คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



ตำนานรัก... “บ้านนรสิงห์”
ตอน 4 (ทำเนียบรัฐบาล)

ตำนานรักฯ ตอนที่ ๓ เขียนคุยค้างอยู่ที่ “น้ำอบไทย” ซึ่งเป็นแรงกระตุ้นทำให้เขียนถึงเรื่อง “บ้านนรสิงห์” อันเป็นที่มาแห่งตำนานรัก ท่านเจ้าของบ้านใช้น้ำอบไทยหรือน้ำปรุงเป็นประจำทุกวัน เวลาอยู่บ้านท่านจะปะแป้งบนใบหน้าและลำแขน ถ้าลูกคนไหนอยู่ใกล้ๆ ท่านจะปะหน้าให้พวกเราด้วยน้ำอบไทยและแป้งเม็ดสีขาว ที่ผสมเข้ากันจนเป็นน้ำสีขาวขุ่นที่ยังมีเหลือติดอยู่บนฝ่ามือ ยิ่งระยะนี้อากาศร้อนจัดเลยคิดถึงน้ำอบไทยของท่านเจ้าคุณฯ ที่ใช้แป้งเม็ดด้วยเพื่อจะได้ติดทนอยู่บนผิวหน้า ผิวหนังได้นานๆ ช่วยไม่ให้น้ำอบระเหยเร็วเวลามีลมพัดผ่านจะหอมกรุ่นตัวเย็นสบาย

ขวดแก้วเจียระไนละเอียดเนื้อดีสีแดงทับทิมที่ใส่น้ำอบไทยนั้นหนักพอควรสำหรับมือเล็กๆ ทุกครั้งที่ไปแอบใช้จะต้องประคับประคองอย่างดี โดยเฉพาะจุกแก้วที่ปิดขวด ต้องค่อยๆ วางไม่ให้กลิ้งตกโต๊ะเครื่องแป้ง ระหว่างเขียนเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนต้น ก็เฝ้ารอคำตอบจากทางบ้านที่เมืองไทยว่า ใครเป็นคนทำน้ำอบไทยให้ท่านเจ้าคุณรามฯ จนวันนี้คุณนีละพงษ์อำไพ ที่อยู่รัฐมิชิแกนโทรฯ มาบอกว่าคุยกับพี่ๆ น้องๆที่เมืองไทยแล้ว คุณดวงสุดาผ่องศรี จำได้ว่าซื้อมาจากร้าน “บัวสอาด” บางลำพู ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับร้าน “สุขเกษม” ที่ขายเครื่องกระป๋อง (ของนอก)

เคยได้ยินเรื่องไร้สาระต่างๆ ก็เฉยๆ ปล่อยไป เกี่ยวกับคนที่เข้าไปอยู่ในทำเนียบรัฐบาล แล้วประสบกับเหตุการณ์ต่างๆ จนเรียกกันว่าอาถรรพ์ มาคราวนี้ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ที่เจ้าหน้าที่และกลุ่มทหารเข้าไปปรับปรุงซ่อมแซมรื้อไม้ที่ปลวกกิน แล้วต่างได้กลิ่นน้ำอบไทยลอยอบอวลในตึกนารีสโมสร (ตึกพระขรรค์) ตึกนี้ท่านเจ้าคุณรามฯ ใช้เป็นที่ตั้งศพพี่สาว คือ ท้าวอินทรสุริยา (ม.ล.เชื้อ พึ่งบุญ) เป็นพนักงานพระภูษาทำงานถวายล้นเกล้าฯ ร.๖ ซึ่งดูตามหลักแล้วท่านคงใช้น้ำอบไทยด้วย นึกดูแล้วเป็นเรื่องที่แปลกทีเดียวและไม่คิดว่า เจ้าหน้าที่และทหารฝ่ายโยธาฯ จะแต่งเรื่องขึ้นเพราะอยู่กันเป็นกลุ่มหลายคนทีเดียวในเวลากลางวันแสกๆ

ขอย้อนกลับไปคุยถึงเรื่องราวก่อนที่ท่านเจ้าคุณรามฯ จะเข้าสู่พิธีเสกสมรสกับคุณหญิงประจวบ ระยะนั้นท่านรับราชการใกล้ชิดพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทราบว่าธิดาของท่านเจ้าพระยายมราชและท่านผู้หญิงตลับที่ชื่อ “ประจวบ” อยู่ในวัยรุ่นสวยงามน่ารักอยู่ในขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม เรียนจบจากโรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนแวนต์ จึงส่งผู้ใหญ่มาสู่ขอและเข้าพิธีสมรสพระราชทาน เชิญอ่านข้อความต่อไปนี้ ส.ท่าเกษมคัดลอกมาจากหนังสือ “รักแรกของรัชกาลที่ ๖” โดย ลาวัณย์ โชตามระ เฉพาะตอนที่เกี่ยวกับคู่บ่าวสาว

....ในระยะที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงเป็นโสดอยู่นั้น บรรดาข้าราชบริพารที่ยังเป็นโสดก็มักจะโดยเสด็จพระราชจริยวัตร โดยว่าบางท่านจะมีความประพฤติวอกแวกแหวกแนวถึงขนาดมีบุตรขึ้นมา แต่ก็เป็นเรื่องปิดบังซ่อนเร้น

แต่เมื่อองค์พระประมุขได้แสดงพระองค์ว่าจะทรงมีพระมเหสี ข้าราชบริพารที่ใกล้ชิดก็ได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตทำการสมรสบ้าง ท่านเจ้าพระยาฯ ได้กราบทูลว่าใคร่จะได้หมั้นและสมรสกับ คุณประจวบ สุขุม ธิดาของมหาอำมาตย์นายก เจ้าพระยายมราช (บั้น สุขุม) กับท่านผู้หญิงตลับ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ จึงทรงมีพระราชหัตถเลขาถึง เจ้าพระยาธรรมาธิกรณาธิบดี เสนาบดีกระทรวงวังในขณะนั้น ดังต่อไปนี้


เลขที่ ๔๘/๒๔๖๖ เขียนที่นาวิกสโมสร
วันที่ ๒๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๖ เวลา....
ถึง เจ้าพระยาธรรมาฯ

เจ้าพระยารามราฆพ ได้ปรารถกับฉันว่า อยากจะใคร่หมั้นกับประจวบ สุขุม ในมกราคม ศกนี้ ฉันเห็นว่าที่เหมาะควรเจ้าพระยาธรรมาฯ จะเป็นผู้รับพระบรมราชโองการไปขอหมั้น ตามระเบียบที่เคยมา ฉะนั้น ขอให้ช่วยจัดการให้ตลอดไปในวันที่นับว่าเป็นฤกษ์ดีด้วยเถิด


ราม ร.

ท่านเจ้าคุณรามฯ รักและเอาใจคุณหญิงประจวบมาก ท่านคงเอ็นดูของท่านเป็นเด็กสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องอายุเพียง ๑๔ ปี และรู้จักครอบครัวเจ้าพระยายมราชดี แม้นแต่ประตูห้องน้ำก็มีภาพเขียนขนาดใหญ่ ตอนพระลอตามไก่ ถ้าไม่ทราบมาก่อนคงนึกว่าเป็นรูปเขียนธรรมดาๆ แต่กลับเป็นประตูห้องน้ำ คุณแม่หญิงเกิดปีระกาดังนั้นจึงมีรูปไก่ไปทั่ว เมนูอาหารวันเสกสมรสเป็นรูปไก่และเสือ ท่านเจ้าคุณรามฯ เกิดปีขาล

มีข้อที่น่าสังเกตอยู่ข้อหนึ่งเกี่ยวกับสิ่งตกแต่งภายนอกรอบตึก กล่าวคือ เมื่อเดินดูรอบๆ แล้วจะเห็นสิ่งหนึ่งคือ ปูนปั้นเป็นรูป “หัวไก่” แค่คอบ้าง ครึ่งตัวบ้างประดับอยู่ตามใต้กรอบหน้าต่างเหมือนกับเป็นเครื่องหนุนคานหน้าต่างทุกบาน และตามปลายรางน้ำที่ระบายน้ำฝนจากหลังคาสู่พื้นชั้นล่างทุกราง แม้ปลายคานรับระเบียงก็ประดับด้วยหัวไก่ เช่นเดียวกัน เรื่องนี้มีบางท่านให้ความเห็นว่า จอมพล ป. พิบูลสงคราม สั่งให้ทำเป็นหัวไก่เมื่อมีการปรับปรุงตึกไทยคู่ฟ้า เพราะท่านเกิดปีระกา แต่มีหลายท่านซึ่งเคยอาศัยอยู่ในบริเวณบ้านนรสิงห์ยืนยันว่า เดิมก็เป็นรูปหัวไก่ไม่ใช่ของทำใหม่ เพราะคุณหญิงประจวบฯ ภริยาของท่านเจ้าของบ้านเกิดปีระกา


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๖ กันยายน ๒๕๕๗