เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 7 กรกฎาคม 2555

ผมแอบศึกษาคนไทยในแอล.เอ. มีหลายคนที่มีอะไรที่น่าทึ่งและน่าในใจมาก แอบชื่นชมกับหนุ่มวัย 40 เศษ มีอาชีพเป็นเซล์แมน คนๆ ที่ไม่รู้ว่ามีอะไรดีจึงเป็นที่อิจฉาริษยาของผู้ชายทั่วไป

หน้าตาตี๋ๆ ใส่แว่น แต่ความสามารถเหนือกว่า "ขุนแผน" ในนวนิยาย

เปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่น บางครั้งเคยเห็นกลางวันควงผู้หญิงคนหนึ่ง กลางคืนควงอีกคนหนึ่ง

เขามีอุปกรณ์ที่จะดึงดูดและทำให้เพศตรงข้ามหลงไหลครบถ้วน

บ้านที่พักแบ่งห้องให้เช่าเฉพาะผู้หญิงในย่านไทยทาวน์ฮอลลีวูด คนที่มาจากเมืองไทยใหม่ๆ ย่อมดิ้นรนหาที่พักเป็นอย่างแรก คนไหนที่เขาพอใจก็จะทำความสนิทสนม ให้ความรู้ต่างๆ ในการดำรงชีวิตในอเมริกา

มีรถยนต์หรูพาไปสมัครงาน พาไปทำงานหรือไปทำธุระที่ไหนก็ได้

พาไปทานอาหารตามร้านฝรั่ง (ไม่นิยมร้านไทยเพราะมีโจทย์มาก)

ด้วยความเหงา บวกกับได้รับการเอาอกเอาใจอย่างดีจากเขา ไม่นานเท่าไหร่เธอก็โดนเขาพิชิตศึกเรียบร้อย

เสียทั้งตัว เสียทั้งค่าเช่าบ้าน

นั่นเป็นความสมัครใจของผู้หญิงที่ยอมให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นและเป็นไป พอเบื่อเขาก็เริ่มหาผู้หญิงคนใหม่ต่อไป

ผมแทบสิ้นศรัทธาในตัวเขา เมื่อได้ทราบรายละเอียดของการอยู่ร่วมกับเขา แล้วเขาปฏิบัติกับผู้หญิงอย่างไร เมื่อยามที่เขาต้องการมีคนใหม่

มีผู้หญิงคนหนึ่งมาขอพบผมและเล่าพฤติกรรมทั้งหมดของเขาให้ผมฟัง เธอโดนรีดไถไปร่วมหมื่นดอลลาร์ เงินทองที่มีมาจากเมืองไทยหมดไปเพราะลมปากของเขา โดนตบตี ด่าทออย่างรุนแรง พอเธอต่อสู้เขาก็เรียกตำรวจมาจับเธอไปขัง แล้วส่งต่อไปให้อิมมิเกรชั่นขังต่อไปอีก 2 เดือนเศษ

ในขณะที่เธอติกคุกอยู่เขาก็ติดต่อไปหาคุณแม่ของเธอที่เมืองไทยขอเงินก้อนใหญ่เพื่อเอามาช่วยเธอให้ออกจากคุก เคราะห์ดีที่คุณแม่เธอไม่ยอมให้จนกว่าจะได้พูดกับตัวเธอเสียก่อน

ผู้หญิงคนนี้รูปร่างหน้าตาดี ฐานะทางบ้านดี จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังของประเทศไทย อายุเกือบ 30 ปี

เธอไปเช่าบ้านเขาอยู่ตามที่อ่านพบในหนังสือพิมพ์ เธอยอมรับว่าเขาเป็นผู้ชายที่มีเสน่ห์มาก รู้จักเอาอกเอาใจ รู้ว่าผู้หญิงต้องการอะไร คอยปลอบประโลมใจให้คลายความคิดถึงบ้าน พาไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จนเธอตกหลุมรักยอมพลีร่างให้เขาเชยชม พอเขามีผู้หญิงคนใหม่ทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารในไทยทาวน์ เขาก็เขี่ยเธอทิ้งอย่างไม่แยแส

ออกจากคุกมาเธอยอมรับว่าเธอยิ่งเครียดหนัก เมื่อเขาไม่ยอมรับรู้อะไรสักอย่าง คงมีความสุขอยู่กับผู้หญิงคนใหม่ของเขา ทำให้เธอคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง

ผมก็ได้แต่ปลอบประโลมและชี้ทางถูกทางผิดให้เธอเห็น ขอให้เธอลืมเขาและเริ่มต้นใหม่กับใครสักคนในวันข้างหน้า การคิดฆ่าตัวตายเป็นความสะใจของเธอที่อยากจะทำ แต่เขาก็คงหัวเราะเยาะกับ "ความโง่" ของผู้หญิงคนหนึ่ง และคุณพ่อคุณแม่ของเธอนั่นแหละคือผู้ที่ได้รับความเสียใจมากที่สุด

คุยกันนานเกือบ 2 ชั่วโมง ก่อนจะยุติการสนทนา ผมเอ่ยถามเธออย่างไม่เกรงใจว่า "ถ้าผู้ชายคนนั้นจะกลับมาขอมีเพศสัมพันธ์กับเธอบางครั้งบางคราว เธอจะยินดีหรือเปล่า"

เธอตอบผมโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดแม้แต่นิดเดียว

"ยอมค่ะ หนูรักเขามาก ถึงเขาจะเลวกับหนูเพียงใด หนูก็ตัดใจจากเขาไม่ได้"

อ้าว !!!.....