พรรคประชาธิปัตย์จะชูประเด็นในการหาเสียงให้กับม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร เพื่อรักษาเก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.เอาไว้ให้ได้อีกสมัย
ด้วยการชี้ว่า สานงานต่อได้เลย ไม่ต้องนับหนึ่งกันใหม่
ประเด็นนี้ก็น่าสนใจ มีประสบการณ์ทำหน้านี้มาแล้ว มีโครงการที่ทำค้างเอาไว้ ทำต่อได้เลย
เหมือนเป็นจุดเด่นที่คู่แข่งคนอื่นไม่มี คือ ไม่เคยนั่งเก้าอี้นี้มาก่อน
แต่จุดเด่นก็เป็นจุดด้อยได้ไปในตัว เพราะมีหลายโครงการในยุคที่ผ่านมา ซึ่งประสบปัญหา
คงต้องโดนหยิบมาขยาย เน้นย้ำให้คนกรุงรู้สึกถึงความเสียหายที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว!
มองในเรื่องเดียวกัน พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย ไม่เคยมีบาดแผล ไม่เคยมีความล้มเหลวในงานกทม.
มีแต่สิ่งใหม่ๆ มีความสดใสให้คนเมืองหลวงได้มองได้เลือก
แถมมีประสบการณ์ในฐานะตำรวจ ที่เคยดูแลบ้านเรือนให้ในทุกเทศกาลหยุดยาว
ไปจนถึงงานแก้ไขยาเสพติดที่เข้าถึงชุมชนต่างๆ
แน่นอนจุดจูงใจอีกอย่างของพล.ต.อ.พงศพัศ คือ การประสานรัฐบาลได้สะดวก
อีกทั้งความร่วมมือจากตำรวจนครบาล ทั้งด้านความปลอดภัย ด้านการจราจรอันเป็นเรื่องใหญ่ของคนกรุง!!
นี่คือความได้เปรียบของอดีตรองผบ.ตร.
ครั้นจะไปโจมตีว่าเป็นแผนหาเสียงแอบแฝงล่วงหน้าคงจะไม่ได้
เพราะงานฝากบ้านไว้กับตำรวจนั้น ทำตั้งแต่ยังเป็นพล.ต.ท. ส่วนเรื่องยาเสพติดก็ได้รับแต่งตั้งหลายเดือนมาแล้ว
นอกจากผู้สมัครสังกัดพรรคแล้ว ลองมาดู ผู้สมัครอิสระบ้าง
เห็นเด่นอยู่คนเดียวคือ โฆสิต สุวินิจจิต ผู้ก่อตั้งมีเดียออฟมีเดียส์ เจ้าดังในวงการทีวีอีกราย
ไปจนถึงสปริงนิวส์ ทีวีข่าวดาวเทียมที่กำลังมาแรง
รวมทั้งมีประสบการณ์ที่ปรึกษารัฐมนตรี
จุดเด่นของผู้สมัครอิสระรายนี้ คือ นโยบายทันสมัย เป็นรูปธรรม มีไอเดียใหม่ๆ ที่น่าจะสอดรับกับคนรุ่นใหม่ในเมืองหลวง
เป็นคนมองไปข้างหน้า ไม่ใช่ขุดของเก่าสนิมเขรอะมาขาย
จึงเป็นผู้สมัครอิสระที่พอจะเป็นอีกทาง เลือกได้!