คุยกันวันเสาร์
ส.ท่าเกษม



"กุหลาบแดงในสแปนนิช ฮาร์เล็ม"
There is a rose in Spanish Harlem
A red rose up in Spanish Harlem
It is a special one, it's never seen the sun
It only comes out when the moon is on the run
And all the stars are gleaming
It's growing in the street right up through the concrete
But soft and sweet and dreamin'
There is a rose in Spanish Harlem
A red rose up in Spanish Harlem
With eyes as black as coal that look down in my soul
And starts a fire there and then I lose control
I have to beg your pardon
I'm going to pick that rose and watch her as she grows in my garden
I'm going to pick that rose and watch her as she grows in my garden
(There is a rose in Spanish Harlem)
La-la-la, la-la-la, la-la-la-la
(There is a rose in Spanish Harlem)
La-la-la, la-la-la, la-la-la-la
(There is a rose in Spanish Harlem)

" SPANISH HARLEM"
ผลงานของ JERRY LEIBER และ PHIL SPECTOR
ขับร้องโดย BEN E. KING


สังเกตดูจากกลุ่มคนคุ้นเคยไม่ว่าจะเป็นคนในครอบครัว หรือพรรคพวกที่คบกันอยู่ เมื่อมีโอกาสเป็นผู้โดยสารอาศัยนั่งรถไปด้วย จะเห็นแผ่นซีดีสะสมอยู่ในรถ บางครั้งก็มีเสียบไว้กับที่กำบังแดดตรงคนขับ บางครั้งก็มีไว้ข้างๆ ที่นั่ง สรุปแล้วก็คือคนขับหรือเจ้าของรถจะต้องเก็บซีดีไว้ใกล้ตัวในระยะที่เอื้อมถึง เพลงเพราะๆ ที่เราชื่นชอบนี้ช่วยได้มากเวลาขับรถทางไกล หรืออยู่บนถนนนานๆ ยิ่งเวลารถติดเราก็ฟังเพลงของเราไป เผลอๆ จะร้องตามไปด้วยเป็นการผ่อนคลายความเครียดและซ้อมร้องเพลงไปในตัว

ส.ท่าเกษมเดินทางอยู่ตลอด ปกติจะฟังอยู่แต่สถานี FM 103.5 แต่เวลาออกนอกเมืองจะรับไม่ได้ จึงต้องพึ่งซีดีที่ติดไว้ในรถ ยังนึกแปลกใจว่าซีดีนี่ทนความร้อนได้ดี ฟังทีไรก็ยังใช้ได้ทั้งๆ ที่ทิ้งไว้เวลาจอดรถตามที่ต่างๆ บางแห่งก็กลางแจ้ง

สำหรับตัวเองแล้วเป็นคนซื้อซีดียาก เพราะส่วนใหญ่แล้วทั้งแผ่นจะมีเพลงที่รู้จักและชอบจริงๆ อย่างเก่งก็เพียง 5 เพลง ! บริษัทผลิตเขามักจะกระจายเพลงฮิทๆ ไปทั่ว แฟนเพลงจะได้ซื้อหลายๆ แผ่น ส.ท่าเกษมเลยเลือกเพลงเอง แล้วให้เด็กๆ นำมารวมใส่ในซีดีของเรา ดังนั้นจึงมีแต่เพลงที่ร้องตามได้จากนักร้องที่ชื่นชอบทั้งหลาย แผ่นซีดีล่าสุดที่ซื้อมาครอบครองเป็นของ FRANKIE VALLI ชื่อ "ROMANCING THE '60s" เหลือเชื่อจริงๆ ไพเราะทุกเพลง รู้จักหมดทั้งแผ่นมี 13 เพลงด้วยกันทั้งเพลงช้าและเพลงเร็ว ล้วนแล้วแต่โรแมนติคทั้งแผ่น เช่น THIS GUY'S IN LOVE WITH YOU, TAKE GOOD CARE OF MY BABY, LET IT BE ME, THEN YOU CAN TELL ME GOODBYE, ON BROADWAY แน่นอนมีเพลง "SPANISH HALEM" รวมอยู่ด้วย

ถือโอกาสโฆษณาชวนเชื่อเลยว่า นักเพลงรุ่นจิ๊กโก๋ จิ๊กกี๋ แถววังบูรพาควรจะหามาฟังเวลาอยู่ในรถ จะทำให้ระยะทางยาวกลายเป็นระยะทางสั้น ไม่ใช่เฉพาะเพลงที่พวกเรารู้จักกันเท่านั้น เครื่องดนตรีทุกชิ้นที่ร่วมบรรเลงเป็นส่วนประกอบชิ้นสำคัญ ผสมผสานออกมาอย่างได้อารมณ์ มีทั้งไวโอลิน ไวโอล่า เชลโล่ (CELLO) ฮาร์พ โอโบ ทรัมโบน ซึ่งมีทั้งเสียง BASS ALTO และ TENOR นอกจากนี้ยังมี FRENCH HORNS และเครื่องดีดสีตีเป่าทั้งหลาย บรรยายไม่ได้ครบถ้วน เป็นวงออเคสทร้า (ORCHESTRA) ที่ครบวงจร

และนี่ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่มีซีดีแผ่นนี้ไว้ครองครอง เพราะได้ไปสัมผัสกับตัวจริงเสียงจริงมา เมื่อครั้งแฟรงคี่ วัลลี่ (FRANKIE AND THE FOUR SEASONS) มาแสดงที่ "STAR OF THE DESERT ARENA" , BUFFALO BILL'S เมื่อเดือนพฤศจิกายนของปีที่แล้ว เลยอยากจะขอคุยเรื่องเพลง SPANISH HARLEM กับคุณผู้อ่านในเสาร์นี้ เพลงนี้เป็นเพลงเก่าที่พวกเรานักฟังเพลงรุ่น เล็ก วงศ์สว่าง, หลุยส์ & โล ธุระวนิช , เทวัญ วนะภูติ รู้จักกันดี เบน อี คิง ร้องเป็นคนแรกในปี ค.ศ. 1960 ได้ขึ้นอันดับ 10 ของ TOP 40 CHARTS ในปี 1961 ต่อมา ARETHA FRANKLIN,The Queen of Soul นำมาร้องในปี 1971 คราวนี้เลื่อนขึ้นเป็นอันดับที่ 2

มีอะไรดีในเพลงนี้หรือ ? ทำไมนักร้องดังๆ ต่างสไตล์จึงนำมาอัดเสียงกัน ลองดูรายชื่อต่อไปนี้ TOM JONES, MAMAS AND PAPAS, ANDY WILLIAMS, ENGELBERT HUMPERDINCK, CLIFF RICHARD นอกจากร้องแล้วยังเดี่ยวกีต้าร์ด้วย ส.ท่าเกษมชอบเวอร์เชิ่นนี้มาก ไม่คิดว่าคลิฟ์ฟ ริชชาร์ดจะนำเพลงนี้มาร้อง ที่แปลกใจกว่านั้นคือ BON JOVI นักร้องร็อคผมยาว รูปหล่อ เล่นกีต้าร์เสียงดังแสบหูคนนี้

ฟังไปฟังมานักร้องแต่ละคนจะขับร้องตามสไตล์ของตัวเอง ส.ท่าเกษมชอบของ เบน อี คิง มากที่สุดจึงนำยูทูบมาลงในเวบให้คุณผู้อ่านคลิ๊กเข้าฟัง เบน เคยเป็นนักร้องนำของคณะ THE DRIFTERS ที่พวกเรานักเพลงรู้จักกันดียิ่งในเพลง THIS MAGIC MOMENT, UNDER THE BOARDWALK, SAVE THE LAST DANCE FOR ME, ON BROADWAY ฯลฯ

ส่วนเพลงยอดฮิท "STAND BY ME" ของ เบน เพลงนี้อัดเสียงพร้อมกับ "SPANISH HARLEM" นึกแล้วก็ขำตัวเองที่ว่าฟังเพลง สแปนนิช ฮาร์เล็ม ที่ไรก็ฟังไปเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าเป็นเพลงรักซึ้งถึงทรวงอะไรแบบนั้น นึกว่าเป็นเพลงสนุกๆ ได้ยินในรถจะร้องตามไปเรื่อยๆ จนเมื่อฟังซีดีของ แฟรงคี่ ที่ซื้อมาเก็บไว้เป็นที่ระลึกหลังจากดูโชว์ ฟังไปฟังมา...นึกสะกิดใจที่มี "กุหลาบแดง" และ "พระจันทร์" อยู่ในเพลงเดียวกัน เลยตั้งใจฟังเนื้อเพลงเพื่อจะได้ทราบว่าคนแต่งเพลงมีความประทับใจหรือจินตนาการกับสิ่งใด

เพลงนี้กล่าวถึงเมืองฮาร์เล็มซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนครนิวยอร์ก (NEW YORK CITY) ส่วนที่มีชาวลาติโน่ (LATINO POPULATION) อาศัยอยู่กันมากเลยเรียก SPANISH HARLEM ชาวลาติโน่ในที่นี้คือ ชาวเปอร์โต ริกัน คุณผู้อ่านที่เคยดูหนังและละครบรอดเวย์มาคงจะจำตัวแสดงในเรื่อง "WEST SIDE STORY" ได้ตัวนางเอกของเรื่องชื่อ MARIA (มาเรีย) เป็นชาว PUERTO RICAN รวมทั้งครอบครัวและเพื่อนๆ สาวๆ จะทำงานในโรงผ้าทั้งวันเป็นระยะเวลานาน จะมีเวลาออกมาพักผ่อนเที่ยวเตร่ได้เฉพาะในเวลากลางคืนเท่านั้น โปรดเข้าใจว่า ROSE หรือ RED ROSE ในเนื้อเพลงเป็นการเปรียบเทียบหมายถึง "ผู้หญิง" ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาๆแต่เป็นสาวสวยนัยน์ตาดำคมเข้มซะด้วย !

ในเนื้อเพลงบรรยายไว้ว่า มี "กุหลาบแดง" ดอกหนึ่งใน สแปนนิช ฮาร์เล็ม เป็นกุหลาบดอกพิเศษที่ไม่เคยเห็นแสงอาทิตย์ กุหลาบดอกพิเศษนี้จะเติบโตมาจากถนนคอนกรีต ยามที่พระจันทร์และดวงดาวส่องแสงอยู่บนฟากฟ้า ซึ่งก็ทำให้เราเห็นภาพของสาวสวยที่เติบโตมาในเมืองสแปนนิช ฮาร์เล็ม นึกเห็นภาพของบ้านเมืองที่เป็นตึกมีถนนคอนกรีต

IT'S GROWING IN THE STREET RIGHT UP THROUGH THE CONCRETE BUT SOFT AND SWEET DREAMIN'........

มีกุหลาบแดงแสนสวย (หญิง) อยู่ที่ไหน ก็ย่อมเป็นที่ต้องตาต้องใจของหมู่ภุมริน (ชาย) จนถึงกับอยากจะเด็ดไปประดับไว้ในสวนของตัวเอง (เก็บไว้เป็นคู่ครอง)

I'M GOING TO PICK THAT ROSE AND WATCH HER AS SHE GROWS IN MY GARDEN

ที่จริงแล้วเมืองฮาร์เล็มในนครนิวยอร์กนี้เป็นที่รวมของหลายชาติหลายภาษาที่ย้ายถิ่นฐานมาจากบ้านเกิดเมืองนอนของตน มีทั้งชาวอิตาเลียน ชาวเยอรมัน (GERMAN IRISH) ชาวเลบานีส ชาวรัสเซีย (RUSSIAN JEWISH) ฯลฯ ส่วนไหนที่ชนชาติใดรวมตัวกันอยู่มากๆ จะตั้งชื่อไปตามชนชาตินั้นๆ เช่น ITALIAN HARLEM, SPANISH HARLEM เป็นต้น

ที่นำรูป LENOX LOUNGE มาลงเพราะเป็น LANDMARK เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ตำนานเพลงในเมืองฮาร์เล็ม เริ่มเมื่อปี ค.ศ. 1939 มีนักร้องแจ็สบูลส์หญิงชื่อ BILLIE HOLIDAY แสดงอยู่ที่นั่น เป็นที่นัดพบของ MALCOLM X และเพื่อนๆ มัลคัลม เอ็กซ เป็น BLACK NATIONALISH LEADER และเป็นโฆษกของ THE NATION OF ISLAM เขามีชื่อจริงว่า MALCOLM LITTLE ถูกลอบสังหารในปี ค.ศ. 1965 หลังออกจากตำแหน่งได้ไม่นาน ตลอดชีวิตเขาต่อสู้เพื่อการแบ่งสีผิว CIVIL RIGHT ACTIVIST

ส่วน THERESA HOTEL ตั้งอยู่ที่เมืองฮาร์เล็มเช่นกัน รู้จักกันในนาม "WALDOLF A STORIA OF HALEM" ต้อนรับแต่ลูกค้าผิวขาว เปิดธุรกิจในปี ค.ศ. 1913 เป็นตึกที่สูงที่สุดในฮาร์เล็มจนถึงปี 1940 เป็นโรงแรมชั้นสูงราคาแพง ลูกค้าผิวดำที่ไปใช้บริการจะเป็นคนดังในวงการเพลงหรือวงการมวย เช่น LOUIS ARMSTRONG, DUKE ELLINGTON, DINAH WASHINGTON, RAY CHARLES, LITTLE RICHARD นักร้องคนนี้ยังมีชีวิตอยู่ ส.ท่าเกษมเป็นแฟนคลับของเขา เล่นเปียโน ร้องเพลง แต่งเพลงและมีอารมณ์ขัน แต่งตัวไม่เหมือนใคร เพิ่งเห็นนั่งอยู่ในกลุ่ม วี.ไอ.พี. ที่ได้รับเชิญในรายการ "DANCE WITH THE STARS" เมื่อคืนวันจันทร์ที่ 9 เมษายน หน้าตาเหมือนเดิมไม่มีร่องรอยของวัยชรา รู้สึกเขาจะไปเป็นกำลังใจเชียร์ GLADYS KNIGHT นักร้องดังรุ่นเดอะที่ร่วมแข่งขันเต้นรำในรายการนี้ด้วย ในความเห็นส่วนตัวฝีเท้าสู้สาวๆ ที่เข้าแข่งไม่ได้ แต่เพราะความดัง แฟนเต็มเมืองเลยยังเต้นอยู่ทุกอาทิตย์ สำหรับอาทิตย์หน้า ส.ท่าเกษมยังนึกเสียวแทนถ้าไม่มีใครลงคะแนนเสียงให้ก็อาจจะแพ้คู่อื่นๆ

ที่โรงแรมเธรีซ่านี้ยังมีนักมวยรุ่นครู เช่น MUHAMMAD ALI และ SUGAR RAY ROBINSON ไปพักด้วย ส่วนทางการเมือง FIDEL CASTRO คาสโตร ผู้นำของประเทศคิวบา เลือกที่จะพักที่นี่ตอนมาเยือนนครนิวยอร์ก เพื่อเรียกร้องความสนใจเกี่ยวกับสีผิวใน ยู เอส เอ และ NIKITA KRUSCHEV ผู้นำประเทศรัสเซียได้นัดพบกับคาสโตรในโรงแรมนี้

จอห์น เอฟ เคนเนดี้ อดีตประธานาธิบดี มาตั้งแคมเพน (campaign)หาเสียงที่นี่ในเดือนตุลาคม ค.ศ. 1960 ต่อมาโรงแรมปิดตัวลงในปี 1967 เปลี่ยนรูปโฉมเป็นที่ทำงานออฟฟิศในปี ค.ศ. 1971 ตั้งชื่อใหม่ว่า "THERESA TOWERS"

คุยกันเรื่องเมือง "SPANISH HARLEM" ก็ได้จบบริบูรณ์ลงเพียงเท่านี้ !


ลาก่อนสำหรับเสาร์นี้
ส.ท่าเกษม
14 เมษายน 2555