คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



“ลาสเวกัส”...เมืองวีรบุรุษและวีรสตรี
คืนวันอาทิตย์ที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๐

ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้คุณผู้อ่านทุกๆ ท่านทราบว่า ข้อความในคอลัมน์นี้ไม่ใช่เป็นการรายงานข่าวที่ยิ่งใหญ่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศสหรัฐอเมริกา รัฐเนวาด้า นครลาสเวกัส ที่พวกเราชาวแอล.เอ.และเมืองใกล้เคียงรู้จักคุ้นเคยกันดี แต่เป็นการเล่าถึงประสบการณ์โดยตรงของ ส.ท่าเกษม ที่เผอิญอยู่ในเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญหวาดผวาเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ ๑ ต.ค.ที่เพิ่งผ่านไป เป็นวันเวลาเดียวกันตึกเดียวกันของโรงแรมมัณฑะเลย์เบย์ รีสอร์ทแอนด์คาสิโน MANDALAY BAY RESORT AND CASINO ตลอดเวลาที่คนร้ายกระหน่ำสาดกระสุนเป็นร้อยๆ นัดจากห้องชุดหรู (SUITE) มี ๒ ห้องนอนอยู่ตรงมุมตึกของชั้นที่ ๓๒ สู่เทศกาลงานดนตรี THE ROUTE 91 HARVEST FESTIVAL มีฝูงชนกว่า ๒๒,๐๐๐ คนร่วมสนุกหาความสุขกับเสียงเพลงของดาราเพลงลูกทุ่งฝรั่ง COUNTRY MUSIC ที่มีชื่อว่า JASON ALDEAN งานนี้อยู่บนถนนลาสเวกัสเช่นเดียวกับ MANDALAY BAY แต่คนละฝั่ง จึงเป็นเป้าหมายที่ง่ายเพราะเปิดโล่งอยู่กลางแจ้งไม่มีอะไรปิดบัง ผู้ร้ายชาวอเมริกันเกษียณแล้วในวัย ๖๔ ปี อดีตนักบัญชีสามารถมองเห็นเหยื่อกระสุนของเขาได้อย่างชัดเจน ใช้เวลาเพียง ๙ – ๑๑ นาที ปลิดชีพผู้บริสุทธิ์ไป ๕๘ ชีวิต บาดเจ็บ ๔๘๙ S.W.A.T. TEAM บุกเข้าห้องชุดและตรวจพบภายหลังที่คนร้ายปลิดชีวิตตัวเอง มีอาวุธปืนต่างๆ ถึง ๒๓ ชิ้นบรรจุมาในกระเป๋าเสื้อผ้า ๑๐ ใบ

ในคอลัมน์นี้จะข้ามไม่เอ่ยชื่อของฆาตกรใจอำมหิต ไม่ต้องการที่จะลงภาพหรือแม้แต่ชื่อให้เป็นอัปมงคล อมนุษย์เช่นนี้ไม่มีคุณค่าอะไรที่เราจะต้องจำชื่อจำหน้า ส่วนรูปผู้นอนเสียชีวิตตามที่ต่างๆและกำลังบาดเจ็บในระหว่างเกิดเหตุร้ายที่ไม่นำมาลง ก็เพื่อให้ความเคารพให้เกียรติและให้ความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล หลายๆ คนเป็นบุคคลที่ทำประโยชน์ให้ประเทศและส่วนรวม และที่แน่นอนที่สุดคือเขาเหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้ที่รักเสียงเพลงจิตใจเบิกบาน มาหาความสุขกับครอบครัว คนรัก เพื่อนฝูง ฯลฯ ไม่ได้ทำผิดอะไรเลย แต่กลับถูกลอบทำร้ายอย่างไม่รู้ตัวไม่มีทางหลีกเลี่ยง อย่างไรก็ตามความเห็นส่วนตัวของ ส.ท่าเกษม เชื่อว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังไม่ได้ทำคนเดียว ไม่คิดว่าคนที่มีฐานะดี มีความสุขกับการใช้ชีวิต จะปฏิบัติการเพียงคนเดียวเป็น LONE WOLF !

ปีนี้เราเดินทางมาพักผ่อนที่ลาสเวกัสตั้งแต่วันที่ ๗ กันยายน จะเดินทางมาเปลี่ยนบรรยากาศที่นี่เป็นเวลา ๔-๕ สัปดาห์ในระยะนี้ทุกปี เพื่อฉลองวันสมรสและรียูเนี่ยนกับเพื่อนของหัวหน้าครอบครัวที่เคยเป็น BUDDY ARMY กันมาตั้งแต่สมัยเป็น จี.ไอ. อยู่ที่ประเทศเยอรมันนี คราวนี้ก็เช่นกันเราปักหลักอยู่ที่ TAHITI VILLAGE สถานที่แห่งนี้เป็น TIMESHARES และเปิดรับแขกทั่วไป ระหว่างพักอยู่ที่นั้นได้คุยกับเพื่อนสมาชิกจากประเทศแคนาดา เธอบอกว่าจะไปดู เซลีน ดิออน เลยชมไปว่าเข้าใจเลือกโชว์ เราไปดูมาหลายปีแล้วยอดเยี่ยม เธอจึงบอกว่าเพิ่งไปดู MICHAEL JACKSON ONE มา ยอดเยี่ยมเช่นกัน

วันอาทิตย์ที่ ๑ ตุลาคม เรา ๒ คนย้ายเข้า TROPICANA HOTEL โทรฯสั่งจองบัตรที่ MANDALAY BAY เลือกดูคืนนั้นเลย ไม่ชอบผลัดวันประกันพรุ่ง กลัวพลาดเพราะกว่าจะมาอีกทีก็ปีหน้า เสาร์นี้ได้นำรูปมาลง ๑๔ ใบ เป็นการเล่าเหตุการณ์ด้วยภาพ จากวันที่ ๑ จนถึงวันนี้วันพุธที่ ๔ ดังนั้นจำนวนตัวเลขและข้อความบางตอนอาจจะไม่ตรงกับเวลาที่หนังสือพิมพ์วางแผง คืนนั้นนั่ง MONORIALไปดูโชว์เพราะสะดวกมาก สายตรงจาก TROPICANA ไป MANDALAY BAY ที่มี M.J.ONE โชว์อยู่ โชคดีที่ไม่ได้เอารถไป เพราะในราวตี ๒ ครึ่งหลังจากทางโฮเต็ลและเจ้าหน้าที่ตำรวจประสานงานกัน จึงประกาศว่าจะพาพวกเราทั้งหมดที่ถูกเก็บตัวอยู่ในโรงละครไปที่มหาวิทยาลัยเนวาด้า ห้ามไม่ให้กลับไปเอารถที่ที่จอดรถของโฮเต็ล มาทราบที่หลังว่าตร. ค้นรถฆาตกรที่จอดอยู่ในที่จอดรถ พบสารทำระเบิดและอาวุธปืนอีกจำนวนหนึ่ง

ระหว่างรอเข้าโรงละครได้แวะเข้าไปในร้านขายของที่ระลึก ซื้อหมวก M.J. มาใส่ให้เข้ากับบรรยากาศ หย่อนใบเก่าที่ใส่อยู่ไปในถุงแทน หมวก M.J.ที่ซื้อมาใส่เพื่อความเก๋ไก๋นี้กลับกลายเป็นสิ่งจำเป็นที่ได้ใช้ประโยชน์ทั้งคืน ภายในโรงละครเปิดเครื่องทำความเย็นสูงมากจนเย็นยะเยือก ส่วนเงาประจำตัวที่ไม่เคยร้อนไม่เคยหนาวกับใครเขา คราวนี้ถึงกับออกปากเพราะใส่เสื้อเชิ๊ตไปเพียงตัวเดียว อากาศที่ลาสเวกัสระยะนี้สบายมาก ไม่ได้นึกว่าจะต้องมานั่งเฉยๆอยู่บนเก้าอี้ตั้งแต่ ๓ ทุ่มครึ่งจนตี ๒ ครึ่ง แล้วยังต้องระหกระเหินไปทั่วเมืองเวกัสทั้งคืน สรุปแล้วเงาประจำตัวเลยใส่หมวกใบเก่าของ ส.ท่าเกษม ซึ่งช่วยป้องกันความหนาวเย็นได้อย่างดี ส่วนคุณผู้หญิงไปไหนมาไหนน่าจะนำผ้าพันคอติดตัวไปด้วย ในยามฉุกเฉินช่วยได้มากทีเดียวถึงแม้นจะดูบางเบา แต่ถ้าใช้พันรอบลำคอหลายๆทบก็ช่วยให้ความอบอุ่นได้เหมือนกัน

โชว์เริ่ม ๓ ทุ่มครึ่ง ความยาวชั่วโมงครึ่งไม่มีหยุดพักการแสดง ส่วนทางคอนเสิร์ทลูกทุ่งที่เทศกาลงานดนตรีเริ่ม ๓ ทุ่ม ๔๐ นาที ขณะที่คนดู ๑,๖๐๐ คนในโรงละครชั้นล่างกำลังตื่นตาตื่นใจกับเพลง แสงสี ฉาก นักกายกรรมกับเสื้อผ้าชุดแสดงสวยๆแปลกตา ภายในตึกเดียวกันบนชั้น ๓๒ คนร้ายได้เตรียมปืนไรเฟิลอัตโนมัติ ๒ ตัว ติดกล้องเล็งที่ใช้สำหรับส่องยิงสัตว์ป่า และใช้ “BUMP STOCKS” เป็นตัวช่วยในการยิงรัวได้ตลอดไม่ต้องหยุดพัก พร้อมทั้งทุบกระจกหน้าต่างทั้ง ๒ ในห้องชุดตรงหัวมุมตึก ๔ ทุ่ม ๕ นาที กระสุนชุดแรกกราดยิงโดยผู้ร้าย ๔ ทุ่ม ๑๒ นาที นายตำรวจ ๒ คนขึ้นถึงชั้น ๓๑ ของตัวตึก ๔ ทุ่ม ๑๕ นาที กระสุนชุดสุดท้ายรัวออกจากไรเฟิลสู่ด้านล่างข้ามถนนไปอีกฝั่งอย่างไม่เลือกหน้า ผู้คนหลบหนีอย่างตื่นตระหนก รวมทั้งหมดเป็นร้อยๆ นัด ๔ ทุ่ม ๑๗ นาที ทีมตำรวจไต่บันไดถึงชั้น ๓๒ ๕ ทุ่ม ๒๐ นาที หน่วย S.W.A.T บุกเข้าห้องพักเบอร์ ๑๓๕ ๕ ทุ่ม ๒๗ นาที บุกเข้าเป็นครั้งที่ ๒ ไม่พบใครอีก

ภายในโรงละครแสดงไปได้เพียง ๒ ใน ๓ ก็หยุดนิ่ง เป็นช่วงเวลาที่การแสดงในเพลงนั้นสิ้นสุดลงพอดี ทุกอย่างนิ่งสงบ คนดูต่างนึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง ได้ยินเสียงหัวเราะ เสียงเป่าปาก ซักพักใหญ่ตอน ๔ ทุ่ม ๔๖ นาที ส.ท่าเกษม จึงเท็กซ์ถึงสมาชิกคนกลางในครอบครัวที่แอลเอ “ด่วน! ช่วยสืบดูซิลูกว่าเกิดอะไรขึ้นที่ MANDALAY BAY พ่อแม่ติดอยู่ในโรงละคร ๓๐ นาทีแล้ว ไม่มีประกาศอะไรเลยนอกจากขอให้อดทนกันต่อไปอีก พ่อเห็นข่าวในมือถือว่ามีการยิงกันในคาสิโน เราถูก LOCKDOWN (ปิดตายเพื่อป้องกันบุกรุกโจมตี คนในห้ามออกคนนอกห้ามเข้า)” มือถือของ ส.ท่าเกษม แบตเตอรี่เหลือน้อยต้องเก็บไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ ระยะนี้ DO-RE-MI และหลานชาย MAX ที่กำลังเรียนอยู่ที่ SJSU ต่างเท็กซ์เข้า ทางเราเลยใช้ “กรุ๊ปเท็กซ์” ข่าวแรกรายงานว่ามีการยิงกันในคาสิโนซึ่งเป็นการเข้าใจผิด ที่จริงแล้วผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกยิง วิ่งหนีออกจากคอนเสิร์ทข้ามถนนเข้ามาในล็อบบี้ของ MANDALAY BAY HOTEL เนื้อที่จำกัดกรุณาติดตามเรื่องราวของ ลาสเวกัสเมืองวีรบุรุษและวีรสตรี ต่อสัปดาห์หน้า


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๗ ตุลาคม ๒๕๖๐