เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 14 กรกฎาคม 2555

คุณศุภสิทธิ์ อัศวจารุ ออกมายืดอกรับอย่างลูกผู้ชายว่า เขาคือผู้ชายคนที่ผมเขียนถึง เป็นปริศนาไว้ ในคอลัมน์นี้เมื่อฉบับที่แล้ว คุณศุภสิทธิ์ หรือสตีฟ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง และได้แถลงข่าวให้กับบรรดาผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ ได้ทราบถึงข้อเท็จจริงทั้งหมด

ผมซึ่งเป็นผู้เขียนบทความเรื่องนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ขอให้คุณสตีฟ เขียนแก้ข้อกล่าวหาทั้งหมด เพื่อจะได้นำมาลงให้ โดยไม่ตัดตอนใดๆ ทั้งสิ้น เพราะผมไม่ต้องการเขียนเอง ซึ่งอาจจะดูไม่ยุติธรรมแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ได้ ทางที่ดีที่สุด คือให้เจ้าตัวเขียนมาเอง แต่รอจนถึงเวลาปิดต้นฉบับแล้ว คุณสตีฟ ก็ยังไม่ส่งคำแก้ข้อกล่าวหาต่างๆ มาให้ ผมจึงขอนำจดหมายหนึ่งในหลายฉบับ ที่ผู้อ่านส่งมาลงแทนไปก่อน


วิรัช โรจนปัญญา ลอสแอนเจลิส
7-9-2012
สวัสดี คุณวิรัช...

ผมได้อ่าน คอลัมน์ "เปิดเบิ่ง" ฉบับ 1400 เสาร์ที่ 7 กรกฎาคม 2012

ทราบเรื่องแล้วทำให้รู้สึก เศร้าใจ กับพฤติกรรมของคนไทยบางคน ที่มีจิตใจโหดเหี้ยม เห็นแก่ตัว ใจดำ ทำกับคนไทยด้วยกันได้เช่นนี้

ชีวิตในต่างแดน ที่ห่างไกล จากบ้านเกิดเมืองนอน เราควรเห็นใจ ให้ความช่วยเหลือ แนะนำต่อน้องใหม่ คนที่เพิ่งมาถึงด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ถือโอกาส แล้วหนุ่มวัย 40 เศษ ก็ไม่น่าจะเรียกว่าหนุ่ม เพราะวัยระดับนี้ควรจะคิดถึงกรรมดีมากกว่ากรรมชั่ว และที่ว่าอาชีพเซลล์แมน คงจะเซล์แมงดามากกว่าเซลล์อย่างอื่น พฤติกรรมเปลี่ยนคู่ควงเป็นว่าเล่นแบบนี้ แสดงว่าหาเลี้ยงชีพด้วยการปอกลอกผู้หญิงไปวันๆ โดยเอาอาชีพเซลล์บังหน้า

คนไทยในอเมริกามีมากกว่าแสนคน แต่อย่าลืมว่าใน LA โดยเฉพาะย่าน THAI TOWN เราเหมือนคนกลุ่มเล็กๆ ที่เจอกันแทบทุกวัน ตามตลาดไทย ห้องอาหารไทย ร้านหนังสือไทย เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน ยังจะมีกะจิตกะใจลวดลายกันได้ลงคออีกหรือ อย่าเทียบ "มัน" กับขั้น "ขุนแผน" เลยครับ ควรเรียกมันว่า "เหลือบสังคม" มากกว่า

LA สมัย 40 กว่าปี คนไทยเวลาเจอกันจะดีใจมาก และจะรู้เลยว่าใครเป็นอย่างไร มีร้านอาหารไทยไม่กี่ร้าน "พุทธชาด" ของ เป๋งกับนุกูล (เสียชีวิตแล้ว) "สยาม" ของหลวงพี่สุรพล ที่หนูดาวสวรรค์ สูกสาวสุดสวาทของ สุรัช ดิลกวิลาส กับ โสภิดา บุนนาค และอีกคนผู้สร้างวัดไทย HOLLYWOOD โดนลูกหลงจากการวิวาทกันของกลุ่มคนเลวจนเสียชีวิต

ทุกวันนี้สังคมไทยก้าวไปไกลมาก กู่ไม่กลับ แต่สำหรับคนมาใหม่จะเรียก "AMERICAN-DREAM" ได้ไม่เต็มปาก เราทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ทำนองว่า "คนในออกไม่ได้ แต่คนนอกยังอยากเข้า" บางคนขนพี่น้องมาเกือบหมด แต่ก็หวังอะไรมากไม่ได้ เพราะทุกคนมี BILLS ต้อง TAKE CARE

สำหรับเจ้าหมอ PLAY BOY คนนั้น ผมเป็นห่วงว่า จะไม่แก่ตาย ถ้ายังไม่เลิกพฤติกรรม เพราะมนุษย์เราไม่ใช่สัตว์ เรามีหัวจิตหัวใจ ถ้าเขาหัวเสียมากๆ สักวัน "ตัวเดียวอันเดียว" ของคุณอาจโดน "เจี๋ยน" โยนให้สุนัขคาบไปกิน วันนั้น "ไทยแอล.เอ." คงได้พาดหัวข่าว "หั่นเจ้าโลก ยุติการใช้ตลอดชีวิต" คดียกฟ้องจำเลยมีเหตุผลจำเป็นต้องทำ

จำเลยอาจเป็นคนเดียวกับที่บอกคุณวิรัชว่า "ยอมค่ะ หนูรักเขามาก ถึงเขาจะเลวกับหนูเพียงใด หนูก็ตัดใจจากเขาไม่ได้" (โดยเฉพาะได้เงินไปเยอะเลย)

คุณวิรัชสังเกตสีหน้าเวลาพูด เขากัดฟันพูดหรือเปล่า ? ผมเสียวจริงๆ ถ้าจอมซ่าส์กลับมาหวังควบสองกับนางเสิร์ฟ อะไรจะเกิดขึ้น

อย่าลืมสุภาษิต "หมองู ตายเพราะงู"

แต่เจ้าหมอนี่ตายเพราะ ง่าน และโง่


โอกาสหน้าจะเขียนมาคุยอีก
เก๋า LA