เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 5 มกราคม 2556

ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงจัดอันดับ-ทำโพลข้ามปี ก็คือปี 55 เป็นปีที่ผู้หญิงมีบทบาทสูงขึ้น และจะเป็นแนวโน้มต่อถึงปี 56 ด้วย

เว็บไซต์ข่าวโกลเบิลโพสต์ของสหรัฐ สรุปประเด็นหลักๆ ไว้ 10 เรื่อง หัวข้อที่เกี่ยวกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คือมีผู้หญิงเป็นผู้นำประเทศอยู่ 2 คน

คนแรก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ของไทย อีกคนคือ จูเลีย กิลลาร์ด นายกฯออสเตรเลีย

ในขณะที่ อองซาน ซูจี เป็นผู้นำด้านประชาธิปไตยพม่า

แม้ว่าค่าเฉลี่ยสัดส่วนส.ส. หญิงในสภาของภูมิภาคนี้ (ตามข้อมูลของ IPU สหภาพรัฐสภาสากล) จะไม่สูง คือแค่ร้อยละ 18.5

แต่การมีผู้นำหญิงก็เหมือนเป็นตัวแทนที่แสดงถึงความเปลี่ยนแปลงในสังคม ว่าในชุมชน องค์กรต่างๆ ของรัฐ มีผู้หญิงทำหน้าที่บริหารเพิ่มขึ้น

เชื่อว่าตัวเลขในปี 56 จะก้าวกระโดดขึ้นอีก

ในขณะที่เกาหลีใต้ มีประธานาธิบดีหญิงคนแรก เช่นเดียวกับมาลาวี ชาติในทวีปแอฟริกา

สหรัฐอเมริกา ชาติผู้นำประชาธิปไตย มี นางฮิล ลารี คลินตัน เป็นแบบฉบับสตรีนักบริหาร แม้ว่าปีนี้จะหมดวาระ อเมริกาจะมีวุฒิสภาชุดใหม่ที่มีส.ว.หญิงเป็นจำนวนสถิติ 20 คน

แองเกล่า แมร์เคิล นายกฯหญิงเยอรมันยังคงเป็น ผู้นำกู้วิกฤตหนี้ยุโรป โดยมี คริสทีน ลาการ์ด เป็นผอ. ไอเอ็มเอฟ

ประธานาธิบดีหญิงดิลมา รุสเซฟฟ์ แห่งบราซิล ยังคงได้รับความนิยมจากการบริหารเศรษฐกิจด้วยอัตราการเจริญเติบโตสูง พร้อมเตรียมการต่างๆ ในฐานะเจ้าภาพฟุตบอลโลกปี 2014

ปีที่ผ่านมายังเป็นปีของสาวน้อย มาลาลา ยูเซฟไซ วัย 15 ปีซึ่งได้ใจจากคนทั่วโลก จากการต่อสู้เพื่อให้เด็กผู้หญิงได้เรียนหนังสือ จนถูกกลุ่มตาลิบันในปากีสถานบุกยิง

ขณะที่เรื่องสลดช่วงท้ายปีก่อน คือคดีรุมข่มขืนเหยื่อสาวอินเดียบนรถเมล์ สะท้อนถึงความขัดแย้งอย่างรุนแรงในชาติที่เป็นผู้นำประชาธิปไตยโลก แต่กลับมีคดีที่สะท้อนการกดขี่ทารุณทางเพศ

ตัวอย่างนี้ชวนให้ขบคิดถึงไทยด้วย เพราะแม้สตรีจะเป็นผู้นำในองค์กรต่างๆ มากขึ้น แต่ก็ยังมีความคิดเก่าๆ เน่าๆ ที่โจมตีผู้นำหญิงด้วยวาทะหยามเหยียดทางเพศ โดยเฉพาะในโลกไซเบอร์

ปีใหม่แล้ว วิธีคิดและการแสดงออกที่เชยๆ และแย่ๆ ควรจะยุติได้แล้ว