ท่องไปในซานฟรานฯ
นายรุงรัง



ท่องไปในซานฟรานฯ 14 พฤศจิกายน 2563

ประเทศไทยเรานั้นมีประวัติศาสตร์ยาวนานติดต่อกันมากว่า 800 ปี ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นประเทศราชของใคร เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถปกป้องประเทศชาติและอาณาประชาราชอย่างเข้มแข็งและเสียสละ ตั้งแต่ราชวงศ์สุโขทัย อยุธยา กรุงธนบุรี และกรุงรัตนโกสินทร์ บรรพบุรุษของเราต้องสละเลือดเนื้อและชีวิตเพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน ไม่เว้นแม้แต่รัชกาลที่ 9 และรัชกาลที่ 10 โดยในรัชกาลที่ 10 นั้น ตั้งแต่ดำรงพระอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช โดยหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 มีผู้คนหนีออกไปส้องสุมรวมหัวกับพลพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ทำการสู้รบต่อต้านกับรัฐบาลไทย โดยมีการรบพุ่งกันในหลายจังหวัดตั้งแต่เพชรบูรณ์ สกลนคร นครพนม และเลย โดยครั้งหนึ่งกองทัพไทยสูญเสียเฮลิคอปเตอร์ที่ถูกยิงตกที่จังหวัดเลย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงโปรดให้ ร.อ. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเสด็จออกไปสังเกตุการณ์ ดูแลความสงบของประชาชนและให้กำลังใจทหารตำรวจที่จังหวัดเลย ซึ่งขณะนั้นเกิดเหตุการณ์ตึงเครียด เกิดการปะทะกันของกลุ่มผู้ก่อการร้ายและเจ้าหน้าที่ ร้อยเอกสมเด็จพระบรมฯได้เสด็จโดยเฮลิคอปเตอร์เข้าไปในเขตยุทธภูมิที่มีการสู้รบ แม้จะมีการทัดทานจากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ แต่พระองค์ได้กระโดดออกจากเฮลิคอปเตอร์ที่มีความสูงกว่า 10 เมตร เข้าไปร่วมต่อสู้และสั่งการเข้าโจมตีท่ามกลางห่ากระสุน จนผู้ก่อการร้ายล่าถอยออกไป จนเมื่อเหตุการณ์สงบลง พระองค์ก็ยังคงสั่งการเตรียมการในการป้องกันตลอดทั้งคืน โดยทรงประทับพักแรมและเสวยพระกระยาหารเช่นเดียวเหล่าทหารๆ และยังเสด็จกลับมาเยี่ยมเยือนประชาชนอีกครั้งในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2519 เพื่อดูแลซ่อมแซมบ้านเรือนให้ประชาชนด้วยความเป็นห่วงเป็นใย ในฐานะจอมทัพไทยที่ทรงปฏิบัติภารกิจโดยไม่เกรงกลัวต่ออริราชศัตรู.........................

เศรษฐกิจโลกกำลังบอบช้ำอย่างหนัก ร้านค้าดังๆของญี่ปุ่นในประเทศไทยปิดตัวลงไปมากมาย ในขณะที่พายุใต้ฝุ่นโคนี่ บุกเข้าถล่มฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ก่อนจะตามเข้าประชิดเวียตนาม เขมร ลาว ไทย มีทั้งลมพายุและน้ำท่วมหนัก ตอกย้ำความทุกข์ยากของประชาชนในหลายประเทศ ความรุนแรงจากน้ำมือมนุษย์ด้วยกันเองก็มีไม่น้อย เมื่อกลุ่มผู้ก่อการร้ายตาลีบัน บุกเข้าโจมตีผู้มาร่วมงานแสดงหนังสือที่กรุงคาบูของแอฟริกานิยสถาน ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 22 ราย และผู้เสียชีวิต 22 รายเช่นกัน ในกรุงเวียนนาของออสเตรียถูกผู้ก่อการร้ายบุกโจมตีในโบสถ์ชาวยิวพร้อมกัน 6 จุด ขณะที่ยอดผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วโลก เข้าใกล้ 50 ล้านราย โดยที่สหรัฐติดเชื้อกว่า 10 ล้านราย และอินเดียก็ตามมาติดๆ แม้แต่ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก นายยกอังกฤษโบลิส จอนห์สัน เจ้าฟ้าชายชาญและเจ้าชายวิลเลี่ยม ก็ติดเชื้อโควิด-19 หรือแม้แต่รัฐมนตรีต่างประเทศฮังการี่ที่มาเยือนไทยก็ติดเชื้อก็ถูกส่งกลับประเทศไปทันที ภัยจากแผ่นดินไหวในจีน 7 ครั้งใน 5 วัน ผลผลิตของข้าวปีนี้ในจีนลดลง 30% ทำให้ราคาข้าวเปลือกของโลกเพิ่มขึ้น จนมีความขาดแคลน จนต้องสั่งข้าวโพดมาจากพม่า ชาวจีนมากมายประกาศฟ้องร้องรัฐบาลท้องถิ่นที่ปกปิดการระบาดของโควิด-19.......................

ในเมืองไทยมีรายงานว่าแกนนำม๊อบขอลี้ภัยเข้าสหรัฐ โดยมีผลโพลเปิดเผยออกมาว่า 88.37% มีต่างชาติหนุนหลังม็อบแซกแซงการเมืองไทย กลายเป็นข่าวก้องโลกในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ โดยมีรายงานข่าวว่าระหว่างการเลือกตั้งมีการใช้โลบัคคอล์เข้ามาป่วนชาวอเมริกันกว่า 10 ล้านคน ไม่ให้คนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง โดยบอกให้อยู่แต่ในบ้านจะปลอดภัยโดยทั้งหมดนั้นส่งมาจากนอกประเทศ โดยผลการเลือกตั้งโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะไปอย่างสู๋สี คาดว่าในช่วงการเลือกตั้ง จะมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าวันละแสน ขณะที่อังกฤษมีการสั่งเคอร์ฟิวล็อกดาวน์หลายเมืองปิดบาร์และร้านอาหาร โดยไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เปิดกันอีกหรือไม่ ในเดนมาร์กมีการสั่งฆ่าตัวมิ้งค์ที่นำมาเย็บเสื้อขนสัตว์หลายสิบล้านตัว เนื่องจากมีรายงานว่าตัวมิ้งค์ติดเชื้อโควิด-19 เรือสำราญของดิสนี่ย์ประกาศเลื่อนการเดินเรือในปีหน้า แม้แต่อเมริกันแอร์ไลน์ก็ยกเลิกเที่ยวบินในช่วงฮอลิเดย์ โรงภาพยนต์ AMC ก็ประกาศปิดตัว อเมริกันแอร์ไลน์ประกาศขาดทุน 25 พันล้านดอลล่าในปีนี้ แต่ที่ปิดไปแล้ว เจซีเพนนี David’s Bridal Retread Ann Taylor Game Stop Sears GNC Pier 1 Import Victoria Secret………………..

แม้แต่ธนาคารเองก็เสี่ยงล้มละลายเพราะหลักประกันเงินกู้ด้อยค่าลง เงินสดก็หมดไป หุ้นขึ้นทองขึ้นหลังโจ ไบเดน ได้รับชัยชนะ กระทรวงแรงงานไทยร่วมกับเอกชนประกาศจ้างงานนิสิตจบใหม่ 84,000 คน แต่มีรายงานข่าวว่าบางบริษัทไม่รับนักศึกษาที่มีพฤติกรรมจาบจ้วงสถาบันเข้าทำงานหรือฝึกงาน อดีตนักการทูตสิงคโปร์เสนอให้ขับลาวและเขมรออกจากกลุ่มประเทศอาเซี่ยน เพราะใกล้ชิดกับจีนมากไป เยอรมันสั่งซื้อเครื่องบินรบยูโรไฟร์เตอร์รุ่น 3 จำนวน 38 ลำ เป็นเงินหลายพันล้านดอลล่าเข้าประจำการในกองทัพแทนรุ่นเก่า เขาเรียกว่าอัฐยายซื้อขนมยาย เพราะผลิตได้เองในประเทศ จีนเริ่มขัดแย้งกันเอง นายกจีน เหลื่อเคอเฉียง เริ่มออกมาปราศรัยขัดแย้งกับประธานสีจิ้งผิง พร้อมย้ำให้ประชาชนเริ่มประหยัดและพึ่งพาเศรษฐกิจในประเทศ ขณะที่ข้าราชการประจำออกกฎหมายต่างๆมาบังคับนักธุรกิจ อย่างกรณี แจ๊ก หม่า เจ้าพ่ออลีบาบา ต้องการขายหุ้นของตนเองแต่เจ้าหน้าที่รัฐไม่ยอม บอกว่าผิดกฎหมาย.......................

ขณะที่เฮอลิเคน ETA เข้าถล่มชายฝั่งตอนใต้ของฟอริด้า ลูกแล้วลูกเล่าไม่ได้พักไม่ได้ผ่อน การเมืองในสหรัฐหลายฝ่ายเริ่มแผลงฤทธ์เมื่อรู้ข่าว โจ ไบเดน ได้รับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ อย่างรัสเซียที่ร้อนๆหนาวเพราะไม่เคยโดนโจมตีในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ขณะที่จีนตั้งข้อสังเกตุว่าไบเดนจะมาใม้ไหน แต่อีหร่านพอใจมากที่ทรัมป์พ่ายแพ้ ส่วนผลประโยชน์ของคนภายในประเทศ ทั้งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำการกำหนดลดอายุของผู้รับสวัสดิการเหลือ 60 ปี การรื้อฟื้นสนธิสัญญาต่างๆที่เคยถูกยกเลิกไป ทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อม การร่วมมือทางการทหารระหว่างประเทศนาโต การขึ้นภาษีเงินรายได้ของประชาชนที่มีรายได้สูง การยกเลิกสงครามการค้ากับจีน.......................

ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้ง มีกระแสข่าวว่า ฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของ โจ ไบเดน เข้าไปเป็นที่ปรึกษาหลายบริษัทในจีนมีรายได้หลายล้านดอลล่า ส่วนโจ ไบเดน เองก็มีสายสัมพันธ์และมีการโจมตีจากทรัมป์ว่าเข้าไปหาผลประโยชน์ในยูเครน แต่เรื่องก็เงียบหายไป หลังเสร็จการเลือกตั้ง เราทุกคนต้องตั้งสติให้ดีเพราะไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ในวัย 78 ปี โจ ไบเดน จะประคองตัวไปได้นานเท่าใด ใครจะรู้ว่ารองประธานาธิบดีคาเมรา ฮาลีส จะได้รีบตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 37 หรือไม่ ลูกครึ่งอินเดียผู้แข็งแกร่ง......................

และแล้วทรัมป์ก็เสียท่าแนนซี่ที่ไม่ยอมปล่อยเงินช่วยเหลือประชาชน 2.2 ล้านล้าน แต่อนุมัติให้เพียง 1.9 ล้านล้าน อีกแค่นิดเดียวทำให้คนส่วนใหญ่เดือดแค้น ในฐานะผู้นำประเทศ เป็นหน้าที่ของเขาที่จะออกมาช่วยเหลือประชาชนเส้นผมบังภูเขา ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา ไม่เห็นความเดือดร้อนของประชาชนที่สำคัญอีกเรื่องหนึ่ง สงครามการค้าโลก โจ ไบเดน ประกาศที่จะเลีกบอยคอร์ดจีนยกเลิกภาษีใช้การเจรจาแก้ปัญหา โจ ไบเดน ประกาศออกมาช่วยเหลือคนอเมริกันที่มีความเดิอดร้อนและเรากำลังรอข่าวดี........................