มีโทรศัพท์จากสุภาพสตรีท่านหนึ่งถึงผม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เธอเล่าเหตุการณ์ที่ได้พบกับตัวเอง เมื่อบ่ายวันศุกร์ที่ 24 พฤศจิกายน ที่ Citadel Outlet แหล่งช็อปปิ้งที่ใหญ่และดูดีมากที่สุดอีกแห่งหนึ่งของเมืองลอสแองเจลิส
เธอเล่าให้ฟังว่า วันนั้นเธอกับเพื่อนกำลังเดินช็อปปิ้งซื้อสินค้าแบรนด์เนมที่ลดราคาเกินกว่า 50% ของราคาจริง เพราะเป็นวันที่ห้างสรรพสินค้าทุกแห่งพร้อมใจกันลดราคาหลังวัน Thanksgiving มีคนไปเดินช็อปปิ้งกันแน่นขนัดในสถานที่แห่งนั้น
เวลานั้นมีชายวัยรุ่น 3 คนวิ่งผ่านเธอไปอย่างรวดเร็ว โดยมีผู้ชายอายุประมาณ 60 ปีวิ่งตาม ปากก็ร้องให้คนช่วยจับตัววัยรุ่นทั้ง 3 คนนั้นให้ด้วย น่าแปลกใจที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือใครสักคนช่วยจับตัวคนร้าย มีเพียงแค่หยุดมองด้วยความสนใจว่าเกิดอะไรขึ้นตามประสา “อเมริกันมุง” ปล่อยให้คนร้ายหอบหิ้วสินค้าที่ขโมยมาจากห้าง วิ่งฝ่าฝูงคนออกไปทางที่จอดรถ
มีสุภาพบุรุษท่านหนึ่งอายุประมาณ 20 ปีเศษที่เห็นเหตุการณ์นั้น ได้วิ่งตามคนร้ายไปติดๆจนสามารถจับตัวคนร้ายพร้อมทั้งสินค้าในมือได้ 1 คน มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงและต่อสู้กันระหว่างคนร้ายตัวโตกับสุภาพบุรุษรูปร่างเล็กนิดเดียว แต่ก็ไม่มีใครเข้าไปช่วยหนุ่มน้อยคนนั้นสักคน ปล่อยให้เขาต่อสู้กับคนร้ายที่รูปร่างใหญ่โตผิดกันมากแต่เพียงคนเดียว จนกระทั่งมีตำรวจและหน่วยรักษาความปลอดภัยเข้ามาช่วยจับคนร้ายเอาไว้ได้
คนที่ยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดต่างพากันโห่ร้องและปรบมือให้เด็กหนุ่มคนนั้น มีคนเข้ามาขอจับมือเขามากมายด้วยความชื่นชม เธอและเพื่อนของเธอก็พลอยชื่นชมในความกล้าหาญของเขาด้วย เพียงแต่เธอแค่สงสัยว่าเด็กคนนั้นเป็นคนเอเซียชาติอะไร เพราะเห็นการต่อสู้กับคนร้ายด้วยการเตะและชกตามคุณสมบัติของมวยไทย เลยทำให้ยิ่งสงสัยหนักเข้าไปอีก บังเอิญเพื่อนของเธอที่ไปด้วยพอรู้จักเด็กหนุ่มคนนี้ว่าเป็นคนไทย เคยพบเห็นบ่อยๆเวลามีงานที่สถานกงสุลไทย บอกให้เธอรู้ว่าเขาเป็นใคร
“คนไทยจ๊ะ ชื่อเบนซ์ เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์ไทยแอลเอ.”
เธอจึงโทรศัพท์มาหาผมที่สำนักงาน พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมและยกย่องที่เบนซ์เป็นคนกล้าหาญและไม่นิ่งดูดายที่เห็นคนถูกรังแก
ผมฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ก็ต้องขอแสดงความชื่นชมต่อคุณเบนซ์ หรือคุณ วีรพัฒน์ อึ้งอร่าม ไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ