เปิดเบิ่ง

วิรัช โรจนปัญญา
เปิดเบิ่ง วันที่ 25 พฤษภาคม 2556

บ้านคือวิมาณของเรา

ไม่ว่าจะซื้อหรือจะเช่า บ้านคือสิ่งที่ให้ความสุขแก่เรามากที่สุด

ยามเหนื่อยพอกลับมาถึงบ้าน ก็ได้นอนหลับพักผ่อนให้มีพลังไว้สู้กับชีวิตในวันต่อไป

บ้านมีคุณประโยชน์มากน้อยแค่ไหน เห็นจะไม่ต้องบรรยาย เพียงแต่เราต้องหมั่นดูแลรักษาให้บ้านอยู่ในสภาพที่ดีตลอดไป

ผมซื้อบ้านที่ซุกหัวนอนอยู่ทุกวันนี้มานานเกือบ 40 ปีแล้ว ก่อนหน้าที่ผมจะเข้าไปอยู่เจ้าของเดิมอยู่มาแล้ว 50 กว่าปี รวมแล้วบ้านหลังนี้มีอายุเกือบ 100 ปีเข้าไปแล้ว

บ้านอยู่นานๆ ไม่ได้บำรุงรักษาก็ย่อมจะต้องเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา เมื่อ 2 ปีก่อนเวลาฝนตกมีน้ำฝนหยดลงไปในบ้าน 2-3 จุด ผมใช้วิธีเอาถังไปรองรับน้ำฝนไว้

ต่อมามีน้ำฝนรั่วจากหลังคามาหลายจุด ผมเลยจ้างช่างให้ขึ้นไปอุดหลังคาให้หายรั่ว

อยู่มาไม่นานมันก็เริ่มรั่วอีกทุกครั้งที่ฝนตก แต่ไม่ใช่ตำแหน่งเดิม กลายเป็นที่ใหม่ไปเรื่อยๆ ผมก็จ้างช่างมาอุดเรื่อยๆ เหมือนกัน

มาปีนี้ฝนตกหนักทีไร บ้านผมเจิ่งไปด้วยน้ำทุกที แถมรุกลามไปหยดถึงบนเตียงนอน กำลังนอนหลับอยู่ดีๆ ก็มีน้ำฝนหยดลงที่หน้า จนตกใจตื่น

มันสุดจะทนแล้ว เพราะขนาดที่นอนยังนอนไม่ได้ ผมจึงต้องจ้างช่างไปมุงหลังคาใหม่ทั้งหลัง บ้านผมมี 3 ห้องนอน และยังดัดแปลงโรงรถให้เป็นห้องนอนใหญ่ๆ อีกห้อง โดยสร้างโรงรถขึ้นมาใหม่สำหรับจอดรถได้ 2 คัน พื้นที่หลังคาจึงมีมากกว่าบ้านธรรมดา

ช่างประเมินราคาเอาไว้ที่ 6,000 เหรียญ ซึ่งก็สมเหตุสมผลดีหรอก ผมจึงตกลงใจให้ทำหลังคาโดยมีสัญญากันว่า 7 วันจะต้องเสร็จ

พอรื้อหลังคาออกเท่านั้น ผมแทบลมจับเมื่อช่างบอกว่า “ยูอยู่ได้ยังไง ทำไมปลวกถึงไม่กินยู” สาเหตุเพราะช่างค้นพบว่า ทั้งหลังคาบ้านและฝาบ้าน รวมทั้งผนังบ้านของผมนั้น ปลวกกินเรียบไปแล้ว ช่างมันถามผมอีกว่า “ยูไม่เคยเห็นเลยหรือว่าบ้านยูนี้มีปลวกขึ้นมานานแล้ว”

สาบานก็ได้ เกิดมาผมยังไม่เห็นเลยว่าปลวกมีหน้าตาเป็นอย่างไร แล้วผมจะบอกได้ยังไงว่า เห็นปลวกหรือเปล่า

ผลสุดท้ายก็ต้องมาประเมินราคาซ่อมบ้านใหม่ จาก 6,000 เหรียญ กลายเป็น เกือบ 30,000 เหรียญ

สงสัยผมต้องมาขอลังกระดาษจากแล๊ค-ซี ไปหาโลเคชั่นแถวถนน 5 ในดาวน์ทาวน์อยู่ละมั๊ง