ท่องไปในซานฟรานฯ
นายรุงรัง



ท่องไปในซานฟรานฯ 20 มิถุนายน 2563

ชีวิตคนเรานั้นมันชั่งสั้นนัก แต่เราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ และอยู่อย่างมีความสุข แล้วเราต้องทำกันอย่างไร ต้องคอยรำลึกไว้เสมอว่า ความสุขนั้นอยู่ที่ใจ ตั้งสติและทำสมาธิจะทำให้เราปล่อยว่าง ศาสนาไหนๆเราก็ทำสมาธิได้ ปล่อยตัวปล่อยใจ ตัวเราไม่ใช่ของเรา การเมืองบ้านเรา พอเรื่องโควิด-19 เพลาๆลงไป การเมืองกลับมาร้อนรน คนในถูกขับออก คนนอกจะบุกเข้าไป.......................

ย้อนกลับอเมริกา โควิด-19 ยังรุนแรง การเมืองกลับร้อนแรงกว่า เหลือแค่ 5 เดือนกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ ถ้าไม่ได้เงินเยียวยารอบ 2 ทรัมป์ตกกระป๋องแน่นอน อย่าเอาความอดอยากของชาวบ้านมาล้อเล่นองค์การอนามัยโลกยืนยัน การใส่หน้ากากอนามัยป้องกันการแพ่รเชื้อโควิด-19 ได้อย่างดี ยังไม่มีความคืบหน้าเรื่องการเยียวยาหรือ Heroes Act ในรอบใหม่เพราะเรื่องการนำการเมืองนำหน้าความอดอยากของประชาชน......................

พวกเราอยู่บ้านว่างๆไม่ได้ทำอะไร นอกจากดูทีวี และเล่นออนไลน์เป็นกิจกรรมยอดนิยม อยู่บ้านต้านเชื้อจนเด็กเบื่อกันไปตามๆ ร้านค้าต่างๆเปิดกันไปหมดแล้ว แต่ชาวบ้านหลายๆคนยังกล้าๆกลัวๆถ้าไม่เดือดร้อนกักตัวนอนอยู่กับบ้าน ปลายปีนี้จำนวนเด็กเกิดใหม่ระบาดแน่นอน ย้อนกลัมมามองเมืองไทยเขาปลดล็อกกันเกือบหมดแล้ว เพราะคนไทยในประเทศปลอดเชื้อ ขณะที่ชาวอเมริกันก็ปลดล็อก แต่เชื้อโควิด-19 ท่วมเมือง เรื่องนี้ต้องหันมามองดูเงาตัวเอง........................

ไม่มีไข้ไม่มีอาการอักเสบ ในการทดลองฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด-19 ในลิง ซึ่งจะเป็นความหวังว่าประเทศไทยจะสามารถผลิตวัคซีนแก้โควิด-19 สำเร็จ ที่สำคัญคือราคาการผลิตถูกมาก กระจายไปใช้ได้ทั่วโลก ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ราวสามพันกว่า แต่หายไข้ไปแล้วสามพันเหลือติดเชื้อไม่ถึงร้อย เราถูกเหมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับอเมริกาที่มีคนติดเชื้อกว่าสองล้านไม่รู้ว่าเขาใช้ตรรกะอะไรมาตัดสินเยี่ยมจริงๆ แต่มีองค์การระหว่างประเทศในมาเลียเซีย สำรวจว่าในกว่าสองร้อยประเทศใครเก่งในการแก้ปัญหาโควิด-19 ทั้งขนาดและประชากร ปรากฏว่าประเทศไทยได้อันดับ 2 ของโลก รองจากออสเตรเลีย และครองอันดับหนึ่งของเอเซีย...................

ทรัมป์สั่งเปิดเมืองเพราะไม่อยากให้รัฐบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูประชาชน ซึ่งชาวบ้านเองก็ต้องการที่จะต้องพึ่งพาตนเองเช่นกัน แต่เรื่องที่ชาวบ้านเกรงกลัวคือ โควิด-19 ที่ยังคงรุนแรงเพิ่มขึ้น เพราะดูเหมือนว่ารัฐบาลยังไม่ให้ความมั่นใจและหลักประกันในความปลอดภัยที่พวกเราถามหากันทุกวันนี้ ข่าวแรงงานต่างชาติที่ทำงานในสวนลำใยบ้านเรา จับค้างคาวมาทำอาหารกิน สร้างความกังวลให้กับสาธารณสุข ทางแก้ไขคือส่งอาหารให้เขาเอาไปประทังชีวิตให้พอเพียง..........................

กลัวซะที่ไหน ป้าพรรณี อุปฮาต ชักชวนเพื่อนฝูงไปร่วมฉลองวันชาติอเมริกัน 4 กรกฎาคม นี้ ที่บ้านหลังใหม่ในเมืองพิทส์เบริก-เบย์พ๊อยท์ เจ้าภาพยืนยันทั้งมันส์ทั้งแซบแน่นอนงานนี้ แต่ที่เบื่ออากาศหนาวๆและหมอกหนาๆบนเกาะแทชเชอร์ ไอแลนด์ จิตภินันท์ ชวนลูกๆหลานๆย้ายเข้าวิมานหลังใหม่ที่เมืองคอนคอร์ด มูลค่ากว่าครึ่งล้าน ตอนนี้เลยไม่ต้องกลุ้มใจต่อสู้กับกองทัพหนอนที่บุกทำลายต้นไม้ที่ปลูกไว้หลายต้น แถมอยู่ใกล้วัดพุทธธัมมธโร ทำบุญเมื่อไหร่จะแจ้งให้เพื่อนๆทราบ มีข่าวแจ้งจากท่านพระครูศรีชัยวิเทศ เจ้าอาวาสวัดไชยมงคล ว่าเข้าพรรษานี้ คงต้องจำวัดอยู่ที่เมืองไทยเพราะยังบินกลับมาไม่ได้ ขณะที่พี่ๆน้องๆเราอีกหลายคนก็ติดอยู่เมืองไทยเช่นกัน ค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ติดหนี้กันบานตะไทเลยหลายเดือน.......................

ข่าวล่ามาเร็ว ชาวบ้านแจ้งข่าวสาวๆเมืองปทุมฯมีอาชีพใหม่ โลกีย์ปันสุข ขายบริการแค่พันสาม รัฐจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เมื่อประชาชนอดอยาก เข้าไปจับปรับแค่แก้ปัญหาปลายเหตุ แจกอาหารและหางานให้เขาทำน่าจะเข้าท่ากว่า...........................