...หนึ่งหญิง..สองชาย
ไม่ หมาย ไม่คิดจะเป็น ไป ได้
คงเคราะห์แหละกรรม นำรักเป็นไป
เจอผู้ชายคนใหม่ ทั้งที่เก่า ก็ยังรัก
จะทำ..ฉันใด
ยาก ไซร้ปัญหาหัวใจ แสน หนัก
คนนั้นก็ดี คนนี้ก็รัก ยากเหลือที่จะหัก
คนไหน จากใจของเรา
หาก แม้น ตัดใจเลือก ใครคนหนึ่ง
ทิ้ง คนหนึ่ง ก็คง ต้องเศร้า
เคราะห์ กรรม ทำบาป กับเขา
อกหัก เพราะมือเรา ขยี้ แหลก ราญ
หนึ่งหญิง..สองชาย
อาจ คล้ายวันทองลองใจ สา มาน
สวรรค์ท่านรู้ ใครหรือบันดาล
ใจแท้ ไม่ต้องการ
สองชายสิหมาย หญิงเดียว
หาก แม้น ตัดใจเลือก ใครคนหนึ่ง
ทิ้ง คนหนึ่ง ก็คง ต้องเศร้า
เคราะห์ กรรม ทำบาป กับเขา
อกหัก เพราะมือเรา ขยี้ แหลกราญ
หนึ่งหญิง..สองชาย
อาจ คล้ายวันทองลองใจ สา มาน
สวรรค์ท่านรู้ ใครหรือบันดาล
ใจแท้ ไม่ต้องการ
สองชายสิหมาย หญิงเดียว
เพลง “หนึ่งหญิงสองชาย”

อุมาพร บัวพึ่ง นักร้องแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๔ และเสาอากาศทองคำพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ผลงานที่สร้างชื่อเสียงให้เธอเป็นที่รู้จักจนปัจจุบันนี้คือเพลง "หนึ่งหญิงสองชาย" ของ ครูจงรัก จันทร์คณา ที่ร้องแก้กับเพลง “ หนึ่งใจสองรัก ” โดย ชรัมภ์ เทพชัย

อุมาพร บัวพึ่ง เริ่มเป็นที่รู้จักจากการประกวดร้องเพลงในรายการโทรทัศน์ "คนดังพาเลซ" ของ ยิ่งยง สะเด็ดยาด (ทวิชย์ โปสินธุ์) ทางไทยทีวีสีช่อง ๓ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๔ ปัจจุบันมีงานร้องเพลงตามงานคอนเสิร์ตและงานโชว์ตัวต่างๆ นอกจากนี้เธอยังเป็นครูสอนร้องเพลงอีกด้วย

เที่ยวนี้ไปพักผ่อนอยู่ที่ ลาสเวกัส เป็นเวลาเดียวกับ อุมาพร บัวพึ่ง คอนเสิร์ต โชว์อยู่ที่ร้าน ไทยเฮ้าส์ (THAI HOUSE) คืนวันอังคารที่ ๑๐ พ.ค. ๒๕๕๙ ส.ท่าเกษม ไปถึงวันจันทร์ที่ ๙ เรียกว่าพลาดไปอย่างน่าเสียดายทีเดียว ! ไม่ทราบมาก่อนและไม่ได้แวะตลาดไทยด้วยเลยตกข่าว กำลังคิดว่าจะโทรฯ ถามคนในวงการเผื่อจะมีโชว์ที่อื่นอีก พอดีโชคดีเข้าเมืองมาเห็นโฆษณาที่ น.ส.พ. เลยนัดพรรคพวกไปช่วยกันต้อนรับและให้กำลังใจนักร้องคนโปรด ที่ว่าโชคดีเพราะหลงเสียงเศร้าๆ ของเธอ ร้องเพลงได้อารมณ์ นอกจากเสียงที่ไพเราะร้องชัดถ้อยชัดคำ ยังสวยอีกด้วย ! เพิ่งจะได้ประสบพบ ตัวจริง เสียงจริง เป็นครั้งแรกเมื่อคืนวันเสาร์ที่ ๒๑ พ.ค. ณ ห้องอาหาร ORIGINAL KHUN DANG ในเมือง VAN NUYS หลังจากรู้จักและฟังเพลงของเธอทางยูทูปและวิทยุศึกษาในรายการเพลง “มุมความสุข” มาเป็นปีๆ

คืนนั้นได้โต๊ะข้างหน้าเห็นชัด ฟังชัด รู้จักทุกเพลง บัวขาว ลมหวน หนึ่งในร้อย จงรัก หยาดเพชร เชียงรายรำลึก และอีกหลายๆ เพลงที่แฟนๆ ปรบมือกันเกรียว ที่ขาดไม่ได้คือเพลง “หนึ่งหญิงสองชาย” ของครูจงรัก จันทร์คณา ที่ตั้งใจแต่งให้ อุมาพร ร้องโดยเฉพาะ ทำให้เธอกลับมาโด่งดังอีกครั้ง หลังจากได้รับรางวัล เสาอากาศทองคำ พระราชทาน ครั้งที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๒๐ จากเพลง เหตุการณ์รัก ผลงานของครูศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ

เพลง “หนึ่งหญิงสองชาย” ครูจงรัก ปั้น อุมาพร บัวพึ่ง ให้กึกก้อง ! เพลงนี้ท่านเขียนเล่าถึงความเป็นมาเอาไว้ว่า “...ต้อย หรือ อุมาพร บัวพึ่ง เป็นนักร้องที่มีพลังเสียงล้นเหลือ ตรงข้ามกับรูปร่างที่ผอมบางของเธอ ด้วยพลังเสียงที่คับฟ้าคับดินนี่เอง ทำให้เธอได้รับรางวัล เสาอากาศทองคำพระราชทาน ในฐานะ นักร้องดีเด่น ! แต่หลังจาก พ.ศ. ๒๕๒๐ ผ่านไปจนข้ามปี ก็ยังไม่มีบริษัทใดค่อยอัดเสียงของเธอออกจำหน่ายบ่อยนัก ดูช่างไม่สมกับตำแหน่ง “นักร้องดีเด่น” เอาเสียเลย

นายห้างแผ่นเสียงพากันให้เหตุผลว่า เสียงอุมาพร ขายไม่ค่อยดี ทำไมเป็นงั้น ข้าพเจ้า (ครูจงรัก) แอบสงสัย แต่พับเจ้าความสงสัยนั้นซุกไว้ในสมอง ไม่อยากคิดให้เปลืองเวลากินเหล้า...” ต่อมาครูจงรัก จันทร์คณา ไปหา ครูพิมพ์ปฏิภาณ พึ่งธรรมจิตต์ ที่ เมรี่ไนต์คลับ ได้พบกับ อุมาพร บัวพึ่ง อีกครั้ง เธอจึงขอร้องให้ ครูจงรัก เขียนเพลงให้เธอร้อง ครูจงรัก เล่าเอาไว้ถึงเหตุการณ์ตอนนั้นไว้ว่า

“...คืนนี้ ต้อย ขอเลี้ยงเบียร์ให้ พี่จงรัก เองนะคะ” ข้าพเจ้าไม่ปฏิเสธ ก็กินฟรี ปฏิเสธให้โง่เรอะ... แต่อดสงสัยตะหงิดๆ ทำไมต้อยเอาใจนัก

“ถามจริง...ต้อย เลี้ยงเบียร์มีแผนอะไรหรือเปล่า” ต้อย ยิ้มอายเหนียมๆ แล้วนิ่งไปครู่

“คือว่า...ต้อย อยากให้ พี่จงรัก แต่งเพลงให้ ต้อย ร้องบ้าง... ต้อย อยากดัง”

“ก็ ต้อย ดังอยู่แล้ว...ได้เสาอากาศทองคำ”

“มีแต่เสาน่ะซีพี่...ไฟยังไม่มี มันยังมืดตื๋ออยู่เหมือนเดิมนั่นแหละ”

จากคืนนั้น ครูจงรัก จึงมาคิดทบทวนเรื่องเสียงที่มีพลังล้น สูงก็สูงล้ำ ต่ำก็ต่ำลึกยากที่ใครจะเลียนเสียงได้ใกล้เคียง เป็นเหตุให้ถูกรังเกียจ ไม่อยากฟังไม่อยากซื้อ แผ่นเสียงจึงขายไม่ค่อยได้ เมื่อพลังเสียงฟังแล้วแข็งทื่อ เหมือนต้นไผ่สูงชะลูด จำต้องเอามาเหลาให้บางเป็นเส้นตอก...เอาเส้นตรงมาม้วนงอ ให้เป็นลายกนกงดงาม ต้อย จะต้องเปลี่ยนลีลาทางร้องเสียใหม่ จากแนวสากลที่แข็งทื่อ มาเป็นลีลาไทยที่อ่อนช้อย เมื่อคิดแก้ปัญหาได้แล้ว ครูจงรักจึงสร้างทำนองขึ้นเพลงหนึ่ง ไม่ถึงกับเป็นเพลงไทยเดิม แต่ผสมสากลนิดๆ พอเป็นกษัยยา แล้วเขียนเนื้อร้องแบบชาวบ้านแบบละครน้ำเน่าที่ถูกอกถูกใจชาวบ้านนั่นแหละ ใช่เลย !

จากนั้นจึงนำเรื่องที่เก็บใส่เซฟสมองไว้นานแล้วออกมาพิจารณา เป็นเรื่องของแม่ค้าขนมปากหม้อที่สวยเฉียดๆ นางงาม มีชายหนุ่มหล่อพอหม้ายทั้งหลายมารุมอุดหนุนขนมปากหม้อ จำนวนนี้มีเพียงหนุ่มเดียวที่สามารถจะทะลุทะลวงเข้าไปนั่งกระดิกเท้าในหัวใจเธอได้ (ฟังสำนวน ครูจงรัก ดูซะบ้าง !) และมีอีกหนุ่มขับเก๋งคันงามปาดหน้ามามอบของฝากของขวัญ ถูกใจให้ไม่เว้นแต่ละวัน (ประเภทพ่อบุญทุ่ม ส.ท่าเกษมพูดเอง) คนนั้นก็ดี คนนี้ก็รัก หนักอกแม่ค้าคนสวย

ในที่สุด ครูจงรัก จึงหยิบนิยายรักของแม่ค้าขนมปากหม้อมาสร้างเนื้อเพลงให้ อุมาพร “เปลี่ยนสไตล์การร้องเป็นไทยๆ เสียงเธอมีพลังเยี่ยม จึงเอื้อนเสียง โหนเสียงได้เนี๊ยบมาก ความโด่งดังจึงเป็นรางวัลของเธอ สมปรารถนาที่เธอต้องการ !” และนี่คือตอนหนึ่งของเบื้องหลังเพลง “หนึ่งหญิงสองชาย” ที่ ครูจงรัก เขียนไว้ในหนังสือ “เบื้องหลังเพลงดัง ของครูจงรัก จันทร์คณา”

หมายเหตุ ข้อมูลจาก วิกิพีเดีย ข้อความบางตอนคัดลอกมาจากหนังสือ ตำนานครูเพลง เพลงไทยสากล ลูกกรุง โดย คีตา พญาไท เพื่อคงไว้ในอรรถรสและสำนวนอันเป็นเอกลักษณ์ของ ครูจงรัก และฝากขอบคุณ กุศล เฟื่อขุดทด นายกสมาคมกอล์ฟไทยฯ ช่างภาพกิตติมศักดิ์ที่ช่วยเก็บภาพสวยๆใน อุมาพร คอนเสิร์ต ให้ ส.ท่าเกษม งานนี้ตั้งใจมา ฟังเพลง เท่านั้น... ไม่อยากพลาดเสียงร้องในเพลงรักอมตะที่สุดแสนจะไพเราะทุกเพลงเช่นนี้แม้แต่วินาทีเดียว !

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๒๘ พฤษภาคม ๒๕๕๙