เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 17 ตุลาคม 2558

ถึง คุณเจมส์ ดัฟฟ์

ดิฉันดีใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับจดหมายจากคุณ ขอบคุณที่ได้เล่าเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้กับดิฉันและผู้อ่านหนังสือพิมพ์ไทยแอลเอที่ติดตามคอลัมน์นี้

เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณนั้นเป็นเหตุการณ์ที่ไม่น่าเกิดขึ้นเพราะขณะที่เกิดเหตุดังกล่าว คุณคงไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าตัวเองได้ทำอะไรลงไป และดิฉันเข้าใจถึงความรู้สึก ความเจ็บปวด และความทุกข์ทรมานของคุณในขณะนี้

เนื่องจากคดีของคุณยังเป็นคดีแดงอยู่ (คดีที่ยังไม่ได้รับการตัดสิน) ดิฉันไม่สามารถที่จะให้ความคิดเห็นทางสาธารณะได้ และอีกอย่างดิฉันมีหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษาเท่านั้น ไม่สามารถให้คำแนะนำทางกฎหมายได้

อย่างไรก็ดี มีสองประเด็นที่คุณเขียนมาที่ดิฉันสามารถที่จะเขียนถึงโดยทั่วๆ ไปได้ นั่นก็คือการใช้ล่ามและการใช้บริการของทนายความสาธารณะ (public defender หรือ PD)

ประเด็นแรก คุณบอกว่าล่ามที่ศาลจ้างมาแปลให้คุณนั้นแปลไม่ดีหรือไม่สามารถที่จะอธิบายในสิ่งที่คุณต้องการอย่างครบถ้วนให้กับศาลหรือทนายความของคุณเป็นที่พอใจได้

กรณีที่ล่ามแปลไม่หมดหรือแปลไม่ถูกต้องมักจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำในคดีสำคัญที่จำเป็นต้องใช้ล่าม ในบางครั้งการที่ล่ามแปลผิด อาจใช้เป็นเหตุผลในการอุทธรณ์ได้ ถ้าคุณไม่พอใจล่ามที่ศาลส่งมาแปลให้คุณ คุณสามารถบอกทนายความหรือบอกทางศาลโดยตรงว่าคุณต้องการเปลี่ยนล่าม (ถ้าผู้พิพากษาอนุญาตให้คุณพูดหลังจากคุณยกมือตอนคุณขึ้นศาลครั้งต่อไป แต่ส่วนมากศาลจะไม่อนุญาตให้คุณพูด เพราะทุกอย่างจะต้องพูดผ่านทนาย แต่สามารถลองดูได้เพราะอันนี้แล้วแต่ผู้พิพากษาว่าจะให้คุณพูดได้หรือไม่) ถ้าศาลสามารถที่จะหาคนใหม่มาแปลให้คุณได้ คุณก็จะได้ล่ามคนใหม่ไปเรื่อยๆ ที่แคลิฟอร์เนียภาคใต้ มีล่ามภาษาไทยที่เก่งๆ หลายคน คุณก็ควรลองเปลี่ยนคนดูบ้าง คุณอาจจะเจอคนที่สามารถแปลได้ถูกใจคุณ น่าเสียดายที่ดิฉันไม่สามารถไปแปลให้คุณได้เพราะดิฉันประจำอยู่ที่แคลิฟอร์เนียภาคเหนือและรัฐออริกอน

ประเด็นที่สอง คุณบอกว่าคุณไม่ชอบการทำงานของทนายความสาธารณะ (public defender) ที่ทำคดีของคุณ การเปลี่ยนทนายความสาธารณะไม่ง่ายเหมือนกับการเปลี่ยนทนายเอกชนหรือเปลี่ยนล่ามที่คุณสามารถขอเปลี่ยนได้ทุกเมื่อ การที่จะเปลี่ยนทนายความสาธารณะนั้นคุณต้องมีเหตุผลที่ดีที่จะอธิบายให้ผู้พิพากษาฟัง เหตุผลที่คุณไม่ชอบเขาหรือคิดว่าเขามีเอี่ยวกับอัยการนั้นไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ

ผู้พิพากษาอาจจะอนุญาตให้คุณเปลี่ยน public defender ของคุณได้ ถ้าทนายความคนนั้นฝ่าฝืนสิทธิของคุณโดยการทำสิ่งที่ไม่เหมาะสมบางอย่างเช่น

- ไม่มาตามวันที่ศาลนัด หรือส่งเอกสารไม่ทันตามวันที่กำหนดไว้ (missing appointments or filing datelines)

- ไม่แจ้งให้คุณทราบถึงสถานะของคดีหรือวันที่ต้องมารับฟังคดี (not informing you about your case status or hearing dates)

- บังคับให้คุณตอบข้อหา (force you to enter a plea) หรือ

- เพิกเฉยต่อหลักฐานพยานที่สำคัญต่อคดีของคุณ (ignoring important evidence)

ถ้าคุณแน่ใจว่าต้องการที่จะเปลี่ยน public defender คุณสามารถเขียนหนังสือถึงผู้พิพากษา (สามารถเขียนเป็นภาษาไทยได้ เสมียนศาลจะให้ล่ามแปลเป็นภาษาอังกฤษให้) ให้คุณจำชื่อและนามสกุลของผู้พิพากษาให้ดี หรือคุณสามารถเขียนถึงสำนักงานทนายความสาธารณะก็ได้ (public defender's office) เช่นกัน ในจดหมายนั้น คุณต้องระบุว่าปัญหาที่คุณมีอยู่กับทนายคนปัจจุบันของคุณคืออะไร

ถ้าคุณโชคดีและมีเหตุผลที่ดี ผู้พิพากษาอาจให้คุณเปลี่ยนทนายความได้ แต่ยากที่จะให้คุณเปลี่ยนรอบสอง เพราะฉะนั้นคุณต้องแน่ใจว่าคุณต้องการที่จะเปลี่ยนทนายจริงๆ เพราะทนายคนใหม่ อาจจะไม่ดีเท่าคนเดิม อันนี้ก็แล้วแต่ดวง

ก่อนที่คุณจะยื่นเรื่องขอเปลี่ยนทนาย ให้คุณคุยกับทนายคนปัจจุบันของคุณเสียก่อน บางครั้งอาจจะมีปัญหาอย่างอื่นที่ไม่เข้าใจกัน คุณควรขอเวลาทนายคุณสักครั้งที่จะคุยแบบเปิดใจ พร้อมกับล่ามที่คุณคิดว่าแปลได้ดีที่สุด ทนายของคุณอาจจะรับฟังเรื่องของคุณเพิ่มขึ้นและฟังว่าคุณไม่แฮปปี้เรื่องอะไรบ้าง บางทีสถานการณ์อาจจะดีขึ้นโดยที่คุณไม่ต้องเปลี่ยนทนาย

การคิดในแง่ลบเกี่ยวกับทนายของคุณนั้นไม่ใช่สิ่งดี ถ้าคุณแสดงความโกรธหรือไม่พอใจต่อหน้าทนายความบ่อยเข้า เขาก็จะไม่อยากช่วยคุณ ต้องใช้น้ำเย็นเวลาคุยกับทนาย พยายามทำให้เขาชอบคุณ สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นบวกเหล่านี้อาจสามารถทำให้รูปคดีของคุณผ่อนหนักเป็นเบาได้

อย่าลืมว่า คุณจะต้องทำการบ้านของคุณด้วยเพื่อที่จะให้ทนายของคุณได้ข้อมูลทั้งหมดที่เขาต้องการเพื่อที่จะแก้ต่างให้คุณได้เท่าที่จะเป็นไปได้ ให้ตั้งใจฟังทุกอย่างให้เข้าใจเมื่อพบกับทนายหรือตอนขึ้นศาล

สุดท้ายนี้ ขอให้คุณจำไว้ว่าคุณมีสิทธิที่จะเปลี่ยนทนายความได้และทนายความของคุณจะต้องเป็นผู้ที่อยู่ฝ่ายคุณและทำทุกอย่างเพื่อที่จะให้คุณหลุดคดีหรือผ่อนหนักเป็นเบาให้มากที่สุด


ขอให้คุณโชคดี


เบญจวรรณ ภูมิแสน