เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง เสาร์ที่ 31มีนาคม 2555

คนเพียงไม่กี่คน ก็สามารถทำให้ประเทศไทยวุ่นไปได้ทั้งประเทศ แบบไม่มีขอบเขตว่าเมื่อไหร่จะสิ้นสุดกันสักที

แนวทางการปรองดองของกรรมาธิการวิสามัญ ชื่อฟังแล้วโก้หรูน่าดู แต่เบื้องหลังความสวยงามนั้น มีสาระพัดสิ่งสาระพัดอย่างเกิดขึ้น

อย่างผลการศึกษาแนวทางปรองดอง ของกรรมาธิการวิสามัญชุด "บิ๊กบัง" พล.อ. สนธิ บุญยรัตกลิน ดูท่าจะวุ่นวายที่สุด

ซัดกันไปซัดกันมา โห่ฮากันอย่างสนุกลั่นสภา

ที่หนักหนากว่านั้น ก็ตรง ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ ฮือเข้าไปล้อมกรอบ บิ๊กบัง กดดันให้ถอนญัตติ พิจารณารายงานปรองดอง

ใครต่อใครก็คาดกันไว้ว่า พรรคประชาธิปัตย์ จะต้องตั้งป้อมขวางแนวทางปรองดองของพล.อ. สนธิ

ส.ส. ประชาธิปัตย์ 9 คน เพิกถอนตัวออกจาก กมธ. ปรองดองไปหมาดๆ แล้วก็มาซัดกันกลางสภาฯ อย่างที่เห็น

คนเราถ้าคิดจะปรองดองกันแล้ว ก็ต้องเข้าใจกัน ต้องมีความเสียสละ และที่สำคัญที่สุดคือต้องให้อภัยต่อกัน และให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย

แต่ทุกวันนี้ การปรองดองล้มเหลวตั้งแต่เริ่มต้น เพราะฝ่ายหนึ่งเร่งรีบรวบรัดเกินไปจนเป็นที่ข้องใจของประชาชน

ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งก็คิดมากจนเกินเหตุ เลยเถิดไปถึงการนิรโทษกรรมให้คนๆ เดียว

หลังจากโดนล้อมกรอบในสภา พล.อ.สนธิ แจงว่า

"เห็นบ้านเมืองมีความแตก แยกครั้งแล้วครั้งเล่า วันที่ 19-20 ก.ย.2549 บ้านเมืองแตกแยกจะฆ่ากัน ผมเอาคอพาดอยู่บนเขียง ถามว่าใครรับผิดชอบ ความ ขัดแย้งครั้งนั้นต่อเนื่องมาถึงวัน นี้ ผ่านมา 5 นายกฯก็ยังขัด แย้งกันอยู่...ผมอยากเห็นบ้าน เมืองเดินไปข้างหน้าด้วยความ ปรองดอง ทุกสิ่งที่ทำอยากเห็น ประเทศไทยดี"

ก่อนที่ พล.อ. สนธิ จะตอบท้ายว่า "ท่านหัวหน้าฝ่ายค้าน ผมเคารพรักท่าน ฝ่ายค้านทุกคนรู้ดีว่า ผมรักท่านมากแค่ไหน"

เป็นคำพูดที่จับใจ ถ้าอยู่ใกล้ๆ คงเสียตัวให้กับ บิ๊กบังไปแล้ว

น่าเห็นใจ บิ๊กบัง นะ เคยทำให้เพื่อนได้รับประโยชน์จากการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 จนได้ตั้งรัฐบาลกันในค่ายทหาร

สุดท้ายการได้รับการตอบแทนจากเพื่อนมาร์คแบบนี้นะหรือ