2495 โดยท่านอาจารย์ ดร.เกริก มังคละพฤกษ์ (พ.ศ.2458-2521) ซึ่งเป็นนักการศึกษาผู้มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ท่านอาจารย์เกริกได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางการศึกษาจากมหาวิทยาลัย David & Elkins สหรัฐอเมริกา สาหรับจุดมุ่งหมายในการตั้งมหาวิทยาลัยฯในระยะแรกนั้น เพื่อดำเนินการเรียนการสอนด้านภาษาอังกฤษ แต่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากท่านเป็นผู้มีความสามารถเป็นพิเศษในด้านภาษาอังกฤษทั้งในด้านการเรียนการสอนและประสบการณ์จากการทำงาน นับว่า ท่านเป็นคนไทยคนแรกที่นำการสอนภาษาอังกฤษสมัยใหม่ ซึ่งมุ่งให้นักศึกษาได้มีความรู้ในหลักภาษาและสามารถใช้ภาษาอังกฤษอย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนชื่อของสถาบันฯ ตามที่ทางการอนุญาตในขณะนั้น คือ “โรงเรียนภาษาและวิชาชีพ” แต่คนทั้งหลายรู้จักชื่อโรงเรียนของท่านในนามโรงเรียนอาจารย์เกริก ตลอดมา

พ.ศ. 2504 ท่านได้เริ่มจัดหลักสูตรการเรียนการสอนในแผนกบริหารธุรกิจและการเลขานุการ ซึ่งกำหนดรับนักเรียนที่จบ ม.ศ.5(ม.8)เข้าศึกษาต่อในหลักสูตร 3 ปี (Diploma)

พ.ศ. 2507 ท่านได้เริ่มจัดหลักสูตรอีกระดับหนึ่ง โดยรับนักเรียนที่จบ ม.ศ.3 หรือ ม.6 (ในปัจจุบันเรียกว่า “ม.3”) เข้าศึกษาต่อในหลักสูตรอาชีวศึกษาชั้นสูง

พ.ศ. 2508 โรงเรียนภาษาและวิชาชีพได้ย้ายไปดำเนินการทื่ ต.บางด้วน อ.เมือง สมุทรปราการ ใช้ชื่อว่า “โรงเรียนเกริกวิทยาลัย”

พ.ศ. 2512 ได้มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติการจัดตั้งวิทยาลัยเอกชนซึ่งอนุญาตให้ภาคเอกชนจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา โรงเรียนเกริกวิทยาลัยจึงได้ยื่นเรื่องขอจัดตั้งเป็นวิทยาลัยเอกชน เปิดดำเนินการสอนใช้ชื่อว่า “วิทยาลัยเกริก” ซึ่งมีการบริหารงานที่แยกจากโรงเรียนเกริกวิทยาลัย เกริกวิทยาลัยได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัย ให้จัดตั้งวิทยาลัยเอกชนได้ตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2509 ซึ่งถือได้ว่า เป็นกลุ่มของวิทยาลัยเอกชนกลุ่มแรกในประเทศไทยและในปีเดียวกันนั้นเอง วิทยาลัยฯ ได้รับอนุมัติให้เปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจและคณะเศรษฐศาสตร์

พ.ศ. 2516 ปริญญาของมหาวิทยาลัยฯ ก็ได้รับการรับรองมาตรฐาน มีศักดิ์และสิทธิเทียบเท่ามหาวิทยาลัยของรัฐทุกประการ โดยเหตุที่วิทยาลัยเกริกมีความต้องการที่จะมุ่งเน้นในการจัดการศึกษา ด้านการจัดการเป็นหลัก จึงได้รับการอนุมัติชื่อจากทบวงมหาวิทยาลัย ให้ยกฐานะเป็น สถาบันเทคโนโลยี่สังคม(เกริก) ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2530

สถาบันฯ ได้เปิดสอนหลักสูตรทั้งระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ในหลายสาขาวิชาและด้วยความพร้อมในทุกๆด้าน เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2538 สถาบันเทคโนโลยี่สังคม(เกริก)ได้รับอนุญาตจากทบวงมหาวิทยาลัยให้ยกฐานะเป็น “มหาวิทยาลัยเกริก”เป็นต้นมา

ปี พ.ศ. 2555 นี้ เป็นปีที่ครบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งสถาบันเกริก จนเป็น “มหาวิทยาลัยเกริก”


ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยเกริกมีคณะต่างๆ ดังต่อไปนี้ :-
- บริหารธุรกิจ
- ศิลปศาสตร์
- รัฐศาสตร์
- นิติศาสตร์
- เศรษฐศาสตร์

เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 60 ปี ของการก่อตั้งสถาบันเกริกจนเป็น มหาวิทยาลัยเกริก ส.ท่าเกษม ซี่งเป็นศิษย์เก่าในปี ค.ศ. 1965 หรือ พ.ศ. 2508 จึงอยากจะทำประโยชน์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับสถาบันที่ให้ความรู้ทางภาษาอังกฤษ พิมพ์ดีด ชวเลข จำไม่ได้ว่าใครแนะนำให้ไปเรียนที่อาจารย์เกริก แต่จำได้ว่าอยู่ใกล้บ้านสะดวกต่อการเดินทางมาก คือปกติตัวเองจะวนๆ อยู่แถวนั้น เดิมทีเดียวสถาบันเกริกอยู่ในอาคาร ก. ถนนราชดำเนิน ติดกับอาคารวิทยาศรม เจ้าของยาธาตุน้ำแดง, ยาธาตุวิทยาศรมนี้มีชื่อเสียงโด่งดังมาถึงอเมริกา เคยใช้มาเมื่ออยู่เมืองไทย ปัจจุบันยังคงใช้อยู่เวลาจุกเสียด ท้องแน่นเฟ้อ นานๆ ใช้ที ขวดหนึ่งเลยอยู่เป็นปี คราวที่แล้วได้มาจากร้าน BANGKOK MARKET ที่ลาสเวกัส เพราะ BANGKOK MARKET ที่แอล.เอ. ขาดตลาด ป่านนี้คงมีแล้ว ต้องเรียนให้ทราบว่าคนละเจ้าของไม่ใช่สาขา

จะคุยเรื่องสถาบันอาจารย์เกริกก็เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาไปถึงยาธาตุน้ำแดง (สไตล์ "ส.ท่าเกษม") ได้ออกตัวไปทาง คุณณัฐ วัชรเสถียร นายทะเบียนรุ่น 1965 แล้วว่า ไม่สู้จะชำนาญในด้านสารคดี คงจะออกมาในรูปคุยกันสบายๆ ในวันเสาร์ ก่อนจะเขียนเรื่องนี้ได้ขอข้อมูลไปทางคุณณัฐที่เมืองไทย เธอได้ให้ความร่วมมือเกินร้อย ขอขอบคุณมาด้วยจากเพื่อนร่วมรุ่นที่ห่างไกล ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เมื่อคุยถึงยาธาตุน้ำแดงของบริษัทวิทยาศรมเลยจะขอคุยถึง เนื้อทอด-ไข่ดาว-น้ำปลาพริกบีบมะนาว อาหารกลางวันจานโปรด ระหว่างเรียนหนังสืออยู่ที่ อ.เกริก เชื่อว่าเพื่อนๆ คงจะไปฝากท้องที่ร้านนี้เช่นกัน ที่จริงไม่ใช่ร้านอาหารแบบทั่วๆ ไป แต่เป็นพื้นที่ว่างระหว่างอาคาร อ.เกริก และอาคารวิทยาศรม บนถนนราชดำเนิน เจ้าของกิจการทำอาหารเลยตั้งโต๊ะเก้าอี้ตรงนั้นซึ่งมีไม่มาก เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรี เครื่องดื่มคงจะเป็นโอเลี้ยงแก่ๆ หวานๆ เย็นเจี๊ยบ เพราะใส่น้ำแข็งเต็มแก้ว ดูดโอเลี้ยงทีเดียวก็หมดแก้วแล้ว รอให้น้ำแข็งละลายจึงค่อยดูดกันใหม่ (ฮา!) เชื่อไหมยังจำผู้ชายที่เสิร์ฟได้ ถ้าให้ชี้ตัวในรูปคงจะถูกเป๋งเลย !

ตั้งแต่ วลี (แอ๊ว) สุขพิศาล โชติกวนิก ติดต่อมา ก็นั่งคิดนอนคิดว่าใครชักชวนให้ไปเรียนที่ อ.เกริก น่าจะเป็นเพื่อนที่จบ 8 จากเซ็นโยเซฟคอนแวนต์ด้วยกัน แต่ทำไมจึงไปอยู่รวมกลุ่มกับเพื่อนใหม่ 3 คน จาก ร.ร.ราชินีล่าง ปากคลองตลาดซึ่งแก่นทั้งคู่ มีชื่อเล่นว่า ปุก และดำ ส่วนอี๊ดนั้นเรียบร้อยเป็นผ้าพับไว้ รักเพลงสุนทราภรณ์เป็นชีวิตจิตใจ ไม่ค่อยพูด ยิ้มอย่างเดียว ถ้าจะพูดก็ไม่ทันพวกเราแถมพูดค่อยอีกต่างหาก จากอัจฉรา (อี๊ด) ปัทมพงศ์ กลายเป็น อัจฉรา กรรณสูต เจ้าแม่เจ็ดสี สถานีโทรทัศน์ ในอดีต ปัจจุบันมีร้านอาหารระดับไฮโซและที่สำคัญเป็นนักร้องกิตติมศักดิ์ของวงสุนทราภรณ์ นอกจากจะเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญ ไม่ทราบจะเรียก "แม่ยก" ได้ไหม สรุปแล้วคือเรา 4 คนจะรวมกลุ่มกันตลอดในห้องพักชั้นล่างของอาคาร รวมกลุ่มกันทีไรจะคุยเสียงดังไม่เกรงใจรุ่นพี่ หัวเราะกันได้ทุกเรื่อง เป็นชีวิตที่มีความสุขมากในช่วงนั้น เรียน(น้อย) เล่น(มาก)

คิดเอาเองว่าผู้ที่มาศึกษาที่ อ.เกริก นี้มีเหตุผลต่างๆ กันเช่น กลุ่มเราสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ติด บางคนต้องการมาเรียนภาษาอังกฤษก่อนไปศึกษาต่างประเทศเพราะ อ.เกริกมีอาจารย์สอนภาษาอังกฤษเป็นชาวอังกฤษ สำเนียงอังกฤษ ของแท้ว่างั้นเถอะ บางคนต้องการมาเรียนประกอบวิชาชีพ-อาชีวะ เพราะมีทั้งพิมพ์ดีด ชวเลข ภาษา แผนกบริหารธุรกิจและการเลขานุการ เป็นครั้งแรกของพวกเรา 4 คนที่เรียนร่วมกับ น.ร.ชาย เพราะเรามาจาก ร.ร.ไทย และ ร.ร.ฝรั่งที่มีผู้หญิงล้วนและเข้มงวดมาก ไม่ว่าการพูดจากริยามารยาท ถูกอบรมกันมาอย่างดี เมื่อมาเรียนที่นี่เลยเหมือนเปิดโลกกว้าง พบเพื่อนทั้งหญิงและชายจากทุกมุม จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่บางครั้งก็เกิดไม่ลงศรกัน ซึ่งก็สนุกดี !

ยังจำวันรับ "น้องใหม่" ได้ ที่อ.เกริกไม่มีลิฟท์จึงต้องไต่บันได 3 ชั้น ตัวเองเป็นคนชอบนุ่งผ้าแคบ (ตามสมัยนิยม) และใส่ส้นสูง ไม่ทราบทำได้อย่างไรตลอดปี วันรับน้องใหม่ก็เช่นกันระหว่างปีนหรือไต่บันไดจะมีรุ่นพี่คอยต้อนรับตามชั้น มาถูกป้อนสาคูไส้หมูของโปรดเอาตอนไหนไม่ทราบ เข็ดจนตาย! จนป่านนี้ยังขยาดสาคูไส้หมู (ไก่) อยู่ เพราะเคี้ยวพริกขี้หนูดีๆนี่เอง พี่ๆใจดีใส่พริกขี้หนูแทนหมูซะนิ ! น้ำตาร่วงออกมาเป็นเม็ดๆ (เม็ดพริกขี้หนู) ดีใจมากๆ ที่สอบถามไปทางคุณณัฐและ ปุก-ดำ-อี๊ด ยังมีชีวิตอยู่ มีสุขภาพดี (คิดเอาเอง) ปุกตอนนี้อยู่ประเทศเยอรมันนี ดำจบฟิลิปปินส์ อี๊ดจบจาก ม.เชียงใหม่ ที่เขียนว่า ยังมีชีวิตอยู่ เพราะเห็นรายชื่อเพื่อนๆ ที่ล่วงลับไป 23 ราย รุ่น 1965 นี้มีเกิดปี พ.ศ. 2484 ถึง 2489 แสดงว่าบางคนก็ถึงเลข "7"กันแล้ว วันที่ประทับใจที่สุดระหว่างศึกษาอยู่ที่ อ.เกริก เห็นจะเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นที่ปากน้ำ เป็นปีที่สถาบันย้ายขยายจากอาคารราชดำเนินไปที่ใหม่ มีงานฉลองรื่นเริง ส.ท่าเกษมรับหน้าที่จัด "เต้นรำกำเคียว" ถึงต้องหาเพื่อนหญิงชายที่พอจะรำละครได้มาเป็นคู่ๆ และได้เชิญอาจารย์จากศิลปากรมาฝึกสอนให้ที่บ้าน "วชิระพัลลภ" ถนนพระอาทิตย์ เลิกเรียนแล้วก็เดินกันมาหรือขึ้นรถเมล์ เพราะอยู่ใกล้กับอ.เกริก ซ้อมกันจนเย็น พอถึงวันงานได้นัดพบไปขึ้นรถเมล์ที่ท่าช้าง มีรถเมล์สายท่าช้าง-ปากน้ำ ไปยังไม่ถึงปากน้ำ นึกขึ้นได้ว่าลืมถุงชุดชาวนาเต้นรำกำเคียวไว้ที่ อ.เกริก เลยขลุกขลักเล็กน้อยมีนักศึกษาชื่อ โด่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในนักแสดงรำคู่กับอี๊ด อาสาขึ้นรถเมล์ย้อนกลับไปเอาถุงเสื้อผ้าและ PROPS ส.ท่าเกษมได้คู่กับ เสรี (จุ๋ง) จารุจินดา แชมป์เทนนิส เราอยู่คู่หน้า เสียดายไม่มีรูปเลย สมัยก่อนเกือบ 50 ปีมาแล้วไม่ค่อยมีใครเล่นกล้อง ขอปิดคอลัมน์ด้วย NEWSLETTER 2012 เพื่อนผู้อยู่ห่างไกลขอส่งความรักและระลึกถึงมายังเพื่อนร่วมรุ่นทุกๆ คน โปรดรักษาสุขภาพ ได้ข่าวว่าที่กรุงเทพฯ ฝนตกบ่อย ".....ฝนที่ตกทางนู้น หนาวถึงคนทางนี้...."


Krirk 1965 Newsletter Vol.4 – October 2012

งานทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่อาจารย์เกริกและคณาจารย์และอุทิศให้เพื่อนๆ ที่ล่วงลับไปแล้วที่วัดปทุมวนารามได้รับกุศลโดยถ้วนทั่วทุกรูปทุกนามและผู้ไม่ได้เอ่ยชื่อ ณ ที่นี้ ได้รับกุศลจากเพื่อน ๆ ที่รักของท่านทุกคน...ขอขอบพระคุณท่านอาจารย์คณิศวร์ วรรณโชติ ที่ได้สละเวลา กรุณามาเป็นประธาน และท่านมาถึงวัดก่อนพวกเราเสียอีก...ขอขอบคุณเพื่อนๆที่ได้สละทรัพย์นำของมาช่วยงาน เช่น คุณวรุณ นำขนมจีบมาถวายพระและพวกเรามีส่วนได้รับด้วยความอร่อย อย่าลืมครั้งต่อไปด้วยนะครับ...ลักษณจิต เล็ก นำข้าวเหนียวเปียกลำไยมาถวายพระและมะม่วงน้ำปลาหวานศรัทธาของท่าน ขอให้เจริญ ๆ นะครับ... คุณวิมล ปานขำ อาสารับจัดอาหารถวายพระและบริจาคเงินอีก ห้าพันบาท สาธุ ๆ ๆ...คุณพรเพ็ญ(จี๊ด)และคุณตุ๋ย พูนสุข วิสุทธกุล สามี เพื่อนผมเองนำขนมตาลมาร่วม...คุณเป้า พิไลพรรณ กำลังสำคัญของพวกเรา รับจองสถานที่และจัดดอกไม้ถวายพระ แต่น่าเสียดายที่ท่านเจ้าคุณอมรไม่สามารถมาร่วมงานได้ เพราะต้องเข้าวัง...เอกชาต สมพงษ์รีบมาและช่วยดำเนินพิธีการไปด้วยความเรียบร้อย...ยรรยง เจริญพงษ์ รับอาสาช่วยถ่ายรูปให้พวกเราได้ชมกัน ขอบคุณครับ...ฟองนวล เจียมวิจักษณ์และภรณี(นิด) อาณาวรรณ ช่วยดูแลการเงินบริจาคและทำบัญชีให้เรียบร้อย ขอให้อยู่ช่วยกันนาน ๆ นะครับ...ต้องขอขอบพระคุณ เรียกแบบนี้เลย เพราะว่า ชื่นชมกับน้ำใจและซาบซึ้งกับการที่คุณสมพงษ์ ฉัตรรัตนาและคุณแดง จิระพร สืบศิริได้บริจาครายละ 1 หมื่นบาท เข้ารุ่นและทำบุญ รับรองว่า ผมจะตั้งใจทำงานกลับคืนให้เพื่อน ๆ ได้มีความสุข ส่วนรายอื่น ๆ มีในรายการละเอียดแนบมาพร้อมนี้ แต่ที่มีน้ำใจส่งเงินมาจากแดนไกล ได้แก่ โชติช่วง(ติ๋ว) 1 พันบาทและ วนิดา(แดง)4 พันบาท สาธุ...งานนี้ มีผู้ที่ไม่เคยมาร่วมงาน ได้มาร่วม รายแรก ได้แก่ ดร.วิทยา กฤตลักษณ์กุลได้ถ่ายรูปคู่กับอาจารย์คณิศวร์ แต่มีธุระ ต้องกลับก่อน...รายที่สอง ได้แก่ ภัทกา(ตุ้ย) ชาติบุญเกิด สาวปากน้ำ มาแบบว่า จำใครไม่ได้ พอเอ่ยชื่อเพื่อนที่ตายแล้ว บอกว่า นี่ เพื่อนฉันตายหมดแล้วหรือนี่ ตุ้ยครับ น้ำใจของตุ้ยที่มีให้เพื่อนนั้น ต้องคารวะให้ด้วยความจริงใจ...ทัศนีย์(แอ๊ว) ชินประทีป รีบมาบริจาคและนำรูปมาให้ กลัวโดนทวงอีก นับว่า น่ารักอีกท่าน...อภิวันท์(แดง) วิศเวศวร มาด้วยตนเองและในนามกำพล(ธรรมนูญ) สามี ขอให้หายวันหายคืนนะครับ...อีกท่าน อรุณี(แต๋ว)(ทาชอบ) กลิ่นมาลี ขนาด ไม่สบาย ขอมาก่อน แล้วเดี๋ยวกลับไปเข้า รพ. ใหม่ เพราะ ไม่ได้มีโอกาสมาพบปะเพื่อน ๆ เลย ต้องมาให้ได้ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรงนะครับ...นลินี สนิทวงศ์ สละเวลามา เนื่องจากได้รับการร้องขอจากผม น่ารักมาก แต่จำเพื่อน ๆ ไม่ค่อยได้ และมีโรคภัยไข้เจ็บประจำตัวอีก และบริจาคให้รุ่นด้วย ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ...ทนง สนิทวงศ์ ตั้งใจมามาก มานอนรอที่ กทม. ก่อนมาวัด ได้รับความห่วงใยจากเพื่อนฝูงเป็นอันมาก รวมทั้งเพื่อนๆที่ไม่ได้มายังเป็นห่วงคุณทนงอยู่เสมอ เลยให้คุณไพศาล วิธีเจริญ ไปส่งให้กลับได้โดยสวัสดิภาพ ไม่รู้ว่าพากันไปไหน ไม่เห็นรายงานมาให้ทราบเลย...คุณกาญจนาคร่าเคร่งกับการจัดงานลืมของไว้บนรถเมล์ ป่านนี้ ยังหาไม่เจอ เอาเป็นว่า คนดีตกน้าไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แต่เสียทรัพย์สินไปไม่ดีแน่ เสียใจด้วยครับ ฟาดเคราะห์ไปอีกท่าน...คุณแป๊ด ชูศรี เขม ธรรมเดินทางไปรับคุณเป้าตั้งแต่เช้า...คุณจุรี จันทรสุข มากับคุณเยาวลักษณ์ หาญสมบูรณ์ เพราะกลัวหลง ยังได้นำเงินที่คุณสุวรรณี(จู) บริจาคมาช่วยงานด้วย สาธุ...พี่นิด พูนศรี คุปติวิทยากุล หอบขนมปังกล่องใหญ่มาให้คุณทนง กลัวอดอยาก เพื่อน ช่วยแบ่งมากินกันบ้าง เพื่อนไม่ชอบม่ายช่ายเหรอ...คุณแจ๋ว ระวิวรรณ และคุณเสาวนีย์ ควงคู่กันมา เพราะหายไปหลายงาน คราวนี้ไม่พลาด ดีใจที่ได้พบเพื่อน ๆ มาก เดี๋ยวจะอัดรูปส่งไปให้อีกนะจ้ะ ไม่ต้องทวงถามจ้ะ...เฮ้อ เล่นเอาเหนื่อย เพราะเพื่อนไปในงานเยอะ รวมแล้ว นับได้ 40 ท่าน มีภรรยาผมและเด็กอีกสอง รวมเป็น 43 แต่ไม่ได้เอามาแทงหวย อาจารย์เกริกให้หวย 43 ออกข้างบนจริง ๆ มีคนอธิษฐานว่า ถ้าอาจารย์เกริกทราบได้ด้วยญาณ ขอให้ถูกหวย หวยออกตรง แต่ไม่มีคนแทง 555 ดีแล้วครับ เราไม่เล่นการพนัน...ยุทธนา(จิบ) เหมือนเดิม คือ มาช่วยชมเชยผู้ที่มางาน ให้กาลังใจและรับแขก น่าจะเป็นฝ่ายต้อนรับจะดีกว่ามั้ง...อ้อ... เกือบลืมไปว่า มานพ เกราะทอง ได้รายชื่อเพื่อนที่ล่วงลับไปแล้วมา สรุป มียอด 23 ท่าน คณาจารย์ อีก 9 ท่าน ขอกุศลที่เพื่อน ๆ ทุกท่านได้ทำบุญและส่งกำลังใจมาให้จงเป็นพลังปัจจัยแก่ผู้ล่วงลับทุกท่านได้รับสิ่งที่ดีงาม และเราจะจัดให้เป็นประเพณีทุก ๆ ปี ต่อไป เป็นข่าวปรกติ...ขณะนี้ การจัดทำหนังสือรุ่น ที่พยายามบอกเพื่อน ๆ ให้ส่งที่อยู่ ส่งรูปมาให้ เพื่อจะได้ปิดเล่มหนังสือ คงแจ้งให้ทราบครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายแล้วว่า ท่านใด ที่ยังไม่ได้ส่งรูป ที่อยู่ กรุณาติดต่อผม (ณัฐ) คนเดียว เท่านั้นครับ เพราะเดี๋ยวจะไปวุ่นวายกับคนอื่น หนังสือนี้ จะออก ต้นเดือนธันวานี้ มีค่าใช้จ่าย แต่ไม่เก็บ ให้ตามแต่ศรัทธา ถ้ามาในงาน จะได้รับก่อน ผู้ที่อยู่ ตจว. จะจัดส่งไปให้ครับ ไม่ได้ ไม่ดูแล้ว จะเสียใจ ติดต่อ ณัฐ นายทะเบียน โทร 08-6655-9790 หรือ 0-2755-9490 (เฉพาะ ตอนบ่ายถึงดึก ได้ครับ ไม่ต้องเกรงใจ) มีเพื่อนบางท่าน ไม่ประสงค์จะมาร่วมงาน หรือไม่ประสงค์จะติดต่อกับเพื่อน กรุณาแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ ผมจะไม่นำไปเผยแพร่ให้ท่านเดือดร้อน แต่ต้องเข้าใจเหมือนกันว่า เพื่อน ๆ ก็รักท่าน ห่วงใยท่านเหมือนกัน จะทำการถอนชื่อออกจากระบบนะครับ แต่ผมจะเก็บรักษาไว้แต่ผู้เดียว สำหรับส่งเอกสารความเคลื่อนไหวของเพื่อน ให้ท่านทราบ...การจัดงานเลี้ยงรุ่นครั้งต่อไป มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพื่อความเหมาะสมกับผู้จัดและทำให้มีเพื่อนจาก ตปท. มาร่วมงานด้วย กำหนดให้เลื่อนจากวันอาทิตย์ 25 พฤศจิกายน เป็นวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม ส่วนสถานที่ จะแจ้งให้ทราบต่อไป สอบถามมาที่ ณัฐ แต่ผู้เดียว นะครับ เดี๋ยวจะเป็นคนละเรื่องเดียวกัน เอ้า มาอวยพรวันเกิดกันดีกว่า สำหรับเดือน ตุลาคมนี้ มีผู้เกิดจำนวน 5 ท่าน วันที่ 5 ต.ค. วนิดา แดง ฝันเชียน, วันที่ 11 ต.ค. เรืองเกียรติ ต้อย, วันที่ 13 สิรินาถ เผดิมศรี วันที่ 27 นุชนาฎ อ๊อด วันที่ 31 กอบพร นิด เพื่อน ๆ ขออวยพรให้ทุกท่านที่เกิดในเดือนตุลานี้ มีความสุข ด้วยจตุรพิธพรชัย ร่ำรวยด้วยลาภยศ สรรเสริญ สุขภาพแข็งแรง สมปรารถนาทุกประการนะครับ...สุดท้ายนี้ ขอให้เพื่อนเกริก 1965 ทุก ๆ ท่านดูแลสุขภาพ อย่าให้เจ็บไข้นะครับ เพราะฝนตกทุกวัน และขอให้ได้รับเพื่อน ๆ สมาชิกใหม่มาร่วมอีกนะครับ


ประชาสัมพันธ์ งานพบปะสังสรรค์ครั้งที่ 3 ณ โรงแรมบางกอกชฎา ถนนรัชดาภิเษก ในวันอาทิตย์ที่ 2 ธันวาคม 2555 เวลา 11.00 น. ท่านที่มีความประสงค์จะไปร่วมงานและยังไม่มีแผนที่ กรุณาแจ้งให้นายทะเบียนทราบด้วย จะได้ดำเนินการจัดส่งไปให้ หรือติดต่อได้ที่ ณัฐ วัชรเสถียร โทร 08-6655-9790/0-2755-9490 ขอความกรุณายืนยันด้วยนะครับ จะได้สำรองที่นั่งให้เพียงพอ ที่จะไปเป็นกลุ่ม ให้แจ้งยอดของกลุ่ม จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการติดตาม....ขณะนี้ เราได้ทาการรวบรวมรายชื่อพร้อมที่อยู่เพื่อนได้ไม่ต่ำกว่า 150 ท่านแล้ว และกำลังดำเนินการจัดพิมพ์เพื่อแจกให้เพื่อนฝูงได้มีรูปและรายชื่อเพื่อนตามที่ ได้ตั้งใจไว้ ท่านที่ยังไม่ได้ส่งรูป กรุณารีบส่งมาโดยด่วนด้วยครับ ขอร้องแล้วนะครับ เพราะไม่มีเวลาจะทวงถามอีกแล้ว ยิ่งท่านที่รับปากว่า จะรีบจัดการให้ ยิ่งต้องรีบส่งมา หรือไม่ โทรมาให้ผมไปถ่ายรูปได้ถึงที่บ้าน ยินดีบริการ สำหรับท่านที่ไม่สามารถจะมาร่วมงานได้ ก็จะได้ส่งไปให้ตามที่อยู่ของท่าน รับรองว่า ส่งให้ครบทุกท่านอย่างแน่นอนครับ ข้อมูล อยากได้ให้ครบทุกท่านด้วยนะครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาแก้ไขอีก คิดว่าคงทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น หากไม่มีรูปท่าน น่าเสียดายมาก มีกำหนดถึงวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้เท่านั้นที่จะจัดส่งมาให้

รักและคิดถึงเพื่อน ๆ ครับ
ณัฐ

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
27 ตุลาคม 2555