เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 4 พฤษภาคม 2556

ในความเงียบสงัดของท้องทะเล ไม่มีใครรู้ได้เมื่อไหร่ที่คลื่นลูกยักษ์จะถาโถมขึ้นมาทำร้ายสิ่งมีชีวิตและข้าวของต่างๆ ที่มนุษย์สรรหามาประดับประดากัน

รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปกครองบ้านเมืองมาได้เกือบ 2 ปี ด้วยความใจเย็นไม่มีปากมีเสียงของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย เธอยึดมั่นในระบบปรองดองสมานฉันท์กับทุกฝ่าย เพื่อให้บ้านเมืองเจริญเติบโตได้โดยไม่มีภัย

“นายกปู” ยอมเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าอย่างแสนสาหัส ด้วยการเดินสายติดต่อทำการค้ากับต่างประเทศ ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่จะพื้นฟูประเทศไทยของเราให้เจริญเติบโตขึ้นมา

นายกรัฐมนตรีหญิงคนนี้ เดินทางไปประเทศไหนก็ได้รับการต้อนรับและให้ความร่วมมืออย่างดี จากนานาประเทศ แทบจะกล่าวได้ว่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีไทยคนเดียวที่ติดต่อมีความสัมพันธ์กับต่างชาติมากที่สุด และผลที่ติดตามมาก็คือเศรษฐกิจของไทยเริ่มลืมตาอ้าปากได้ หลังจากดิ่งจมเหวมานานหลายปี ทำให้นายกรัฐมนตรีคนนี้เป็นที่รักและเป็นขวัญใจของคนไทยทั่วไป อาจจะมีคนเกลียดชังบ้าง แต่นั่นเป็นเพียงส่วนน้อย ซึ่งถ้าเทียบกับฝ่ายที่ให้ความชื่นชมยินดีแล้ว มันต่างกันลิบลับ

จนถึงป่านนี้แล้ว ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลก็ยังหวังที่จะได้ลูกฟลุ๊ค ให้จัดการแต่งตั้งรัฐบาลใหม่ในกรมทหาร แรกๆ ก็ดูว่าจะเป็นความหวังลมๆ แล้งๆ แต่ระยะหลังมานี้ หน่วยข่าวกรองของรัฐบาล ค้นพบว่า มีการลงทุนอย่างมหาศาลจากนักธุรกิจใหญ่หลายคน ที่รวมตัวกันเป็นนายทุนให้ทหารออกมาทำการปฏิวัติ เป็นการล้มล้างรัฐบาลปัจจุบัน

ฝนตั้งเค้าทะมึนมาว่าอาจจะเกิดเหตุร้ายขึ้นบนแผ่นดินของประเทศไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จึงมีคำสั่งให้ลูกพรรคเพื่อไทยทุกคน ลงพื้นที่เตรียมตัวเลือกตั้งใหม่ในไม่ช้านี้ เพราะกลิ่นปฏิวัติโชยแตะจมูกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เดินทางไปประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่เมืองอูรันบาตอ ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เธอจึงประกาศให้ชาวโลกทราบว่า “ประเทศไทยอันเป็นที่รักของเรานั้น มีความไม่เป็นประชาธิปไตย ซึ่งเป็นผลกระทบต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศไทย” เธอพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ ผู้ที่มีปฏิกิริยาต่อต้านประชาธิปไตยยังคงอยู่ รัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้นในรัฐบาลภายใต้คณะรัฐประหารได้ใส่กลไกที่ตีกรอบเพื่อจำกัดความเป็นประชาธิปไตย จะเห็นได้ว่าคณะรัฐประหารได้ตั้งจำนวนวุฒิสภาไทยโดยครึ่งหนึ่งมาจากการเลือกตั้ง แต่อีกครึ่งหนึ่งกลับได้รับการแต่งตั้ง

กลายเป็นเรื่องทอล์คออฟเดอะทาวน์ ที่ได้ยินนายกยิ่งลักษณ์พูดใส่นักการเมืองไทยด้วยประโยคหนักๆ แรงๆ เป็นครั้งแรก เพราะเธอต้องการฟ้องชาวโลกให้รู้ว่า อะไรกำลังจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย