ท่องไปในซานฟรานฯ
นายรุงรัง



ท่องไปในซานฟรานฯ 25 เมษายน 2563

กองหนุนเสื้อกราวน์ ชัยวัฒน์ –ม่วยนี้ ศิริญาณ แห่งร้านอาหารมณีไทย ร่วมกับเพื่อนๆนำอาหารกล่องและขนมหวานไปบริจาคให้หมอและพยาบาลที่โรงพยาบาล St.Francis นครซานฟรานซิสโก เพื่อเป็นกำลังใจแก่ฮีโร่ของพวกเรา........................

เมืองไทยชาวบ้านได้รับเงินช่วยจากรัฐบาลห้าพันบาท บางคนบอกว่าเป็นเศษเงินหลังตู้เย็น แต่ที่เบย์แอเรียบางคนไลค์สดนับเงินช่วยเหลือจากรัฐนับแบ๊งค์อวดว่าได้ 12 ใบ เป็นเงิน $1,200 แต่มีบางคนบอกว่าได้รับเกินไปเป็น 14 ใบ อีกสองใบที่เกินไปนั้นเป็นรางวัล กำลังใจ!!.....................

การก่อการร้ายในภาคใต้ของไทยหายไปหมดเพราะด่านตรวจ ในสหรัฐก็ปลอดจากผู้ร้ายเพราะคนอยู่แต่ในบ้าน จะมีก็แต่พวกเหยียดผิวที่ออกมาทำร้ายคนเอเซีย.....................

คนงานต่างด้าวในสิงคโปร์ป่วยโควิด-19 นับพันแค่วันเดียว แพร่เชื้อกันยกใหญ่เกือบหมื่น ในอเมริกาคนต่างด้าวไม่ได้รับการเหลียวแลอะไรจะเกิดขึ้น แต่ในเมืองไทยกรมแรงงานเริ่มเข้าไปดูแลแรงงานต่างด้าวเหล่านี้แล้ว.....................

คนอเมริกันป่วยโควิด-19 นับล้าน แต่ชาวบ้านเริ่มประท้วงให้เปิดเมือง ยามนี้ยังเอากันไม่อยู่ นี่ถ้าเปิดเมืองไม่ต้องเดาก็รู้ว่า คนป่วยล้นเมืองแน่นอน............................

โควิด-19 ไม่เลือกหลอกว่าผิวขาว ผิวดำ หรือผิวเหลือง เพราะถ้าติดเข้าไปแล้วโรงพยาบาลไม่รับเข้าไปรักษาตัว เพราะมีผู้ติดเชื้อมากเกินไป ต้องนอนกินยาพาราอยู่บ้านจนกว่าจะหายไปเอง................................

เด็กที่เกิดในเมืองไทย แรกเกิดจะได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันวัณโรค แต่ที่อเมริกาเด็กๆจะไม่ได้รับการฉีดวัคซีนชนิดนี้ ซึ่งวัคซีนดังกล่าว จะสร้างภูมิคุ้มกันโควิด-19 ประเภทหนึ่งด้วย.........................

ในเมืองไทยอาสาสมัครทหาร ตำรวจ และประชาชน ร่วมกันล้างทำความสะอาดบ้านเมือง แต่ไม่เห็นภาพนี้ในอเมริกาเลย..........................

ชาวลาสเวกัสอยากเปิดบ่อนคาสิโน ส่วนอีกหลายเมืองรณรงค์จะเปิดโบว์ลิ่ง โรงภาพยนต์ และสนามก๊อฟ ไปสู่ที่ชอบ ที่ชอบเถอะ!!!.....................

ร้านอาหารหลายแห่งเตรียมตัวเปิดให้บริการ ตลาดสดหลายแห่งในเมืองเดลี่ ซิตี้ แคลิฟอร์เนีย คนงานติดเชื้อเข้าไปหลายสิบ คนยังไม่มีคำสั่งให้ปิดตลาดเลย........................

วัวหายล้อมคอกใครจะรับผิดชอบ อดๆอยากๆยังมีแสงสว่างปลายอุโมงค์ แต่ถ้าไม่อดเปรี้ยวไว้กินหวานมีแต่ไปร่วมงานศพเพื่อนฝูงเท่านั้นเอง.............................

ตอนนี้เด็กๆถูกกักตัวเรียนทางออนไลน์อยู่บ้าน ตั้งหน้าตั้งตาทำการบ้านส่งครูออนไลน์ อนาคตการศึกษาของเด็กทั่วโลก คงต้องเรียนแบบการศึกษาผ่านดาวเทียมของในหลวงรัชกาลที่ 9 แน่นอน คอยดูกัน ทั้งประหยัดเวลาไม่ต้องเดินทางแถมไม่ต้องเสียค่าแป๊ะเจี๊ยอีกต่างหาก.................................

ทรัมพ์ ให้ความเห็นต่อการรักษาผู้ป่วยโควิด-19 ด้วยการฉีดน้ำยาทำความสะอาด ฆ่าเชื้อและใช้รังสีอัลตราไวโอเลตกำจัดเชื้อโควิด-19 ว่าเป็นเรื่องเสียดสีทำเหมือนนักการเมืองฝ่ายค้านเมืองไทย แสดงความคิดเห็นบ้องตื้น..........................

พอมีข่าวจะปลดล๊อกโควิด-19 จนชาวบ้านเข้าใจผิดไปออกันเต็มชายหาดเมืองแปซิฟิคกา เดือดร้อนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไปไล่กลับบ้าน.....................

เมืองไทยประกาศปิดเมืองต่ออีก 1 เดือน สำหรับแคลิฟอร์เนียหกอำเภอใหญ่ในเบย์แอเรียก็ประกาศปิดเมืองต่ออีก 1 เดือนเช่นกัน ชอบใจข่าวชาวดอยขนข้าวไปแลกปลาชาวเลย์ เรายังไม่เห็นภาพแบบนี้ในอเมริกา.........................

หน้ากากอนามัยกำลังเป็นแฟชั่นเครื่องประดับกายอันใหม่ ปุจจุบันนี้ถ้าก้าวออกจากบ้านล้วไม่ได้ใส่หน้ากากออกไปด้วย เหมือนขาดความมั่นใจอะไรอย่างนั้น........................

หลบไปใช้ชีวิตเศรษฐกิจพอเพียงที่ราชบุรี สาวซานฟรานฯ น้อง กีรณา ฉ่ำเวชะ ตอนนี้สนุกสนานกับการทำไร่ปลูกอินทผลัม อย่างพอเพียง...........................

กลับไปใช้ชีวิตอยู่เมืองไทยนาน 20 ปี อดีตศิษย์เก่าซานฟรานซิสโก โอ๋ ไอศูรย์ วาทยานนท์ ส่งความห่วงใยถึงเพื่อนๆให้ดูแลรักษาตัวให้ปลอดภัย พร้อมฝากเพลง สายใย มาให้กับทุกคน..........................

เมืองไทยค่อยๆเริ่มเปิดเมืองเช่นเดียวกับหลายรัฐในอเมริกา แต่ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่แตกต่างกัน หนึ่งล้านต่อสามพัน ผลที่ตามมาน่าจะเลวร้ายกว่ากันแน่นอน..........................