คุณสาคร ศิริรัตน์”กำนันตุ้ย” ส่งข้อความชิ้นหนึ่งของนายแพทย์เกษม วัฒนชัย มาให้อ่าน ผมอ่านดูแล้วซาบซึ้งมากทีเดียว ที่คนไทยทุกคนต่างมีจุดมุ่งหมายคล้ายคลึงกัน อาลัยและภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยกันทั้งนั้น คนไทยต่างระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงมีต่อผองปวงชนชาวไทยมาตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์มานานถึง 70 ปี
เมื่อวันศุกร์ที่ 18 พฤศจิกายน รัฐบาลไทยเพิ่งประกาศให้คนไทยทั่วโลกถวายสัตย์ปฎิญาณ แสดงความจงรักภักดีต่อพระองค์ในวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายนนี้ เวลา 08.00น. อันเป็นเวลาที่กระทันหันมากที่สุดสำหรับคนไทยในต่างประเทศที่จะส่งข่าวให้ทราบทั่วถึงกันได้ สถานกงสุลไทย ลอส แอนเจลิสจึงได้มีกำหนดการถวายสัตย์ปฎิญาณและร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ที่วัดป่าธรรมชาติ เวลา 15.00น. จึงขอชวนเชิญปวงชนชาวไทยไปร่วมในพิธีนี้ด้วย
ผมขออนุญาตนำข้อความของนพ เกษม วัฒนชัย มาลงในคอลัมน์นี้ ดังนี้
ผมตั้งใจจะไว้ทุกข์ถวายจนกว่าจะเสร็จสิ้นการออกพระเมรุมาศกลางเมือง ด้วยความรักและอาลัยจากใจ อยากจะเชิญชวนพี่น้องชาวไทยร่วมกันไว้ทุกข์ถวายจนกว่าจะเสร็จสิ้นการออกพระเมรุด้วยกันครับ ถึงแม้ทางราชการจะขอความร่วมมือประชาชนไว้ทุกข์ถวายแค่ 30 วัน แต่พ้น 30 วันมาแล้วแทบทุกคนก็ยังไว้ทุกข์กันอยู่ อยากให้ทำเช่นนี้ได้จนถึงการออกพระเมรุ หากใครเห็นด้วยโปรดช่วยแชร์นะครับ กราบขอบพระคุณมากครับ
เราคนไทยน่าจะไว้ทุกข์ประมาณปีเศษครับ เพราะสวรรคตต้นเดือนตุลา การออกพระเมรุกลางเมืองนั้นต้องข้ามปี เนื่องจากพระเมรุมาศเป็นศิลปะชั้นสูงแต่ไม่ทำเป็นการถาวร ประดับด้วยกระดาษทองย่นซึ่งทนฝนไม่ได้และต้องใช้เวลานานมากในการฉลุลายและประดับ เดือนตุลาคมนั้นยังเป็นปลายฝนอยู่ทำงานช่างเหล่านี้ไม่ได้แน่ๆ เพราะจะโดนฝนเสียหาย คาดเดาว่าอย่างเร็วสุดน่าจะเดือนมกราคม ทั้งนี้แล้วแต่ว่าจะทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้มีหมายกำหนดการลงมาเมื่อใด
อันที่จริงคนไทยส่วนหนึ่งก็ยังทำใจไม่ได้เช่นที่ยายคนหนึ่งทูลถามพระองค์เจ้าโสมสวลีว่า”ไม่เผาได้ไหม” จนต้องทรงตอบในทำนองว่าเป็นสัจธรรมไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เวลาปีเศษจนกว่าจะออกพระเมรุกลางเมืองจึงน่าจะเป็นสิ่งที่คนไทยเต็มใจที่จะไว้ทุกข์ถวาย