เมืองไทยเป็นเมืองพระ มีศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ที่แตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ เป็นสิ่งสวยงามน่าจดจำ ประกอบกับมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายทั่วประเทศ บวกกับรอยยิ้มที่แสนประทับใจที่เปล่งประกายความเป็นมิตรให้กับคนทั่วไปของคนไทย ทำให้มีชาวต่างชาติต่างพากันยึดเมืองไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันดับหนึ่งของโลก
ไม่ทราบว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยมีสถิติไว้หรือเปล่า มีชาวเม็กซิกันเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทยมากแค่ไหน เทียบกับประเทศอื่นๆ ได้หรือเปล่า ผมค่อนข้างจะมั่นใจว่า แต่ละปีมีคนเม็กซิกันไปเที่ยวเมืองไทยกันมากที่สุดชนชาติหนึ่ง ไม่ต้องไปดูสถิติจาก ททท.หรอกครับ ดูแค่ชีวิตประจำวันของพวกเราในอเมริกา ก็พอจะบอกได้ว่า คนเม็กซิกันซึมซับและรับศิลปวัฒนธรรมของไทยมาใช้กับชีวิตของเขามากทีเดียว
เคยสังเกตบ้างไหมครับว่า เวลาเราขับรถไปตามถนนหนทางต่างๆ ในอเมริกา พอรถติดไฟแดงจะมีคนที่ทนเห็นความสกปรกบนกระจกรถด้านหน้าและด้านหลังของเราไม่ได้ เขาจะเข้ามาเช็ดถูให้สะอาด โดยใช้อุปกรณ์ไม้เช็ดกระจกและผ้าเช็ดรถเช็ดให้ ข้อสำคัญอย่าลืม "ทิป" นะครับ มากน้อยตามความพอใจของเรา
ตามสี่แยกจะมีคนถือถุงผลไม้มายื่นเสนอให้เราพิจารณาเป็นผลไม้ตามฤดูกาล เช่น ส้ม เชอรี่ องุ่น มะม่วง สับปะรด และมะพร้าวอ่อนทั้งลูก เห็นแล้วทำให้นึกถึงสี่แยกต่างๆ ในเมืองไทย ที่มีเด็กเดินขายผลไม้ให้เวลาที่รถติด บอกก่อนตรงสี่แยกลาดพร้าว-รัชฎาภิเษก เด็กมาเดินขาย "กล้วยแขก" รสชาติอร่อยมากๆ ผมผ่านไปทุกครั้งจะต้องซื้อกล้วยแขกทานทุกที จุดขายของกล้วยแขกนอกจากรสอร่อยแล้ว เด็กสาววัย 16-17 นุ่งขาสั้น สวมเสื้อยืดที่เดินขาย สวยขนาดเข้าประกวดนางงามได้เลย
ตอนนี้ที่แอล.เอ. จะเป็นหน้าร้อน แน่นอนที่นักธุรกิจเลือดเนื้อเชื้อไขสแปนิชจะไม่ปล่อยโอกาสให้ผ่านไปได้ง่ายๆ ตามสี่แยกมีน้ำดื่มเป็นขวด มีน้ำอัดลม 2-3 ยี่ห้อเดินเร่ขายตามรถของท่านที่จอดอยู่
มองดูแล้วกิจกรรมต่างๆ ตามสี่แยกนั้น มันเป็นวัฒนธรรมแต่ดั้งเดิมครั้งโบร่ำโบราณของไทย ที่คนต่างชาตินำเอามาใช้ในอเมริกาอย่างเป็นล่ำเป็นสัน
ที่ล้ำหน้าเกินประเทศไทยเราก็คือ ที่เมืองไทยไม่มีคำว่า "โฮมเลส" เหมือนที่นี่ โฮเลสในอเมริกาเดี๋ยวนี้หากินกันตามสีแยกกันแล้ว เดินเก็บค่าใช้ถนนอย่างไม่กลัวว่าจะถูกรถชนตาย บางคนก็พิการจนน่าสงสาร บางคนแกล้งทำเป็นพิการเดินกระย่องกระแย่ง พอรถไปหมดแล้วเดินตัวตรงแน่วเลย
ลืมไปอย่างสำหรับธุรกิจยอดฮิตตามสี่แยก ที่จะมีในทุกวาระและทุกโอกาส วันคริสต์มาส วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันเม็มโมเรียลเดย์ ฯลฯ จะมีดอกไม้ทั้งที่เป็นช่อและเป็นห่อ เป็นโหลขายทั่วไป ราคาไม่ถูกอย่างที่คิดนะครับ ยิ่งเป็นวันสำคัญๆ ดอกกุหลาบแค่ดอกเดียวราคา 5 เหรียญ ยังดีนะที่ราคานั้นพอต่อรองกันได้ ต่อ 3 เหรียญเขาก็รีบยื่นดอกไม้ให้แล้ว
โชคดีที่คนเหล่านี้ไม่มีโอกาสได้ทราบว่า ที่วัดไทยลอสแองเจลิสนั้น มีอาจารย์เสาวภา ออลไบร้ท มาสอนแกะสลักผลไม้ และร้อยพวงมาลัยดอกไม้
ไม่งั้นป่านนี้ที่นี่มีพวงมาลัยดอกมะลิขายเกลื่อนตามสี่แยกแล้ว