ผมเกลียดเดือนเมษายน เพราะเดือนเมษายนพรากคนที่ผมรักไปถึง 2 คนแล้ว เป็นคนในแวดวงสื่อมวลชนไทยในสหรัฐอเมริกา พอถึงเมษายนในแต่ละปีผมจิตใจไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเท่าไหร่ กลัวเพื่อนฝูงจะต้องมาพัดพรากจากกันไป หรือไม่ก็เป็นเราที่จะหนี่เพื่อนฝูงไปอยู่อีกโลกหนึ่ง
4 เมษายน 2543 ผมเสียเพื่อนรักที่เคยร่วมงานกันมานานหลายปี "พี่อ้วน เฉียบ" ธนะเทพ เตชะเลิศกมล ด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก พี่อ้วนเคยคลุกคลีตีวงกับผมมาตั้งแต่สมัยผมเป็นคอลัมนิสต์อยู่ที่หนังสือพิมพ์ "เสรีชน" จนเรามาร่วมงานกันอย่างจริงจังที่หนังสือพิมพ์ไทยแอล.เอ. แล้วด้วยความรักทำให้พี่อ้วนต้องแยกทางกับผมไปช่วยหญิงคนรักทำนิตยสารฉบับหนึ่ง พี่อ้วนจากไปนานแล้วแต่พี่อ้วนยังคงอยู่ในหัวใจของผม และเพื่อนๆ ตลอดไป
21 เมษายน 2555 ผมทราบข่าวร้าย ทางอินเตอร์เน็ตว่า "อ้วน อรชร" หรือ ทวีสิน สถิตย์รัตนชีวิน คอลัมนิสต์ชื่อดัง และบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ที่เมืองไทยเสียชีวิตด้วยอาการตับ ไต ติดเชื้อ ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
ข่าวนี้ทำให้ผมตกใจอย่างมากเพราะอ้วนกับผมสนิทสนมกันดีตั้งแต่ครั้งที่เราทำงานอยู่ด้วยกันที่หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ อ้วนยังเคยมาช่วยผมจัดการประกวดนางสาวไทยยูเอสเอ ถึง 2 ครั้งในปี 1990 และ 1991 ด้วยการนำบริษัท ยอดพธูไทย และสปอนเซอร์จากเมืองไทยกว่า 40 คนมาร่วมงานประกวด รวมทั้งจัดให้มีการถ่ายทอดโทรทัศน์ทางสถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 ให้ด้วย ทั้งหมดนี้อ้วนเป็นคนหาเงินจากสปอนเซอร์ในเมืองไทย มาใช้จ่ายโดยผมไม่ต้องออกเงินเลย เงินขายบัตรเข้าชมการประกวดเกือบ สามหมื่นดอลลาร์ที่ผมหาได้นำมาใช้เป็นค่าต้อนรับคณะจากเมืองไทยที่มาร่วมงานด้วยเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ผมไปเมืองไทยทีไรจะต้องนัดพบกับอ้วนทุกครั้ง เพื่อจะได้มีโอกาสพูดคุยกันบ้างในเวลาไปทานข้าว หรือไปเที่ยวด้วยกัน
งานศพของอ้วนที่วัดธาตุทอง ยิ่งใหญ่มากมีคนทุกระดับชั้นตั้งแต่รัฐมนตรีจนถึงภารโรงไปร่วมงานด้วยความรักและอาลัยผู้ช่ายที่ชื่อ "อ้วน อรชร"
21 เมษายน 2555 ผมก็ต้องมาเสียเพื่อนรักไปอีกคน สรรชัย โกรานนท์ เสียชีวิตด้วยโรคเส้นเลือดในสมองตีบตัน สรรชัย เคยทำงานที่ไทยแอล.เอ. อยู่พักหนึ่งแล้วจึงแยกย้ายไปทำหนังสือพิมพ์ฉบับอื่น สรรชัยเป็นคนมีเพื่อนน้อย ในความคิดของผม เป็นเหตุให้สรรชัยโทรศัพท์มาหาผมเกือบทุกวัน เป็นเวลานานถึง 20 ปี
งานสวดพระอภิธรรมและฌาปนกิจศพของสรรชัย ทำให้ผมตระหนักดีว่า สรรชัยไม่ใช่คนโดดเดี่ยวอย่างที่ผมคิด เพราะงานศพสรรชัยแต่ละคืนมีคนไปร่วมงานมากกว่า 200 คนทุกคืน
23 พฤษภาคม 2555 ผมต้องสูญเสียเพื่อนรักที่รักกันมากที่สุดอีกคนหนึ่งไปอย่างไม่มีวันกลับ ไพรบูลย์ เพียรวนิช หรือ "เปี๊ยกสีลม" ก็ต้องมาเสียชีวิตลงหลังจากต้องทนทรมานกับโรคร้ายต่างๆ มานานเกินกว่า 10 ปี ศพตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ในขณะนี้ ขอบคุณ ไพสันติ์ พรหมน้อย ที่ช่วยบอกข่าวให้พวกเราได้ทราบกัน
ตอนอายุ 13 ผมชอบไปปีนสนามมวยราชดำเนิน เพื่อเข้าไปดูมวยฟรีทั้งที่กำแพงตรงผมปีนเข้าไปนั้นสูงขนาดตึก 3 ชั้น ผมก็ยังเสี่ยงปีนเข้าไปดูด้วยใจรักการชกมวย
จนกระทั่งวันหนึ่งมีคนจับได้ในขณะที่ผมปีนเข้าไปในสนามมวย คนที่จับผมได้เอามือฟาดก้นผม 3 ที แล้วก็อบรมสั่งสอนให้รู้ถึงอันตรายในการปีนเข้ามา ถ้าพลาดตกลงไปก็คงจะต้องตายแน่ แล้วท่านก็บอกกับผมว่า ถ้าอยากดูมวยฟรีจริงๆ ก็มาทำงานขายเครื่องดื่มในสนามมวยทุกวันพฤหัสฯ และวันอาทิตย์ที่สนามมวยราชดำเนินมีรายการมวยประจำทุกสัปดาห์
คนที่จับผมได้นั้นคือคุณพ่อของเปี๊ยกสีลม ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานในการขายเครื่องดื่มในสนามมวยนั่นเอง
ที่นั่นเองทำให้ผมรู้จักกับเปี๊ยกสีลม และคบหาตลอดเรื่อยมาตั้งแต่เมืองไทยจนถึงอเมริกา เรามีความรู้สึกเป็นพี่น้องกันมากว่าความเป็นเพื่อน ด้วยความที่ผมสนิทสนมกับตัวเปี๊ยก และครอบครัวของเปี๊ยกเกือบทุกคน
การจากไปของเปี๊ยกเป็นเรื่องที่ทำให้ผมเศร้าใจมากๆ ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่ว่า เปี๊ยกเจ็บออดๆแอดๆมาหลายปีแล้ว ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายสิบครั้ง
ขอให้วิญญาณของเปี๊ยกจงไปอยู่ในที่เปี๊ยกต้องการ ชาติหน้ามีจริงเราคงได้มาเป็นเพื่อนกันอีก