คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



เบื้องหลัง..."บันทึกรักจากใจ"
ถึง ม้วยดิน สิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุด ความรัก สมัครสมาน
แม้ อยู่ใน ใต้หล้า สุธาธาร
ขอ พบพาน พิศวาส ไม่(มิ) คลาดคลา
แม้ เนื้อเย็น เป็นห้วง มหรรณพ
พี่ ขอพบ ศรีสวัสดิ์ เป็นมัจฉา
แม้ เป็นบัว ตัวพี่เป็นภุมรา
เชย ผกา โกสุม ปทุมทอง

แม้ เป็นถ้ำ อำไพ ใคร่เป็นหงส์
จะ ร่อนลง สิงสู่ เป็นคู่สอง
ขอ ติดตาม ทรามสงวน นวลละออง
เป็น คู่ครอง พิศวาสทุกชาติไป

"คำมั่นสัญญา"
คำร้อง : สุนทรภู่
ทำนอง : สุรพล แสงเอก



หวังว่าคุณผู้อ่านคงยังไม่เบื่อเพลงนี้ สำหรับ ส.ท่าเกษม แล้วยิ่งฟังยิ่งไพเราะ เคยนำมาลง 2 ครั้งแล้ว และในพ็อคเก็ตบุ๊ค "บันทึกรักจากใจ" ซึ่งมีทั้งหมด 30 เรื่อง (ความรักของ...ดร.ถวัลย์ ดัชนี ศิลปินแห่งชาติ มี 2 ตอน) เรื่องแรกคือ "ริมฝั่งทะเลในฤดูหนาว" เปิดคอลัมน์ด้วยเพลง "คำมั่นสัญญา" และเรื่องสุดท้าย "มิถุนายนเดือนแห่งความรักของ...ส.ท่าเกษม" ได้นำเพลง "คำมั่นสัญญา" มาปิดท้าย ฝากผลงานชิ้นเอกในสุดยอดวรรณกรรมของกวีเอกของโลกและของประเทศไทย ในเรื่อง "พระอภัยมณี" ตอนพระอภัยมณีเกี้ยว (ให้คำมั่นสัญญา) กับนางละเวง มีการดัดแปลงเล็กน้อยก่อนที่จะเป็นเพลงรักอมตะ "คำมั่นสัญญา"

สุนทรภู่ เขียนไว้ว่า...แม้เป็นถ้ำอำไพขอให้พี่ เป็นราชสีห์สิงสู่เป็นคู่สอง ในเพลงเปลี่ยนเป็น...แม้เป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์ จะร่อนลงสิงสู่เป็นคู่สอง ส่วนอีกวรรคหนึ่งของเพลง "ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา" ส.ท่าเกษมได้วงเล็บ (มิ) ไว้ด้วย เพราะเพลงนี้ร้องกันหลายคน บ้างก็ร้องว่า "ไม่" บ้างก็ร้องว่า "มิ" ส่วนตัวแล้วชอบคำว่า "มิ" ฟังดูเป็นโบราณเข้ากับบทกลอนดี ก่อนที่จะเขียนคุยกับคุณผู้อ่านเสาร์นี้ ได้เข้ายูทูบเพื่อจะหาเพลงมาใส่ Website สำหรับผู้อ่านที่ชอบเข้าเน็ต (INTERNET) จะไม่บอกว่าเลือกเพลงของใคร เป็นการเซอร์ไพร้สคุณผู้อ่าน ฟังเป็นสิบๆ เที่ยว ระหว่าง ศิลปินแห่งชาติ ชรินทร์ นันทนาคร, ธงไชย แมคอินไตย, อรวี สัจจานนท์ และ วิชัย แห่งพิงค์แพนเตอร์ เวอร์เชิ่นนี้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "คำมั่นสัญญา" ที่สันติสุข - จินตหรา แสดงนำ เพลงนี้วิชัย ร้องได้นุ่มหู คลาสสิคมาก ต้องตัดสินใจอยู่นาน ประเภทรักพี่เสียดายน้อง นอกจากนี้ยังมีของนักร้องสมัครเล่น และนักเรียนระดับ ม.5 มีจินตลีลาประกอบ นักเรียนชายคนนี้หน้าตาดี เสียงดี อยากให้แมวมองเข้าไปดู จะได้ปั้นดินให้เป็นดาว อนาคตไปได้ไกลทีเดียว !

คราวนี้มาคุยเรื่องที่มาที่ไปของพ็อคเก็ตบุ๊คเล่มนี้เสียที กว่าจะผลิตออกมาเป็นเล่มให้จับต้องชื่นชมได้นี้ ยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก ! ถ้าเปรียบเทียบกับผลงานเล่มแรก เล่มแรกนั้นเพียงแต่เลือกผลงานจากที่เขียนๆ ไว้ เลือกที่คิดว่าคุณผู้อ่านจะชอบรวม 52 เรื่อง มอบให้คลังหนังสือดอกหญ้าไปพิจารณาที่เมืองไทย ทางคณะกรรมการคัดเลือกนำมาพิมพ์รวมเล่ม 23 เรื่องเป็นอันจบ คนเขียนไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งก็ประทับใจเป็นประสบการณ์ที่เหมือนกับความฝัน.... ความฝันที่ตื่นขึ้นมาแล้วกลายเป็นความจริง เลยกลายเป็นคนเขียนหนังสืออาชีพตั้งแต่บัดนั้น เพราะได้รับค่าน้ำหมึกอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เหมือนถูก JACKPOT ที่ลาสเวกัส

เมื่อปีที่แล้วมีแฟนคอลัมน์ซึ่งอ่านคอลัมน์ "คุยกันวันเสาร์" ตั้งแต่ยังไม่เคยคุยไม่เคยเห็นหน้าเห็นตากัน พอได้รู้จักกันเป็นส่วนตัวก็ยุให้รวมเล่ม แต่ก็ยุไม่ขึ้น เพราะ ส.ท่าเกษมเป็นคนเฉื่อยแฉะ ปล่อยให้เวลาผ่านไป จากวันเป็นเดือน...จากเดือนเป็นปี ในที่สุดคนยุให้รวมเล่มคงจะรำคาญ เลยติดต่อไปทางบริษัทกรังค์ปรีซ์เสียเอง โดยติดต่อกับคุณรุจิโรจ (หลังบ้าน) เพื่อนที่เคยเรียนหนังสือมาด้วยกัน คุณกบหรือคุณรุจิโรจเปิดไฟเขียวทันที ไม่ทราบว่าคนที่ทั้งยุทั้งลุ้น ส.ท่าเกษมไปกล่อมหรือโฆษณาชวนเชื่อว่าอย่างไร ? นอกจากคุณกบจะรับขอเสนอแล้วยังให้เบอร์มือถือของสามีคือ ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา มาด้วย ให้ติดต่อพูดคุยกันเอง เหตุเกิดในเดือนมิถุนายนซึ่งเป็นเดือนที่เกิดมาเป็นมนุษย์เดินดินบนโลกนี้ คนที่ยุยงส่งเสริมจะโทรศัพท์มาเช็คเป็นระยะๆ ถามว่าโทรฯ ถึง ดร.ปราจิน หรือยัง ? ส.ท่าเกษมจะมีข้อแก้ตัวไปเรื่อยๆ ความจริงก็มีอยู่บ้างเช่น เดินทางตลอดไม่ค่อยได้อยู่ที่บ้าน และเวลาก็ไม่ค่อยจะตรงกัน แต่เหตุผลจริงๆ แล้วเกรงใจเป็นอย่างยิ่ง คิดดูก็แล้วกัน ดร.ปราจิน หรือ พี่ตุ่น จัดงาน "บางกอกอินเตอร์เนชั่นเนล มอเตอร์โชว์" ทุกปี ปีนี้ก็เป็นครั้งที่ 33 ปีที่แล้วมีการสั่งรถใหม่ที่งาน 28,000 คัน และปีนี้ยอดขายสูงกว่าปีที่แล้ว มีทั้ง MERCEDES-BENZ, NISSAN, MAZDA, HONDA ฯลฯ ท่านเป็นนักธุรกิจระดับอินเตอร์ มีทั้งสนามกอล์ฟ สถานีโทรทัศน์ โรงพิมพ์ รีสอร์ท ฯลฯ แล้ว ส.ท่าเกษมเป็นใคร "นักเขียนไส้แห้ง" โชคดีมี UNCLE SAM ให้ตังค์กินขนมอยู่ทุกเดือน พูดง่ายๆ คือไม่กล้ารบกวนเวลาที่เป็นเงินเป็นทองของพี่ตุ่น ไม่ทราบจะขึ้นต้นอย่างไรเมื่อโทรศัพท์ไปหาเพราะธุระของเราเป็นเรื่องเล็ก

ในที่สุดในราวเดือนสิงหาคมของปีที่แล้ว นี่ก็ครบ 1 ปีพอดี รวมรวมความกล้าแล้วก็โทรฯ เข้ามือถือ โทรฯ ไป 2-3 ครั้ง ไม่มีการรับสาย ในที่สุดเลยโทรฯ เข้าบริษัทกรังค์ปรีซ์ ได้พูดกับเลขาฯ ผู้หญิง พี่ตุ่นมีเลขาฯ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย คุยไปคุยมาเลขาฯ บอกเจ้านาย BIG BOSS เพิ่งมาถึงสนามบิน กลับจากญี่ปุ่น ปรากฎว่าทุกครั้งที่โทรฯ ไปหาพี่ตุ่น พี่ตุ่นจะอยู่เมืองจีนบ้าง ยุโรปบ้าง

เลขาฯ ชื่อ "คุณน้อง" รับเรื่องไว้อย่างดีพูดจาให้ความกระจ่างในการพิมพ์หนังสือให้เข้าใจ และจะติดต่อกับแผนศิลปกรรมให้ดำเนินเรื่อง จากประสบการณ์ถ้าคนเขียนหนังสืออยู่ที่นี่ ทางโรงพิมพ์จะมีบรรณาธิการที่รับผิดชอบกับหนังสือซึ่งจะติดต่อกับคนเขียนโดยตรง แต่คราวนี้ต้องทำทุกอย่าง

ระหว่างนั้นคุณน้องได้ขอให้ส่งอะไรต่างๆ ไปให้เธอ อุปสรรคที่หนึ่งคือ HARDWARE ที่เรียกว่า HARD-DRIVE เกิด FRIED ขึ้นมาต้องยก COMPUTER ไปให้ช่าง ช่างก็ผลัดวันประกันพรุ่งว่าสั่ง PART แล้วแต่ยังไม่มา ขำดี HARD-DRIVE ที่ไหม้นี้ MADE IN THAILAND จากที่ HARD-DRIVE ทำพิษจึงเป็นสาเหตุให้เกิดการขลุกขลักล่าช้าในการส่งข้อความและรูปต่างๆ จะเข้าเว็บของ น.ส.พ.ไทยแอล.เอ. ไปเอาข้อมูลข้อความอะไรก็ไม่ได้ เพราะเว็บล่มอยู่ในตอนนั้น ส.ท่าเกษมเลยใช้วิธีจับแพะชนแกะ ตอนหลังได้รูปประกอบคอลัมน์จากเว็บมาสเตอร์ต้อม คนซ่อมไม่สามารถเก็บรูปต่างๆ ที่ ส.ท่าเกษมสู้สะสมไว้หลายต่อหลายไฟล์

โชคดีเป็นคนชอบสะสมรูปไว้ในกล้องดิจิทอล (DIGITAL) เลยพอประทังไปได้ ผสมกับรูปที่ได้จากไทยแอล.เอ. ในตอนหลัง การติดต่อกับคุณน้องก็ไม่ค่อยจะราบรื่นเพราะคุณเธอไม่ค่อยจะตอบมาว่าได้รับแล้ว ตามตัวทางโทรศัพท์ก็ยาก เพราะติดประชุม ลาป่วย ลาพักร้อน หลังสุดนี้ลาหยุดเพื่อจะไปช่วยที่บ้านยกกระสอบทรายไปกั้นน้ำ คุณผู้อ่านคงจำได้ในราวเดือนตุลาคมระยะนั้นน้ำท่วมอย่างเอาไม่อยู่

พี่ตุ่นเจ้าของบริษัทต้องลงเรือไปขึ้นรถที่จอดไว้ในที่สูง บางคันจะจอดบนแท่นพิมพ์ของโรงพิมพ์กรังค์ปรีซ์ เป็นอันว่า "บันทึกรักจากใจ" ต้องรอให้น้ำลด แปลกดี ปกหน้าและปกหลังรวมทั้งเรื่องข้างในเกี่ยวกับน้ำทั้งนั้น เข้ากับบรรยากาศของเมืองไทยอย่างดี

หลังจากน้ำท่วมคุณน้องมอบเรื่องให้คุณปองฝ่ายศิลปกรรมทำต่อ ต้องเริ่มกันใหม่อีก คุณปองมีไม่ครบ สงสัยว่าอะไรๆ ที่ส่งให้คุณน้องคงไหลตามน้ำไปด้วย เลยส่งให้คุณปองไม่ครบ ในที่สุดระหว่างคุณปองและส.ท่าเกษม 2 คน ก็เสร็จเป็นเล่มตามที่ต้องการ คือให้เสร็จก่อนงาน MOTOR SHOW เพราะพนักงานจากแผนกต่างๆ ต้องไปช่วยงานกันอย่างเต็มที่ ทางโรงพิมพ์มีหลายแผนก เลยต้องโทรศัพท์ข้ามทวีปไปพูดกับฝ่ายผลิต ฝ่ายการตลาด แผนกบัญชี (ฝ่ายพิสูจน์อักษร คุณปองผู้พิมพ์ช่วยติดต่อให้เพราะเกิดการเข้าใจผิดเกี่ยวกับตัวสะกด) จากนั้นก็ได้รับ INVOICE ค่าพิมพ์จากโรงพิมพ์เป็นจำนวนเงิน 91,164 บาท 3,000 เล่ม เพราะทางโรงพิมพ์ทำตามหน้าที่ไม่ทราบว่า พี่ตุ่นพิมพ์ให้ ส.ท่าเกษม ผู้มีศักดิ์เป็นน้าของคุณกบ

คำถามแรกที่คุณปองผู้ทำงานเคียงคู่ด้วยกันคือ จะพิมพ์แจกหรือพิมพ์ขาย? คือพี่ตุ่นเป็นเศรษฐีใจบุญ พิมพ์ฟรีให้อยู่เรื่อย ในฐานะนายกสมาคมศิษย์เก่าเพาะช่าง เลยช่วยสถาบันและศิษย์เก่า หนังสือพิมพ์แจกงานต่างๆ ทั้งงานมงคลและงานศพ ภรรยาพี่ตุ่นมาจากครอบครัวใหญ่ จึงมีเรื่องให้พิมพ์อยู่ตลอด

ได้ขอให้พี่ตุ่นช่วยเขียนคำนิยมเป็นเกียรติให้หนังสือ พอดีพี่ตุ่นกำลังดูงานรีสอร์ทอยู่ที่เมืองกาญจนบุรี เลยมีคำสั่งให้ม้าเร็วขับรถนำเรื่องทั้งหมดไปให้อ่านอย่างด่วนจี๋ ! เอกสารไปถึงวันพุธที่ 22 มีสายสืบมาเล่าว่าพี่ตุ่นเอาติดตัวไปด้วย ตามที่ต่างๆ เวลาดูงาน พอมีเวลาว่างก็อ่าน อ่านเสร็จเขียนคำนิยมวันที่ 24 เดือนกุมภาพันธ์ 2555 โรงพิมพ์ได้รับวันจันทร์ที่ 27 เป็นรายการสุดท้าย วันสุดท้ายของเดือนกุมภาพันธ์ ที่ 29 บันทึกรักจากใจ เสร็จบริบูรณ์

เกือบลืมบอกชื่อผู้เริ่มสานหนังสือเล่มนี้จากต้นจนจบ คุณสมพร วัชระกุลเกษมสุข พอมีอะไรติดขัด จะรีบโทรไปรายงานคุณกบ คุณกบจะทำให้งานเดินต่อไปอย่างราบรื่น ส.ท่าเกษมขอมาทางนี้ 200 เล่ม ที่เหลือทางเมืองไทย หลังจากแจกจ่ายพรรคพวก คุณอ้อ ทิพย์รัตน์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดของกรังค์ปรีซ์ ส่งไปตามจุดกระจายจนหมด ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด งานแข็งมากทีเดียว ! ส่วนทางยูเอสเอ แจกจ่ายพรรคพวกไปประมาณ 60 เล่ม ล้วนแล้วแต่ผู้ที่มีความผูกพันต่อกันไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง คุณสมพรได้ไป 11 เล่ม เพราะมีความผูกพันมากกว่าใครๆ ทั้งสิ้น (ฮา!) ขอขอบคุณคุณไพสันติ์ พรหมน้อย เจ้าของและ บ.ก.น.ส.พ. ดิเอเชี่ยนแปซิฟิค ที่ช่วยสนับสนุนและให้คำแนะนำมาตลอด ขอบคุณคุณเพ็ญวิภา โสภาภัณฑ์ คุณประพันธ์ เมฆประเสริฐรัศมี คุณวิจารณ์ จันทนะเวส คุณสมิทธิ์ ทรัพย์วิบูลย์ (Super Sam) และคุณผู้อ่านทุกๆ ท่านที่อุดหนุน "บันทึกรักจากใจ"

ก่อนจากกันเสาร์นี้ ส.ท่าเกษม ขอแนะนำให้คุณผู้อ่านได้รู้จักกับ ดร.ปราจิน "พี่ตุ่น" เพียงเสี้ยวหนึ่งของผลงานอันมากมาย


ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ประธานกรรมการบริหารบริษัท กรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เปิดบ้านให้การต้อนรับ “ น้องโบว์ลิ่ง -ปริศนา กัมพูสิริ ” ผู้ประกาศข่าวสาวรายการ “ กรังด์ปรีซ์ นิวส์ ” ของค่ายกรังด์ปรีซ์ชาแนล ที่ล่าสุดสามารถคว้ามงกุฎนางสาวไทยคนที่ 47 ของประเทศไทย มาหมาดๆ โดยได้เข้ามากราบสวัสดี พร้อมพูดคุยและขอคำแนะนำ ทั้งนี้ ดร. ปราจิน เอี่ยมลำเนา ได้มอบของที่ระลึกให้แก่ นางสาวไทยประจำปี 2555 โดยงานนี้ถูกจัดขึ้น ณ ห้องรับรองอาคาร 2 ชั้น 3 บริษัทกรังด์ปรีซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อวันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมา

ดร.ปราจิน เอี่ยมลำเนา เจ้าพ่อมอเตอร์โชว์ และเจ้าของบริษัทในเครือกรังค์ปรีซ์ สำเร็จการศึกษา จาก วิทยาลัยเพาะช่าง เริ่มต้นอาชีพแรกในชีวิตด้วยการเป็น ครู และฝ่ายศิลป์ที่สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิช ทำงานกับ อาจารย์เปลื้อง ณ นคร มีหน้าที่รับผิดชอบการออกแบบปกหนังสือ จัดหัวเรื่อง คลุกคลีกับงานหนังสือจนกลายเป็นนักอ่านหนังสือตัวยง วันหนึ่งหลายๆคนเห็นว่าทำงานอยู่ที่ร้านหนังสือ และรู้เรื่องเกี่ยวกับหนังสือดี ก็เลยยื่นสูจิบัตรงานเกี่ยวกับแข่งรถมอเตอร์ไซด์เอามาให้ทำ เพราะการแข่งขันสมัยก่อน หลังจากแข่งกันเสร็จก็จะมีการเลี้ยงฉลอง มีเป็นงานบอลล์ และก็มีการแจกสูจิบัตร ซึ่งเล่มนั้นตนก็เป็นคนทำเขียนหมด ทั้งเขียนปกนอกและหน้าเนื้อหาข้างใน โดยมีเรื่องราวผลการแข่งขัน และข่าวสังคม ซึ่งได้ทำออกมา 500 เล่มเอาไปแจกในงานก็เป็นที่ฮือฮามาก หลังจากนั้น "เดอะกรังด์ปรีซ์" ก็เกิดขึ้นมาในปี 2513 ด้วยเงินทุนจากการไปรวมร่วมจากแหล่งต่างๆมาได้ 40,000 บาท ที่เลขที่ 68 จุฬาซอย 8 ถนนพระราม 4 ปทุมวัน ผลิตออกมา 10,000 เล่มขายเล่มละ 5 บาท โดยมีคำขวัญว่า ไม่ช้า ไม่ไว ไม่ตามหลังใคร คือนิตยสารกรังด์ปรีซ์


บันทึกรักจากคนที่อยู่ไกล
ความรักนั้นยิ่งใหญ่.... ทุกคนมีประสบการณ์ในความรัก
แตกต่างกันไป ความรักไม่เลือกชนชั้นและสายพันธุ์ ไม่มีขอบเขต
ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ หรือ สัตว์ ความรักเป็นจุดกำเนิดของความดีความ
เข้าใจ มีความรักเกิดขึ้นที่ไหน ที่นั่นมีความสุข สิ่งมีชีวิตใฝ่หา
ความรัก หากจะเกิดขึ้นสักครั้งเดียวมันก็ยิ่งใหญ่เพียงพอแล้ว
ความรักของพิสุทธิอาภรณ์ (น้าสุ) ให้กับทุกคนที่มีอยู่ใกล้และไกล
เสมือนดวงจันทร์เป็นที่ชื่นชมของผู้คนและสรรพสัตว์
ผมเองก็ได้ความรัก และมีความสุขทุกครั้งที่ได้อ่านและพูด
คุย อย่าอิจฉาที่ใครก็ตามที่อยู่ใกล้ตัวน้าสุ ถ้าท่านได้เป็นเจ้าของ
หนังสือเล่มนี้ ท่านโชคดี ได้สัมผัสความรักในเพลง และบันทึกที่มี
คุณค่า พิสุทธิอาภรณ์ ได้มอบความรักให้ทุกท่านได้ชื่นชอบ

ปราจิน เอี่ยมลำเนา

ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
25 สิงหาคม 2555