ป้ายหาเสียงของพรรคการเมืองและผู้สมัครลงส.ส. ตอนนี้มีการติดตั้งอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ตามถนนสายต่างๆ เต็มพรึ่บไปหมด สร้างบรรยากาศการเลือกตั้งให้ดูคึกคักมีสีสันมากขึ้น แต่นั่นแหละก็ได้สร้างปัญหาให้เกิดขึ้น จนมีเสียงร้องเรียนกันไม่น้อย
เช่น บังทัศนวิสัยของผู้ขับขี่รถยนต์ ในระหว่างออกจากซอยบ้าง หรือผู้คนที่ยืนคอยรถเมล์ประจำทาง ต้องคอยชะโงกหน้าหลบมุมของป้ายหาเสียงเลือกตั้งบ้าง
หรือ คนเดินฟุตปาธ เจอป้ายใหญ่ขวางทาง จนต้องลงไปเดินบนถนน เสี่ยงโดนรถเฉี่ยวชนเข้าให้
เสียงสะท้อนเหล่านี้ เป็นปัญหาที่ทุกพรรค การเมืองและผู้สมัครต้องรับฟัง และรีบแก้ไข
ไม่เช่นนั้นคนที่เขาเดือดร้อน คงยากจะที่ไปลงคะแนนเลือกเจ้าของป้ายดังกล่าว
ดีไม่ดีจะชักชวนญาติสนิทมิตรสหายให้แอนตี้ ไปด้วย!
จึงต้องย้ำว่า ปัญหาของป้ายหาเสียงในแง่นี้ นักการเมืองหรือพรรคการเมือง ไม่ควรนิ่งเฉย ซึ่งก็น่ายินดีที่หลายพรรค ประกาศเบอร์โทรศัพท์หรือช่องทางต่างๆ เพื่อรับเรื่องร้องเรียน
เพื่อจะได้ส่งทีมงานไปแก้ไข
เอาเป็นว่า เป็นปัญหาที่ต้องใส่ใจ
แต่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่โต จนถึงขั้นผู้ได้รับผล เหล่านี้ จะเกลียดชังระบบการเลือกตั้งไปเลย
อย่าถึงกับป่าวประณามว่านี่คือความเลวร้าย จนไม่ยอมไปเลือกตั้งอะไรขนาดนั้น
ต้องยอมรับอีกด้านด้วยว่า เพราะกฎกติกาใหม่ของระบบเลือกตั้ง นำความยุ่งยากมากมาย ดังนั้นป้าย หาเสียง จึงเป็นเครื่องมือจำเป็นอย่างมาก!
ต้องบอกชาวบ้านให้รู้ว่าพื้นที่นี้เป็นเขตเลือกตั้งไหน เพราะมีการขีดแบ่งกันใหม่ ต้องบอกเบอร์ผู้สมัคร เพราะกฎกติกาใหม่ ทำให้สับสนไปหมด พรรคเดียวกันไม่ได้เบอร์เดียวกัน
นี่คือความจำเป็น
ไม่กี่วันก่อนมีข่าวจากกกต. เตือนผู้สมัคร ให้คำนึงถึงขนาดป้าย จำนวน และสถานที่ติดป้าย ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด
ให้ช่วยรักษาต้นไม้ในสถานที่สาธารณะ ระวังการตอกตะปูยึดป้ายกับต้นไม้
ไม่ควรติดป้ายซ้อนทับกับป้ายผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น
รวมทั้งยังได้รับแจ้งถึงการติดป้ายใกล้สะพานลอยเกิดอุบัติเหตุเด็กนักเรียนเดินชนศีรษะแตกอีกด้วย!
แถมมีผู้สมัครบางพรรคออกตระเวนนับป้ายผู้สมัคร คู่แข่ง แล้วแจ้งข้อมูลการติดป้ายเกินจำนวนมายังกกต.
ฟังแล้ว จะเห็นได้ว่าเรื่องป้ายหาเสียง มีแง่มุมน่าสนใจมากมาย
ถือเป็นสีสันความจำเป็น
แต่ถ้าเดือดร้อนรำคาญ ก็อย่ามองถึงขั้นเกลียดชังการเลือกตั้งไปไกลเกิน!?!