คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



ตำนานรัก... “บ้านนรสิงห์”
ตอน ๓ (ทำเนียบรัฐบาล)

ในที่สุดก็ได้ฤกษ์เขียนถึง “ตำนานรัก” ของท่านเจ้าของบ้าน “นรสิงห์” ต้องขออภัยต่อคุณผู้อ่านที่ติดตามมาตั้งแต่ตอนแรก จากการเว้นวรรคไปหนึ่งอาทิตย์ และเสาร์ที่แล้วคั่นด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน ซึ่งต้องรีบเขียนคุยมิฉะนั้นจะตกข่าว คิดเข้าข้างตัวเองว่า “ตำนานรัก” นี้เป็นประวัติศาสตร์คงไม่มีการตกข่าว วันเข้าพิธีเสกสมรสกับภรรยาคนแรกของท่าน คือวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖ ๗ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าฯ ทรงเป็นเจ้าภาพประกอบพิธี ณ พระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานน้ำสังข์แด่ท่านเจ้าพระยาหนุ่มโสดแห่งราชสำนักฯ และธิดาสาวสวยของท่านมหาอำมาตย์นายกเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล และพระอาจารย์ถวายการสอนหนังสือแด่พระเจ้าลูกเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว นี่เป็นเพียงส่วนปลีกย่อยที่กล่าวถึงงานรับราชการ

คุณหญิงประจวบ สุขุม เป็นธิดาคนเล็กที่เกิดกับท่านผู้หญิงตลับ ยมราช เมื่อเสกสมรสแล้วท่านจึงจากบ้าน “ศาลาแดง” มาอยู่บ้าน “นรสิงห์” ซึ่งเป็นเรือนหอ-วิมานรัก ท่านเจ้าคุณรามฯ บันทึกไว้ในสมุดปกแข็งสีแดงกว้างประมาณ ๕ นิ้ว ยาวประมาณ ๗ นิ้ว ที่หน้าปกพิมพ์ตัวอักษรทองว่า “สมุดจดหมายเหตุรายวัน พุทธศักราช ๒๔๖๗ รามราฆพ” หน้าแรกเริ่มบันทึกในวันที่ ๑ เมษายนจนตลอดปี ๒๔๖๗ เป็นลายมือของท่านเอง เขียนด้วยปากกาหมึกดำ บันทึกสำหรับวันหนึ่งก็จบลงภายในหนึ่งหน้า (หน้าละวัน) พอถึงวันสำคัญ วันที่ ๑๘ สิงหาคม เขียนด้วยหมึกสีแดงเป็นพิเศษอย่างที่ชาวต่างชาติเรียก “RED LETTER DAY” เพราะเป็นวันพิเศษในชีวิต ท่านบันทึกไว้ว่า

“ วันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๗

วันจันทร์ แรม ๔ ค่ำ เดือน ๙

วันประสูติกรมหลวงพรหมฯ ส่งอ่างเคลือบสีแดงไปถวาย เช้าเลี้ยงพระสวดมนต์ ๓ โมงเช้าไปเปิดสนามกอล์ฟมหาดเล็กที่กรมพระอัศวราช (ในฐานะสภานายกพิเศษ สนามกอล์ฟดุสิต) บ่ายโมงเสกสมรสแต่งเครื่องยศขาว มีพระราชทานเลี้ยงกลางวัน พระราชทานรูปสีน้ำมันแก่เราหนึ่งรูป พระราชทานกระบังหน้าเพ็ชรแก่แม่ประจวบ และพระราชทานเงินคนละ ๕๐ ชั่ง..... การปูที่นอน ท่านเจ้าพระยายมราชกับท่านผู้หญิงยมราชเป็นผู้ปู”

ก่อนวันเสกสมรสวันที่ ๑๗ มีการสวดมนต์พระ ๖ รูป ที่ตึกเย็นในการขึ้นบ้านแต่งงาน และคู่บ่าวสาวใช้ “ตึกเย็น” เป็นที่พักอาศัยต่อมา เนื่องจากเป็นอาคารหลังเดียวที่มีเครื่องทำความเย็น อีกประการหนึ่งตึกไกรสรหรือตึกไทยคู่ฟ้ายังสร้างไม่แล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ เสด็จสวรรคต ในวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๘ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้าง บ้าน “นรสิงห์” พระราชทานท่านเจ้าคุณรามฯ ในปี ๒๔๖๐ ซึ่งใช้เวลานานมาก ถึงแม้ตึกไกสร (ไทยคู่ฟ้า)ยังไม่เสร็จบริบูรณ์ ท่านเจ้าของบ้านก็ได้ใช้บางส่วนของตึกเป็นที่พักอาศัยชั่วครั้งชั่วคราว และจัดงานอันมีเกียรติเป็นครั้งคราว ดังได้เขียนคุยไว้ในตอน ๒

คุณสำเนา (พี่จิ๋ว) สุขุม ธิดาคนเล็กของหลวงสุขุมนัยประดิษฐ์ที่เกิดกับคุณรัตนา สุขุม เล่าให้พวกเราฟังว่าท่านเจ้าคุณรามฯ จะใช้คำว่า “ปิคนิค” เวลาไปกางมุ้งนอนกันที่ตึกไทยคู่ฟ้าปัจจุบัน พี่จิ๋วมีศักดิ์เป็นหลานอาของคุณแม่หญิง (คุณหญิงประจวบ) ทุกตึกที่เดินผ่านเปิดไฟทุกดวง เช่นเดียวกับบ้านท่าเกษม สว่างไสวมีเสาไฟฟ้าตามถนนในบริเวณบ้าน พี่จิ๋วเป็นบุคคลเดียวที่ยังจำอะไรต่ออะไรที่บ้าน “นรสิงห์” ได้ เพราะตอนนั้นจะโตกว่าเพื่อน ส่วนมารดาทั้ง ๕ ของพวกเราเสียชีวิตไปแล้ว ๓ ท่าน ที่ยังมีชีวิตอยู่ก็จำอะไรไม่ได้ อย่างไรก็ตามพี่จิ๋วกรุณาบอกชื่ออาคารต่างๆ ในบ้านนรสิงห์ นอกจากตึกไกรสร (ไทยคู่ฟ้า) ก็มี ใจจอด พระขรรค์ (นารีสโมสร) บุญญาศรัย (ความหมายคือ พึ่งบุญ นี่เอง) พึ่งบุญ เรือนพราน เรือนทะเล เรือนพลอยนพเก้าเป็นที่พักของคุณหลวงสุขุมฯ และครอบครัว

แปลกใจที่กลิ่นน้ำอบไทยลอยคลุ้งไปทั่ว ขณะที่เจ้าหน้าที่และทหารรื้อปรับปรุงตึกนารีสโมสร ท่านเจ้าของบ้านชอบใช้เป็นประจำ และเมื่อท่านย้ายไปบ้านหลังไหนก็ต้องมีบนโต๊ะเครื่องแป้ง ส.ท่าเกษม แอบใช้บ่อยๆ ที่หมดแล้วคงต้องขอคุยต่อฉบับหน้า

นับว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างที่สุด!!! วันที่เขียนคุยนี้ตรงกับวันที่ ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นเวลา ๙๐ ปีเต็มๆที่ท่านเจ้าคุณรามฯ เสกสมรสกับรักแรกของท่าน


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๒๓ สิงหาคม ๒๕๕๗