เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง 19 พฤษภาคม 2555

การอ่านหนังสือทำให้คนฉลาด โดยเฉพาะหนังสือพิมพ์ทำให้เราได้รู้จักสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาในโลกนี้อย่างทันต่อเหตุการณ์

ปัจจุบันคนอ่านหนังสือพิมพ์มากเท่าไหร่ก็ "โง่" เท่านั้น

สาเหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าหนังสือพิมพ์ยุคนี้แบ่งก๊กแบ่งเหล่า เสนอข่าวจริงบ้างเท็จบ้าง คนอ่านเลยงงไม่รู้ว่าอะไรจริง อะไรไม่จริง จึงจำเป็นต้องปล่อยตัวเองไว้ตรงคำว่า "โง่"

ท่านที่อ่านหนังสือพิมพ์ไทยเคยสังเกตไหมว่า หนังสือพิมพ์นับ 10 ฉบับที่มีอยู่ในขณะนี้ ได้แบ่งแยกเป็นสองพวกสองเหล่า

ข้างหนึ่งก็มีไทยรัฐ มติชน ข่าวสด เป็นหัวหอกใหญ่ เสนอข่าวจากฝ่ายรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทุกรูปแบบ

อีกฝ่ายหนึ่งมี ผู้จัดการ คมชัดลึก แนวหน้า ไทยโพสต์ เนชั่น เป็นแกนนำ เสนอข่าวที่ตรงกันข้ามกับรัฐบาล ใครว่ารัฐบาลดี หนังสือพิมพ์กลุ่มนี้จะต้องบอกว่าเลว ไม่ถูกต้อง

คนที่อ่านหนังสือพิมพ์ทั้งสองฝ่ายต่างก็พากันงง อะไรคือเรื่องจริง อะไรคือเรื่องไม่จริง

ฝ่ายหนึ่งเสนอข่าวรัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติด้วยการขึ้นเงินเดือนของผู้ที่จบปริญญาตรีขั้นต้นหนึ่งหมื่นห้าพันบาท และแรงงานขั้นต่ำวันละสามร้อยบาท ขณะที่ได้เร่งดำเนินการให้มีการเริ่มต้นในเร็ววัน

ขณะเดียวกันหนังสือพิมพ์ของอีกฝ่ายก็พากันลงข่าวว่า โครงการเพิ่มเงินเดือนปริญญาตรีเป็นหนึ่งหมื่นห้าพันบาท กับโครงการค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท นั้นเป็นแค่คำหลองลวงในการหาเสียงเลือกตั้งเท่านั้น ถ้าจะให้เป็นอย่างนั้นจริงๆ คงจะทำกันไม่ได้แน่นอน

เกิดวิกฤตน้ำท่วมทั่วประเทศไทย นายกรัฐมนตรีลงพื้นที่พยายามแก้ปัญหาและช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน ชนิดอดหลับอดนอนกันเกือบทุกวัน มีปัญหาตรงไหน นายกยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้าไปเคลียร์ทุกที่ ทำให้ขวัญและกำลังใจของผู้ประสบอุทกภัยดีขึ้น รวมทั้งให้การช่วยเหลือในทันที

ด้านหนังสือพิมพ์ฝ่ายค้าน โหมข่าวรัฐบาลแก้ปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ ประชาชนเดือดร้อนไปทั่วแผ่นดิน การช่วยเหลือด้านเงินทองและสิ่งของประชาชนได้รับไม่ทั่วถึงกัน

อีกฝ่ายว่าดี ฝ่ายตรงข้ามจะต้องบอกว่าเลว ตกลงว่า "ดี" หรือ "เลว" กันแน่ ประชาชนคนติดตามข่าวต่างก็พากันงง

ผมว่า "กฎแห่งกรรม" นั้นมีจริง ใครทำดีก็ย่อมได้รับผลแห่งความดีตอบสนอง ใครทำชั่วก็จะต้องรับกรรมที่เขาทำไว้

ประชาชนอย่างเราอาจมองไม่เห็นและไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง แต่พวกผู้ใหญ่ของบ้านเมืองเขามองเห็น

การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ย่อมเป็นเครื่องบ่งบอกได้ว่า ใครมีผลงานในการบริหารประเทศชาติบ้านเมืองได้ดีมากน้อยแค่ไหน