คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม





“คืนกระจ่างฟ้า” ณ ไทยแลนด์พลาซ่า
จันทร์กระจ่างฟ้า นภาประดับด้วยดาว
โลกสวยราว เนรมิตประมวลเมืองแมน
ลมโชยกลิ่น มาลากระจายดินแดน
เรียมนี้แสน คะนึงถึงน้องนวลจันทร์
งามใดหนอ จะพอทัดเทียมเปรียบน้อง
เจ้างามต้องตาพี่ ไม่มีใครเหมือน
ถ้าหากน้อง อยู่ด้วยและช่วยชมเดือน
โลกจะเหมือน เมืองแมนแม่นแล้วนวลเอย

เพลง “คิดถึง” (หลายต่อหลายคนคิดว่า ชื่อเพลง “จันทร์กระจ่างฟ้า”)

คำร้อง...เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ท่านมีความสามารถรอบตัว และหนึ่งในนั้นคือ เป็นนักประพันธ์ ใช้นามปากกาว่า “ครูเทพ”

ทำนอง... Pablo de Sarasate นักประพันธ์และนักไวโอลิน ชาวสเปน แต่งไว้ใน ค.ศ.๑๙๗๘ (พ.ศ.๒๔๒๑) ชื่อเพลง ยิบซีแอร์ (Gypsy Air) Sarasate : Gypsy Air, OP.20 ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น ยิบซีมูน (Gypsy Moon) ที่เรารู้จักกันดี โดยเขาได้ประพันธ์เนื้อเพลงเพิ่มเข้าไปอีก เป็นเรื่องราวที่โยงถึงความรักของชาวยิบซีกับพระจันทร์ ใช้พระจันทร์เป็นสื่อ ทำนองเพลงสากลและคำร้องที่เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรีประพันธ์ไว้ ผสมผสานกันอย่างกลมกลืนทั้งหวานทั้งเศร้า ส.ท่าเกษม เคยเขียนถึงเพลงนี้เมื่อ ๑๐ กว่าปีมาแล้วว่าผู้ ที่กำลังอยู่ในห้วงของความรัก ฟังเพลงนี้ก็ยิ่งซาบซึ้งกับความรักเข้าไปอีกจนหัวใจพองโต และในทางตรงกันข้ามผู้ที่ผิดหวังในความรัก เมื่อฟังเพลงนี้แล้วก็ยิ่งหดหู่เศร้าใจเข้าไปอีกเพราะท่วงทำนองเพลง บางตอนของเพลงท่านได้แปลเป็นภาษาไทยใส่ไว้ในเนื้อร้องด้วย

คุณเพ็ญพิมพ์ จิตรธร (เจ้าเก่า ผู้หญิงเก่งมือโปร) จัดคอนเสิร์ตประสบผลสำเร็จมานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งรวมทั้งครั้งนี้ด้วย ครั้งนี้ผู้เข้าชมต่างก็ชื่นชมกับเสียงเพลงและเสียงร้องของศิลปินแห่งชาติผู้ครองใจแฟนๆ เพลงอย่างมิเสื่อมคลาย พิสูจน์ได้จากการที่ห้องอาหารจินดา บนไทยแลนด์พลาซ่าแน่นเอี๊ยดจนแทบ ไม่มีที่เดินเพราะต้องจัดโต๊ะเพิ่ม บัตรจำหน่ายหมดเกลี้ยงก่อนวันแสดง บรรยากาศ ณ ที่นั้นอบอวลไปด้วยความสุขจากเสียงเพลงของนักร้องในดวงใจของแต่ละคน ภาพที่แฟนๆ เพลงทุกเพศทุกวัยมอบช่อดอกไม้ รางวัล และถ่ายรูป เป็นภาพที่ประทับใจยิ่งนัก !

บังเอิญว่าคืนนั้น “คืนกระจ่างฟ้า” ที่คุณเพ็ญพิมพ์ตั้งชื่อคอนเสิร์ตตรงกับคืนแรม ๓ ค่ำ ขณะที่ใครๆ ต่างอิ่มเอมกับเสียงร้องที่ยังคงเป็นหนึ่ง อภิมหาอมตะนิรันดร์กาลของศิลปินแห่งชาติร้องเพลง “คิดถึง“ สลับกันคนละท่อนบนเวทีไทยแลนด์พลาซ่า นับว่าเป็นประวัติศาสตร์ในวงการเพลงของเมืองแอล.เอ. แทนที่จะดื่มด่ำไปกับเสียงเพลงอันสุดแสนจะไพเราะ ใครคนหนึ่งกลับใจประหวัด ไปถึงเพลง “จันทร์” ที่คุณพราวตา ดาราเรือง ขับร้องไว้เมื่อตอนหัวค่ำ เพลงขึ้นต้นว่า


“จันทร์คืนแรมวับแวมอยู่บนปลายฟ้า
คงล้าอ่อนแรงทอแสงแหว่งเว้าครึ่งดวง
คืนเหงามันเศร้ามันซึมในทรวง
จันทร์เพียงครึ่งดวง คล้ายจันทร์เจ้ารอใคร...”

ดูเหมือนว่าเพลง“คิดถึง“ นี้ เป็นเพลงที่ทำให้จิตใจของใครผู้นั้นล่องลอยจากเสียงเพลงบนเวที... ไปถึงเพลง “จันทร์”

ต้องขอขอบคุณและขอชมคุณเพ็ญพิมพ์ที่จัดรายการเพลงได้โดนใจแฟนๆ เพลงที่ห้องอาหาร เริ่มจาก คุณสุเทพ วงศ์กำแหง เปิดรายการช่วงของท่านด้วยเพลง “คนเดียวในดวงใจ” ตามด้วย เสน่หา ฯลฯ ถูกคุณชรินทร์แซวว่า “คืนนี้คุณสุเทพร้องเพลง “หยาดเพชร” ให้ เพชรา ภรรยาผมฟัง” พี่ฉึ่ง ของคนในวงการมีมุขขำๆ ให้พวกเราได้ฮากันเช่น “ความผิดพลาด คือ เสน่ห์ของรายการสด” คืนนั้นมีบรรยากาศที่เป็นกันเอง อบอุ่น วีระ (เดอะปุ่น) ร.ประเสริฐ นักดนตรีคู่ใจของคุณสุเทพ ในอดีตได้หวลกลับมาร่วมเวทีกันอีกครั้ง ทั้งรู้ใจ ทั้งรู้คีย์ ช่วยให้ทุกอย่างราบรื่น

คุณชรินทร์ นอกจากจะร้องเพลงแบรนด์เนมของตัวเองแล้ว เช่น เรือนแพ ที่รัก ฯลฯ ยังขับร้องเพลง “โลกนี้คือละคร” ถ้าจะเขียนคุยถึงบรรยากาศใน “คืนกระจ่างฟ้า” อย่างละเอียด คงจะเป็นไปไม่ได้ เลยนำรูปภาพทั้งนอกงานและในงานมาฝากคุณๆ ผู้อ่าน ฝากชมเจ้าหน้าที่ พนักงานทุกแผนกที่ไทยแลนด์พลาซ่าในคืนนั้น ส.ท่าเกษม ประทับใจมากขอบอก ตั้งแต่แผนกต้อนรับไปจนถึงแผนกเครื่องดื่มที่ คุณเล็ก เศวตชัย ดูแลอยู่ งานนี้ไม่ได้ถ่ายรูปเพราะตั้งใจจะมาฟังเพลงพี่ๆ ศิลปินแห่งชาติขับร้องอย่างเต็มที่

ขอบคุณ ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ และ คุณรุ่งโรจน์ สาลิฟา (เลขาฯ คุณสุเทพ) ที่เอื้อเฟื้อรูปต่างๆ ในคอลัมน์


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๘