คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



ด้วยความอาลัยและรำลึกถึง อดิเรก จันทร์เรือง
ไก่ฟ้าเอย... โสภิณ
ข่อยได้ยินสมนามว่า
เจ้างามยิ่งหนอ หลอกให้พระลอ
พบเลยก่อลำเค็ญ เที่ยวตามยากเย็น
เพราะเป็นมนต์สุดา
ไก่ฟ้าเอย..โสภิณ
ข่อยได้ยินสมนามว่า
เจ้างามจริงหนา โอ้เจ้าขวัญตา สวยสง่าไสว
ข้อยสู้ตามถึงแดนดงไพรซอกซอน
โศกเอยบ่เคยพบเจ้า ข้อยหลงแต่เงา
ข้อยเฝ้าเป็นทุกข์อาวรณ์
คิดไปใจข้อยสะท้อน ร้าวรอนนิวรณ์อ่อนใจ
ไก่ฟ้าเอย โสภิณ
ข่อยได้สมนามเจ้าว่างามไฉน
โอ้เจ้าขวัญใจ ขอจงได้กู่ขาน
อย่าได้ทรมาน สงสารข้าบ้างเถิดเอย...


คำร้อง-ทำนอง ไสล ไกรเลิศ

เพลงนี้ เพลง..."ไก่ฟ้า" เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับวรรณคดีเรื่อง ลิลิตพระลอ โดยในบทเพลงกล่าวถึงไก่ที่ล่อพระลอให้ไปพบพระเพื่อนพระแพง ในเนื้อหาบทเพลงพรรณาถึง ความงามของไก่ฟ้า และกล่าวถึงตัวพระลอเองที่ติดตามมาเพราะความงามของไก่ เนื้อหาในวรรณคดีกล่าวไว้ว่า พระเพื่อน พระแพง หลงรักพระลอ จึงให้พระพี่เลี้ยง คือ นางรื่น กับ นางโรย ไปขอความช่วยเหลือจาก ปู่เจ้าสมิงพราย ผู้เก่งกาญวิชาอาคม เสกไก่ขึ้นมาจากวิญญาณของผีพราย และไปล่อพระลอซึ่งกำลังประพาสป่าอยู่นั่น ต้องตามไก่ตัวนี้มาจนเข้าเขตพระอุทยาน เมืองสรอง พบกับพระเพื่อน พระแพง

อดิเรก จันทร์เรือง เริ่มคลุกคลีงานแสดงตั้งแต่อายุ ๑o ขวบ อยู่ในคณะละครผกาวลีของเครือญาติ ภายใต้การนำของศิลปินแห่งชาติ ครูประสิทธิ์ ศิลปบรรเลง กับคู่ชีวิต ครูลัดดา สารตายน นอกจากอดิเรกจะร่วมเล่นละครกับผกาวลี ยังเคยข้ามไปแสดงละครเรื่องกู้ราชบัลลังก์กับคณะศิวารมย์เรื่องพันท้ายนรสิงห์ และนเรศวรกับคณะอัศวินการละคร รวมถึงคณะเทพศิลป์ในบางโอกาส

เมื่ออดีศักดิ์ เศวตนันทน์ กับสวลี ผกาพันธุ์ได้ตั้งคณะละครชื่นชุมนุมศิลปินขึ้นมา อดิเรก จันทร์เรือง ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในนักร้อง เช่นเดียวกับ ชรินทร์ นันทนาคร, สุเทพ วงศ์กำแหง, นริศ อารีย์ และพูลศรี เจริญพงษ์ เพียงแต่อดิเรกมักนำเพลงสากลของแฟรงค์ ซิเนตร้า, ดีน มาร์ติน และแอนดี้ วิลเลียมส์ มาขับร้อง

กระทั่ง พ.ศ. ๒๔๙๘ เมื่อคณะชื่นชุมนุมศิลปินเป็นคณะแรกที่ได้จัดรายการเพลงทางทีวี ในสถานีโทรทัศน์ช่อง ๔ บางขุนพรหม ครูสมาน กาญจนผลิน ผู้ควบคุมวงดนตรี ได้แต่งเพลง "ผมเอง" ให้อดิเรกร้องบันทึกแผ่นเสียงครั้งแรก ต่อด้วยเพลง "สวรรค์บนทราย" อดิเรกมามีชื่อเสียงกับเพลงไทยเมื่อนำเพลง "ไก่ฟ้า" ของชาญ เย็นแข มาร้องใหม่ ต่อเนื่องด้วยการอัดแผ่นเพลง "ชุมทางชีวิต" (คำร้อง-อดิเรก ทำนอง-นริส ทรัพยประภา) และเพลง "ทะเลน้ำตา" ของ ป.ชื่นประโยชน์

อดิเรกเริ่มร้องเพลงประจำที่นาทัวร์ริสและโรงแรมโอเรียนเต็ล มีโอกาสไปหาสุเทพ วงศ์กำแหง ที่ภัตตาคารห้อยเทียนเหลา จึงร่วมก่อตั้งคณะสุเทพคอรัส ภายหลังจึงได้ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา มาร่วมคณะ เมื่อสุเทพมีภารกิจต้องเดินทางไปศึกษาต่อที่ประเทศญี่ปุ่น คณะสุเทพคอรัสจำเป็นหยุดพักชั่วคราว

ระหว่างนั้นครูลัดดา สารตายน (ศิลปบรรเลง) มีโครงการนำศิลปะนาฏศิลป์ไทยไปแสดงที่ยุโรปและอเมริกา อดิเรกซึ่งมีความฝันอยากเห็นความศิวิไลซ์ของโลกตะวันตก มีโอกาสติดตามไปแสดงที่อังกฤษ, เนเธอร์แลนด์, สวีเดน ชาวคณะผกาวลีกว่า ๒o คนได้รับเกียรติแสดงต่อหน้าพระพักตร์พระราชินีเดนมาร์ก ก่อนจะข้ามฝั่งไปแสดงอีก ๒๖ รัฐในประเทศสหรัฐอเมริกา

เมื่อสิ้นสุดการแสดงที่มหานครนิวยอร์ก อดิเรกตัดสินใจไม่กลับเมืองไทยพร้อมคณะ และเริ่มชีวิตโรบินฮูดตระเวนร้องเพลงตามสถานบันเทิง อดิเรกพกพาความมุ่งมั่นไปพบวิลเลียมส์ มอริส เอเยนซีคัดเลือกศิลปินออกรายการทูไนท์โชว์ที่สถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี จนมีโอกาสให้จอห์นนี คาร์สัน พิธีกรทูไนท์โชว์สัมภาษณ์ชีวิตและเรื่องราวการแสดงข้ามประเทศของคณะผกาวลี

อดิเรก จันทร์เรือง กลับเมืองไทยมาร้องเพลงโชว์ตัวที่โรงแรมคาร์ลตัน และแสดงหนังเรื่องพระเพลิงแดงปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลังกลับไปนิวยอร์กไม่นาน ก็ย้ายที่พำนักไปอยู่ที่รัฐมิชิแกน เริ่มต้นจากตระเวนร้องเพลง ก่อนเข้าเป็นพนักงานโรงงานผลิตรถยนต์เจนเนอรัลมอเตอร์ส ต่อมาได้ลงทุนธุรกิจร้านอาหารไทยแบงกอกบิสโทรที่เมืองทรอย ก่อนจะขยายสาขามาเปิดบางกอกบิสโทรคาเฟ่ที่เมืองสเตอริง ฮายด์ และได้รับรางวัลร้านอาหารไทยคุณภาพ จากการสำรวจของกระทรวงพาณิชย์ในทวีปยุโรปและอเมริกา

อดิเรกหรือเอ็ดดี้ มิชิแกน ถือกรีนการ์ดสัญชาติอเมริกันและใช้ชีวิตอยู่กับภรรยา ลาวัณย์ ลูกชาย ดิเรก จันทร์เรือง และลูกสาวเมธาณี จันทร์เรือง อยู่ที่รัฐมิชิแกน ซึ่งขยายธุรกิจร้านอาหารไทยครอบคลุมไปถึงชิคาโกและตามเมืองใหญ่ เนื่องจากอาหารไทยมีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจที่ดี

เมื่อเกษียณตัวเองหลังจากอุบัติเหตุหกล้ม ระหว่างกวาดหิมะที่บ้าน จึงกลับมาใช้ชีวิตที่เมืองไทยตามลำพัง อดิเรกอยู่เมืองไทยยังคงไม่ทิ้งอาชีพร้องเพลง

บ่าย ๒ โมงของวันพุธที่ ๒๓ ตุลาคม ได้รับข่าวเศร้าจากศิลปินแห่งชาติ ดร.กมล ทัศนาญชลี ทางอีเมล พร้อมทั้งรูปถ่ายในวันรดน้ำศพและวันสวดคืนแรกที่วัดตรีทศเทพ เรื่องพี่อ๊อดหรือ อดิเรกเสียชีวิต ด้วยโรคไตวายในตอนเช้าของวัน “พระมหาปิยราช” ขอให้วิญญาณของพี่อ๊อดไปสู่สรวงสวรรค์ ไปร้องเพลงกล่อมและเล่าเรื่องขำขันให้เทวดานางฟ้าได้สุขสำราญ พวกเราบนพื้นโลกก็ได้แต่คิดถึงเสียงร้องเพลงอันไพเราะทั้งไทยและเทศ โดยเฉพาะเพลงสากล ร้องได้สำนวนชัดเจนแม้แต่ฝรั่งยังออกปากชม

ครั้งสุดท้ายหลายปีมาแล้ว พี่อ๊อดร่วมเดินสายมากับคณะสุเทพโชว์ แสดง ๒ คืนที่แอล.เอ. แฟนๆ เพลงฮากันครืนเพราะพี่อ๊อดมีมุขขำๆ มาให้ความบันเทิงพร้อมกับเสียงเพลง

เสาร์นี้คงจะไม่เขียนคุยอะไรมากนัก แต่ได้นำรูปภาพต่างๆ พร้อมกับเพลงเก่ง “ไก่ฟ้า” ของพี่อ๊อด มาลงไว้อาลัยแทน เพราะ ส.ท่าเกษม ได้รับเทปจากเจ้าของเสียงเพลงเมื่อพบกันครั้งสุดท้ายที่แอล.เอ. นี่แหละ มี ดร.กมล ต้อนรับอย่างเต็มที่รวมทั้งทีม “สุเทพโชว์” อยากให้คุณผู้อ่านเข้าเวบของคอลัมน์ “คุยกันวันเสาร์” เพราะได้นำยูทูบเพลง “ไก่ฟ้า” มาลง ไพเราะจับใจ ทำนองเป็นเพลงไทยๆ

ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งมายังคุณ ตุ่ม ลาวัณย์ ผู้ภรรยา หลานๆ และครอบครัว "จันทร์เรือง" ส.ท่าเกษมได้มีโอกาสพบคุณตุ่มที่แอล.เอ. ถึง ๒ ครั้ง และหลานสาว “ฟ้า” ที่ CARLSBAD, SAN DIEGO ได้ต้อนรับพี่อ๊อดที่ “เกษียรสมุทร”, CARLSBAD


หมายเหตุ ข้อมูลจากเวบต่างๆ เด็กดี ไทยโพสต์ สมาคมนักร้องแห่งประเทศไทยฯ และอดิเรกฯ ขอขอบคุณยิ่งสำหรับข่าวและภาพต่างๆ จากการเอื้อเฟื้อโดย ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ มา ณ ที่นี้ ระหว่างนั่งตรวจงานอยู่นี้ ส.ท่าเกษม กำลังฟังเพลงเพราะๆ ของพี่อ๊อดจากรายการ “มุมความสุข” ของคืนวันพุธที่ ๒๓ ตุลาคม สถานีวิทยุศึกษา จัดโดย ดี.เจ.เสียงหล่อ ฎากร เทพทอง หนึ่งในลูกศิษย์คนโปรดของ อ.สุเทพฯ


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖