คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า(รัชกาลที่ 6)
ฉุยฉายเอย ช่างงามขำช่างรำโยกย้าย
สะเอวแสนอ่อนอรชรช่วงกาย วิจิตรยิ่งลายที่คนประดิษฐ์
สองเนตรคมขำแสงดำมันขลับ ชม้อยเนตรจับช่างสวยสุดพิศ ฯ
สุดสวยเอย ยิ่งพิศยิ่งเพลินเชิญให้งงงวย
งามหัตถ์งามกรช่างอ่อนระทวย ช่างนาดช่างนวยสวยยั่วนัยนา
ทั้งหัตถ์ทั้งกรก็ฟ้อนถูกแบบ ดูยลแยบสวยยิ่งเทวา ฯ
น่าชมเอย น่าชมเจ้าพราหมณ์
ดูทั่วตัวงาม ไม่ทรามจนนิด
ดูผุดดูผ่อง เหมือนทองทาติด
ยิ่งเพ่งยิ่งพิศ ยิ่งคิดชมเอย ฯ
น่ารักเอย น่ารักดรุณ
เหมือนแรกจะรุ่น จะรู้เดียงสา
เจ้ายิ้มเจ้าแย้ม แก้มเหมือนมาลา
จ่อจิตติดตา เสียจริงเจ้าเอย ฯ

"รำฉุยฉายพราหมณ์"
คำร้อง: พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6





วันสวรรคตแห่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเวียนมาบรรจบในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ จึงขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณด้วยการอัญเชิญ คำร้อง "รำฉุยฉายพราหมณ์" พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 มาบันทึกไว้เป็นเครื่องแสดงพระเกียรติคุณที่ทรงพระราชนิพนธ์งานประพันธ์ไว้มากมาย ยิ่งไปกว่านั้น ยังทรงเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียนบทความในวารสาร ทรงออกหนังสือพิมพ์และวารสารต่างๆ

พระองค์ทรงเป็นผู้นำทางด้านหนังสือแห่งประเทศไทย สมควรที่พวกเราผู้มีอาชีพเกี่ยวกับหนังสือจะได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณในฐานะทรงเป็นผู้ริเริ่มปูพื้นฐานงานด้านนี้ พระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ทรงไว้ ส.ท่าเกษม เคยเขียนไว้ในปีก่อนๆ เมื่อวันสวรรคตแห่งล้นเกล้าฯ (ร.6) เวียนมาบรรจบ

รำฉุยฉายพราหมณ์ เป็นส่วนหนึ่งของการร่ายรำที่งดงามของตัวละครประเภทพระ จากบทพระราชนิพนธ์เบิกโรงดึกดำบรรพ์ เรื่อง พระคเณศร์เสียงา ในสมัยรัชกาลที่ ๖ มีเนื้อเรื่องย่อว่า ปรศุรามเจ้าแห่งพราหมณ์ทะนงตัวว่าเป็นที่โปรดปรานของพระอิศวร คิดจะเฝ้าในโอกาสที่ไม่สมควร พระคเณศร์ได้ห้ามปราม จนเกิดการวิวาท ปรศุรามขว้างขวานโดนงาซ้ายพระคเณศร์หักสะบั้น พระอุมากริ้วปรศุราม จึงสาปให้หมดกำลังล้มกลิ้งดั่งท่อนไม้ พระนารายณ์ทรงเล็งเห็นและเกรงว่าคณะพราหมณ์จะขาดผู้ปกป้อง อีกทั้งทรงทราบว่าพระอุมาเมตตาต่อเด็ก จึงแปลงกายเป็นพราหมณ์น้อย ซึ่งเป็นปฐมเหตุให้เกิดการการรำฉุยฉายพราหมณ์ขึ้น เนื้อเรื่องต่อไปพระอุมาประทานพรให้พราหมณ์ และสามารถแก้ไขคำสาปให้กลับกลายเป็นดีในที่สุด

ฉุยฉายพราหมณ์นี้ตัดตอนมาจากบทละครในเรื่องรามเกียรติ์ภาคสวรรค์ ขณะนั้นพระอิศวร และพระอุมาทรงบรรทมในพระที่ สั่งให้พระคเณศหรือพระคเณศวร ซึ่งเป็นพระโอรสเฝ้าทวารไว้ ปรศุรามจะขืนเข้าเฝ้าจึงเกิดการต่อสู้ขึ้น

พระอิศวรทรงเมตตาแนะให้ปรศุรามบูชาถึงพระนารายณ์ เมื่อปรศุรามรำลึกถึง พระนารายณ์ก็ทรงแปลงเป็นพราหมณ์น้อยมาร่ายรำ "ฉุยฉายพราหมณ์" เมื่อพระอุมาทอดพระเนตรก็เห็น ก็โปรดเมตตาให้พร นารายณ์แปลงจึงขอกำลังปรศุรามคืน โดยแบ่งให้พระคเณศครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งคืนให้ปรศุราม บทร้องฉุยฉายพราหมณ์นี้เป็นบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

ลีลาท่ารำเชื่อกันว่าเป็นผลงานของพระยานัฏกานุรักษ์ ต่อมากรมศิลปากรได้ปรับปรุงท่าร่ายรำ ให้เป็นลีลาท่ารำของตัวพระ ที่มีลักษณะของความเป็นหนุ่มน้อยที่มีความงดงาม และท่ามีนวยนาดกรีดกราย

โอกาสที่ใช้แสดง ใช้เป็นการรำเบิกโรงและการแสดงในงานเบ็ดเตล็ดทั่วไป ดนตรีประกอบการแสดง ใช้วงปี่พาทย์บรรเลง

รำฉุยฉายพราหมณ์ เป็นการแสดงรำเดี่ยว แสดงบนเวทีคนเดียว เช่นเดียวกับรำมโนราห์บูชายัญ รำพลายชุมพล โดยผู้รำจะรำเพียงอย่างเดียวประกอบเสียงดนตรี เช่น ปี่ ระนาด และประกอบเสียงขับร้อง ซึ่งผู้ขับร้องจะนั่งอยู่บริเวณวงปี่พาทย์

ผู้รำฉุยฉายพราหมณ์ จะแสดงอารมณ์ความรู้สึกของการแสดงออกมาโดยใช้ท่ารำ จะต้องแสดงศิลปะฝีมือความสามารถออกมามากเป็นพิเศษ เพราะจะต้องดึงความสนใจของผู้ชมไว้ให้ได้ หากดึงความสนใจไว้ไม่ได้ ผู้ชมจะเบื่อ …การรำเดี่ยว จะยากกว่าการรำแบบคู่ หรือรำหมู่ ซึ่งการรำแบบหลังจะมีโอกาสสร้างความสนใจได้ง่ายเพราะมีผู้รำมากกว่า และสามารถสื่ออารมณ์สื่อเรื่องราวระหว่างผู้รำต่อกัน ทำให้ผู้ชมรู้สึกสนุกได้

“ฉุยฉาย” ในทางนาฏศิลป์ หมายถึง การร่ายรำเมื่อตัวละครเกิดความภาคภูมิใจ ที่สามารถแปลงกาย หรือแต่งตัวได้อย่างสวยสดงดงาม พระยาอนุมานราชธนได้กล่าวไว้ในหนังสืออธิบายนาฏศิลป์ไทยว่า “การรำฉุยฉายเป็นการแสดงภาษานาฏศิลป์ที่มีคุณค่าทางนาฏศิลป์อย่างเลิศ นิยมกันว่าตัวละครสามารถแสดงอารมณ์ความภาคภูมิใจออกมาทางท่ารำได้ดีกว่าที่ จะพูดออกมาทางปาก”


ประวัติฉุยฉายสมัยโบราณ

การเล่นฉุยฉายในสมัยก่อน นิยมเล่นกันเมื่อขับเสภาเสร็จแล้ว ส่วนการเล่นขับเสภานั้น เป็นการร้องลำนำ เดินเรื่องขับเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน เมื่อเลิกเล่นขับเสภาแล้วจึงเล่นฉุยฉาย

สถานที่ ใช้เวทียกพื้นหรือลานกว้างๆก็ได้

ดนตรี มีเครื่องพิณพาทย์ และกรับไม้ชิงชัน อย่างเช่นการเล่นเสภา

การแต่งกาย ต้องแต่งให้สุภาพเรียบร้อยถูกต้อง ตามรัฐนิยม และวัฒนธรรม เช่น ชายนุ่งกางเกงสากล หญิงสวมกระโปรง และทั้งชาย และหญิงสวมเสื้อเชิ้ต สวมหมวก และใส่รองเท้า

วิธีเล่น การเล่นมี 2 อย่าง คือ การเล่นฉุยฉายในพระนครหรือที่เรียกว่าฉุยฉายบรรดาศักดิ์ อีกชนิดหนึ่งเป็นการเล่นทั่วๆไ จะแบ่งผู้เล่นออกเป็นฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงก็ได้ หรือจะเล่นเฉพาะหมู่ผู้ชายล้วนหรือหญิงล้วนก็ได้

การเล่นฉุยฉายบรรดาศักดิ์ แรกจะขับเสภาก่อน ใช้พิณพาทย์เป็นเครื่องรับแล้วก็รำฟ้อน เรียกว่า “ฟ้อนฉุยฉาย” ตามจังหวะดนตรีหรือกรับ มีเนื้อเพลงโดยเฉพาะ ส่วนฉุยฉายที่เล่นกันอยู่ทั่วๆไปนั้น คือ การเล่นตามประเพณีพื้นเมืองมาแต่ก่อน ทั้งสองฝ่ายร่ายรำไปโดยมีลูกคู่ร้องให้จังหวะ ผู้รำเพียงแต่รำท่าทางตามทำนอง และเนื้อเพลงให้ถูกต้องกับการร้อง ผู้รำไม่ต้องร้อง แต่ต้องมีท่าทางกรีดกราย ทำชม้อยชม้ายตามทำนอง


การบรรเลงดนตรีในเพลงฉุยฉาย

ฉุยฉายเป็นเพลงในอัตราจังหวะ 2 ชั้น มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่เดิมการร้องเพลงฉุยฉาย ใช้ดนตรีรับ 1 – 2 เที่ยวทุกๆท่อน แต่ปัจจุบันนิยมใช้ปี่รับเพียงเที่ยวเดียว ตามปกติเพลงฉุยฉายจะมีเพลง 2 เพลงรวมอยู่ด้วยกัน คือเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรี โดยที่ในตอนแรกจะร้องเพลงฉุยฉายก่อน ร้องหมดท่อนหนึ่งก็มีปี่เป่าเลียนทำนอง และเสียงร้องเพียงชิ้นเดียวก่อน แล้วจึงบรรเลงรับต่อด้วยเพลงแม่ศรีติดต่อกันไป การที่ต้องร้องเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรีติดต่อกันนั้น เพราะถือว่า เพลงฉุยฉายเป็นเพลงช้า เพลงแม่ศรีเป็นเพลงเร็วซึ่งเป็นเพลง 2 ชั้น เรียกตามหน้าทับว่า “สองไม้” การบรรเลงดนตรีจะเริ่มด้วยเพลงรัว ร้องเพลงฉุยฉาย และเพลงแม่ศรี จบด้วยเพลงเร็ว – ลา ซึ่งเป็นลักษณะที่นิยมโดยทั่วไป


เพื่อให้คุณผู้อ่านได้ซาบซึ้งกับศิลปะการร่ายรำของไทยรวมทั้งดนตรีคำร้อง จึงได้นำยูทูบมาลงทั้ง 2 ลิ้งค์ แบบรักพี่เสียดายน้อง ส.ท่าเกษมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของ ดร.ศุภชัย จันทร์สุวรรณ (ครูน้อย) ตั้งแต่ท่านมาแสดงที่แอล.เอ. ก่อนจะได้รับตำแหน่งศิลปินแห่งชาติ การร่ายรำชุด "ฉุยฉายพราหมณ์" นี้ เป็นรายการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอเจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี เนื่องในวโรกาสฉลองพระชนมายุ 7 รอบ ปีฉลูนักษัตร ถ่ายทำที่พระราชนิเวศมฤคทายวัน

ส่วนอีกยูทูบเป็นของอาจารย์ขวัญใจ คงถาวร สวยเหลือเกินท่ารำของท่าน ทุกการเคลื่อนไหวทุกส่วนของร่ายกาย รูปร่างหน้าตา ได้สัดส่วนหาที่ติมิได้ อยากจะพูดว่าเหมือนนางฟ้าร่ายรำอยู่บนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อมยิ้มน้อยๆ ไม่เห็นไรฟัน

คุณพิศมัย วิไลศักดิ์ มีชื่อเสียงทั่วประเทศเมื่อ 50 ปีกว่า เป็นนางเอกในเรื่อง "การะเกด" ไม่มีใครเทียบติดในการรำ "ฉุยฉายพราหมณ์" พอดีตัว ส.ท่าเกษม ยังเด็กนัก ยังไม่เคยรำจึงไม่ทราบว่ายากลำบากเพียงใดที่จะรำให้สวยและถูกต้อง จนมาเห็น อ.ขวัญใจรำ จึงเข้าใจว่าไม่ใช่ใครนึกอยากจะรำก็รำ ดูแล้วดูอีกไม่มีเบื่อ สลับกับการดู ดร.ศุภชัย ในยามค่ำคืน (ยามว่าง)

เคยดูคุณทรงศรี เทวคุปต์ ดาราของไทยทีวีช่อง 4 ทราบว่ารำเก่ง แต่ก็เด็กเกินไปที่จะพิจารณา ตอนนี้อายุมากขึ้นจึงเห็นคุณค่าของการรำละครไทยยิ่งขึ้น และดูเป็นว่าใครรำเป็นหรือไม่เป็น มีความรู้พอที่จะติชมได้ ในเมืองนางฟ้าแห่งนี้ แอบชื่นชมเป็นแฟน อ.อู๋ หรือ อ.วิโรจน์ ศิริณรงค์ ทุกครั้งที่ดู "อ.อู๋" รำที่ไหนจะเด่นกว่าใครเพื่อนบนเวที ไม่นานเกินรอคงได้เห็นฝีมือใน "ฉุยฉายพราหมณ์" บ้าง นอกจากรำเก่งระดับครูบาอาจารย์แล้วยังทำผมเก่งด้วยทั้งชายและหญิง ส.ท่าเกษมไปพิสูจน์มาแล้วในวันสำคัญของชีวิตคู่ ครบรอบ "RUBY หรือทับทิม" เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ถ้าสนใจความสามารถของ "อ.อู๋" ไม่ว่าในเรื่องรำละครหรือเสริมสวยติดต่อได้ที่เบอร์ (323)661-8611 ห้องเสริมสวยจุฬา


ข้อมูลจากบ้านรำไทย และเวบต่างๆ

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
24 พฤศจิกายน 2555