ผมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้าง "หยาบกร้าน" ไปสักนิด ตั้งแต่เกิดมาจนถึงบัดนี้ ไม่ค่อยพิถีพิถัน และละเอียดรอบคอบ ต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเอง เช่น
จำวันเกิดเมียไม่ได้
จำวันเกิดตัวเองไม่ได้
ไม่เคยนึกถึงวันแต่งงาน
ไม่เคยจัดงานวันเกิด
ไม่เคยเลี้ยงฉลองครบรอบแต่งงาน
ทั้งๆ ที่ภรรยาคอยชี้แนะให้เห็นทางว่านี่แต่งงานกันมาได้กี่สิบปีแล้ว แต่ผมก็ไม่เคยเฉลียวใจ ว่าภรรยาจะให้จัดเลี้ยงฉลองกันสักครั้ง
ผมได้เพียงแต่คิดในใจว่า ปีหน้าจะจัดให้ จะได้ไม่ต้องมาบอกซ้ำซากอยู่นั่นแหละ ว่าแต่งงานกันมากี่ปี
วันเกิดปีนี้ นับเป็นปีสำคัญของผมภรรยาเลยแนะนำว่าควรจะจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดสักครั้ง เพราะตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยเห็นผมจัดงานฉลองเลี้ยงวันเกิดให้ตัวเองสักครั้ง ทั้งๆ ที่มีอุปกรณ์ที่พร้อมจะจัดงานได้ในทันทีทันใด
แต่ผมก็ปฏิเสธไปอีกเช่นเคย โดยอ้างกับภรรยาว่าระยะนี้สุขภาพไม่ค่อยดี ไม่อยากจัดงานอะไรให้เหนื่อย แล้วก็ยังสร้างความลำบากให้กับคนอื่นอีกด้วย
ผลสุดท้ายภรรยาผมก็จนใจ ไม่รู้จะทำยังไงกับผมได้
เมื่อวันศุกร์ที่แล้วภรรยาผมสั่งซื้อ บ๊ะจ่าง มา 20 ลูก กับ ลิ้นจี่ 1 ลัง เพื่อเอามาใส่บาตร เนื่องในวันเกิดของผม ที่หน้าไทยแลนด์พลาซ่า ในตอนเช้าวันเสาร์
ก็ต้องขอขอบคุณ คุณนวลละออ โรจนปัญญา ภรรยาของผม ที่อุตส่าห์ตื้อผมให้ทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่งในวันเกิด
ในช่วงดึกของวันเกิดนั้น ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลาน มาอวยพรให้ผมอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา ทุกคนอวยพรให้ผมมีอายุยืนนาน อยู่เป็นมิ่งขวัญของลูกหลานตลอดไป
มีหลานสาวคนโตชื่อ "เจนนิสา" วัย 12 ขวบ กล่าวคำอวยพรให้ผมที่ทำให้ผม ถึงกับต้องหลั่งน้ำตา ด้วยความตื้นตันใจ เธออวยพรให้ผมเป็นภาษาอังกฤษ แต่แปลเป็นไทยได้ใจความว่า
"ปู่ขา ขอให้ปู่มีสุขภาพแข็งแรง อยู่กับเจนนี่ไปนานๆ อย่าวิตกกับเรื่องโรคไตของปู่ที่กำลังเริ่มเป็น เจนนี่จะสละไตให้ปู่ข้างหนึ่ง ถึงเจนนี่จะกลัวแต่เจนนี่ก็จะให้ปู่"