คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม





วัดพุทธจักรมงคลรัตนาราม เอสคอนดิโด้
BUDDHIST TEMPLE OF CALIFORNIA

จุดเทียนบวงสรวงปวงเทพเจ้า
สวดมนต์ค่ำเช้าถึงคราวระทมทน
โอ้ชีวิตหนอล้วนรอความตายทุกคน
หลีกไปไม่พ้นทุกข์ทนอาทรร้อนใจ
ต่างคนเกิดแล้วตายไป
ชดใช้เวรกรรมจากจร

นิจจังสังขารนั้นไม่เที่ยงเสี่ยงบุญกรรม
ทุกคนเคยทำกรรมไว้ก่อน
เชิญปวงเทวดาข้าไหว้วอน
ขอพรคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
หนีปวงโรคาที่เบียดเบียน
แสงแววชีวาเปรียบแสงเทียน

เปรียบเทียนสิ้นแสงยามแรงลมเป่า
ชีพดับอับเฉาเหมือนเงาไร้ดวงเทียน
จุดเทียนถวายหมายบนบูชาร้องเรียน
โรคภัยเบียดเบียนแสงเทียนทานลมพัดโบย
โรครุมเร้าร้อนแรงโรย
หวนโหยอาวรณ์อ่อนใจ

ทำบุญทำทานกันไว้เถิดเกิดเป็นคน
ไว้เตรียมผจญชีวิตใหม่
เคยทำบุญทำคุณปางก่อนใด
ขอบุญคุ้มไปชีวิตหน้า
ทนทรมานมามากแล้วจะกราบลา
แสงเทียนบูชาจะดับพลัน
แสงเทียนบูชาดับลับไป


เพลงพระราชนิพนธ์ “แสงเทียน” ทำนอง: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช

คำร้อง: พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ

เพลงพระราชนิพนธ์แสงเทียน: Candlelight Blues เป็นเพลงพระราชนิพนธ์เพลงแรก ทรงพระราชนิพนธ์ในเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ ครั้งดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระอนุชาธิราช ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ (ขณะดำรงพระยศเป็นหม่อมเจ้าจักรพันธ์เพ็ญศิริ จักรพันธ์) นิพนธ์คำร้องภาษาไทย แต่เนื่องจากมีพระราชประสงค์ ที่จะทรงแก้ไขทำนอง และคอร์ดบางตอน จึงยังไม่โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้นำออกมา บรรเลงในเวลานั้น ต่อมาได้พระราชทานให้นำออกบรรเลงครั้งแรก พ.ศ. ๒๔๙๐ และใน พ.ศ. ๒๔๙๖ นางสาว สดใส วานิชวัฒนา (รองศาสตราจารย์ สดใส พันธุมโกมล) ประพันธ์คำร้องภาษาอังกฤษถวาย

พวกเราคนไทยชาวพุทธที่อยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกานี้นับว่าโชคดีมาก ไม่ว่าจะอยู่รัฐไหนก็สามารถไปทำบุญร่วมพิธีทางศาสนาได้ ถึงบางรัฐยังไม่มีวัดแต่รัฐที่ใกล้เคียงยังพอมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะรัฐแคลิฟอร์เนียดูจะมีวัดมากที่สุด ส.ท่าเกษม เดินทางเป็นประจำ ไม่ว่าจะไปที่ ลาสเวกัส พาล์มสปริงส์ แซนดิเอโก้ ฯลฯ สามารถไปทำบุญวันเกิด ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้วายชนม์ได้อย่างสะดวก ใกล้ที่ไหน...ไปที่นั่น !

เช่นขณะนี้พักอยู่ที่ LAWRENCE WELK RESORTS, ESCONDIDO เลยได้อาศัย วัดพุทธจักรมงคลรัตนาราม ที่เมือง เอสคอนดิโด้ ซึ่งอยู่ห่างจากที่พักเพียง ๑๕ นาที ร่วมทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ได้ถวายความอาลัยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นหาที่สุดมิได้ น้อมเกล้าฯ ส่งดวงพระวิญญาณเสด็จสู่สวรรคาลัย

วัดนี้มีท่านเจ้าอาวาส พระโพธิ์ หรือ พระใบฎีกาพีระญาณ ฐิตญาโณ อยู่ในตำแหน่งดูแลมาเป็นเวลา ๕ ปี แต่ท่านอยู่ที่นี่เป็นเวลา ๘ ปีแล้ว ก่อนที่จะมาประเทศอเมริกาและประเทศอื่นๆ พระสงฆ์ทุกรูปต้องเข้ารับการอบรมเป็นเวลา ๓ เดือน รุ่นของท่านมี ๗๖ รูป

ขั้นที่ ๑ เรียนรู้การ สร้างกุฏิสงฆ์ นอกจากเรียนรู้หลักพื้นฐานของการสร้างแล้ว เช่น ช่างไม้ ทาสี เทซีเมนต์ ฯลฯ ยังได้เรียนรู้ถึงการทำงานร่วมกัน ความสามัคคีปรองดอง ได้ออกกำลังมีสุขภาพที่สมบูรณ์ ฯลฯ

ขั้นที่ ๒ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน คือความมุ่งมั่นที่จะเฝ้าดูกายและใจของเราเพื่อเข้าใจสภาวะอันแท้จริงของกายและใจ ซึ่งก็คือ ความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และความไม่มีตัวตน ( อนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา) ผลจากการฝึกวิปัสสนา เราจะเริ่มปล่อยวางความยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวง เมื่อจิตมีความยึดมั่นน้อยลง คุณก็เริ่มรู้สึกเป็นอิสระ-เบาสบายและผ่อนคลายในทุกสถานการณ์

การเจริญวิปัสสนานำมาซึ่งความดับทุกข์ และความสงบสุขที่มิได้อาศัยปัจจัยภายนอก

ขั้นที่ ๓ วิชาการ ต้องเรียนรู้จิตวิทยา การสื่อกับคนทั่วไปและความรู้ในด้านอื่นๆอีกหลายด้าน ครั้นถึงเวลารับ เกียรติบัตร หลังจากจบการอบรมรุ่นท่านโพธิ์ เหลือพระสงฆ์เพียง ๖๕ รูป

ท่านเจ้าอาวาส พระใบฎีกาพีระญาณ ฐิตญาโณโชคดีที่บิดาของท่านเห็นการณ์ไกลส่งเข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เมื่ออายุ ๑๗ ปีตั้งแต่ยังเป็นสามเณรอยู่ เริ่มสนใจภาษาอังกฤษเป็นพิเศษเมื่อถูกนักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ๒ คนถามทางและท่านไม่สามารถพูดบอกทางได้ พอดีได้ครูเป็นแหม่มชาวอเมริกันที่มีที่พักอยู่แถววัดถวายการฝึกสอนให้พูดภาษาอังกฤษ การมาประเทศอเมริกาของท่านค่อนข้างจะราบรื่น ตั้งแต่ทำหนังสือเดินทางจนถึงวีซ่า ทุกอย่างผ่านหมดมีหนังสือรับรองจากเจ้าอาวาสที่อเมริกา เลยทำให้การติดต่อกับสถานฑูตอเมริกันสะดวกขึ้นถึงแม้จะต้องไปถึง ๓ ครั้งก็ตาม นอกจากสนใจภาษาอังกฤษจากเมืองไทยแล้ว ท่านเจ้าอาวาสยังศึกษาฝึกฝนการใช้คอมพิวเตอร์ด้วยตัวท่านเอง ได้สร้างเวบไซต์ให้วัดและดูแลอยู่ทุกวันนี้

วัดพุทธจักรมงคลรัตนาราม เมืองเอสคอนดิโด้ แซนดิเอโก้ เป็นวัดในพระพุทธศาสนา ฝ่ายเถรวาท สังกัดมหานิกาย ได้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๓/๑๙๙๐ จากพลังศรัทธาของพุทธศาสนิกชนชาวแซนดิเอโก้ และ เมืองใกล้เคียง ที่อยากจะมีวัดอยู่ใกล้บ้านไม่ต้องลำบากเดินทางไปทำบุญ ณ วัดซึ่งอยู่ห่างไกล จึงได้กราบอาราธนาพระเดชพระคุณ พระมงคลเทพโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเจ้าคณะ ๓ วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพมหานคร และ เจ้าอาวาสวัดมงคลรัตนาราม เมืองเบอร์กเลย์ ซานฟรานซิสโก มาเป็นประธานอำนวยการสร้างวัดพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์จากวัดมงคลรัตนารามอีกจำนวนหนึ่ง

ในระยะเริ่มแรกนั้น ได้ใช้บ้านของ คุณถนอม - คุณจิม สแตริทท์ เลขที่ 2130 Landis Street, San Diego รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นสำนักงานชั่วคราว เพื่อประชุมเลือกตั้งคณะกรรมการดำเนินงานและตั้งชื่อวัด คณะกรรมการที่ร่วมประชุมก่อตั้งประกอบด้วย คุณบุญรัตน์ ตันตราผล คุณถนอม สแตริทท์ คุณดนัย เงาจีนานันท์ คุณวิชัย – คุณทัศนีย์ วิเศษสังข์ คุณสมยศ แสงสุวรรณ คุณวิไล วิลเลียมส์ คุณดารณี บุญซื่อ คุณยงยุทธ เพิ่มพูน คณุวีระศักดิ์ ประสานนิล คุณสมเกียรติ ถึกเจริญ

วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๓๓/๑๙๙๐ได้รับอนุญาตจดทะเบียนให้เป็นวัดโดยถูกต้อง โดยความอนุเคราะห์จาก นางมาช ฟอง ยู เลขาธิการรัฐแคลิฟอร์เนีย ในสมัยนั้น

วันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๓๓/๑๙๙๐ได้ซื้อที่ดินและอาคารเลขที่ 139 West 11th Ave. Escondido, CA 92025 และได้ย้ายมาอยู่ที่แห่งใหม่นี้ จนถึงปัจจุบัน

วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๕๓๔/๑๙๙๑ พระเดชพระคุณพระธรรมวิมลโมลี วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ได้เดินทางมาในนามพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (วัดสระเกศ) พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ จำนวน ๓๐ รูป จากประเทศไทยมาเป็นประธานพิธีเปิด วัดพุทธจักรมงคลรัตนาราม อย่างเป็นทางการ และเป็นวัดสังกัดสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา อันดับที่ ๒๑ มีพระธรรมทูตที่ได้รับการอบรมจากหน่วยงานที่มหาเถรสมาคมมอบหมาย มาปฏิบัติศาสนกิจสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตลอดมา

ภายในบริเวณวัดมีอาคาร ๓ หลังซึ่งซื้อมาจาก ๓ เจ้าของในเวลาต่างกัน เป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่อาคารทั้ง ๓ หลังจ่ายหมดแล้วไม่เป็นหนี้สินใคร อาคารที่ ๑ คือ ศาลาอเนกประสงค์ของวัด เป็นที่ทำวัตรสวดมนต์ ทำบุญกุศลในเทศกาลต่างๆ อาคารที่ ๒ เป็นกุฏิสงฆ์และสำนักงาน อาคารที่ ๓ ใช้เป็นห้องเรียน ที่ประชุม ปฏิบัติธรรม และจัดกิจกรรมหรือจัดงานในเทศกาลต่างๆ ของวัด

นอกจากนี้วัดยังมีสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีก ห้องเรียนภาษาไทย ดนตรี และนาฏศิลป์ไทย 1 ห้อง, ศาลาทรงไทยขนาดเล็ก ๑ หลัง, วิหารเล็ก หลวงพ่อพระพุทธมงคลรัตน์ภูมิพัฒนมหามุนี ภปร. ๑ หลัง ห้องสำหรับเก็บสิ่งของ ๔ ห้อง (แยกต่างหากจากอาคารดังกล่าว) ศาลพระแม่กวนอิม ๑ หลัง และ ศาลพระพรหม ๑ หลัง


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๒๙ ตุลาคม ๒๕๕๙