ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



5 พฤติกรรมที่ควรเลิกทำ ถ้าไม่อยากดูแก่ก่อนวัย

เมื่ออายุมากขึ้น ริ้วรอยแห่งวัยย่อมถามหา อีกทั้งระบบการทำงานในร่างกายก็เสื่อมถอยตามกาลเวลา

รู้หรือไม่ว่า นอกจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น ยังมีอีกหลายสาเหตุที่ทำให้คนเราดูแก่เกินวัย ไม่ว่าจะเป็นไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิต การทานอาหารที่ขาดวิตามิน คอลลาเจน และอื่นๆ ซึ่งหากไม่อยากดูแก่กว่าอายุ แนะนำให้เลี่ยง 5 พฤติกรรมที่จะทำให้แก่กว่าวัย จิตใจไม่แจ่มใส แถมยังทำให้สุขภาพไม่ดีอีกด้วย

1. เผชิญแสงแดด มลภาวะ

ตัวการสำคัญทำให้ดูแก่กว่าวัย คือ แสงแดดและมลภาวะ เพราะแสงแดดประกอบด้วยรังสียูวีและรังสีอัลตราไวโอเลต ตัวการทำร้ายผิว ทำให้ผิวแห้ง คล้ำเสีย จนเกิดเป็นริ้วรอย จุดด่างดำ ผิวพรรณดูไม่สดใส เช่นเดียวกับฝุ่นละอองในอากาศ ตัวการทำให้ผิวสกปรก ยิ่งหากล้างหน้าไม่สะอาดยิ่งมีโอกาสทำให้เกิดสิว ผิวหมองคล้ำ วิธีป้องกันเบื้องต้นคือควรทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านและก่อนเข้านอนควรล้างหน้าให้สะอาด

2. เครียดมาก พักผ่อนน้อย

ความเครียดสะสมคือสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนเราดูแก่กว่าวัย เพราะเมื่อคนเราเครียด ร่างกายจะหลั่งสารอนุมูลอิสระออกมาปริมาณมาก ซึ่งอนุมูลอิสระคือตัวการทำร้ายเซลล์ต่างๆ ในร่างกาย สาเหตุการเกิดริ้วรอย และยังส่งผลกระทบต่อกลไกการทำงานของระบบในร่างกาย ความเครียดยังส่งผลให้นอนไม่หลับ เมื่อนอนหลับไม่เต็มที่ กระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิวในร่างกายจึงไม่มีประสิทธิภาพ จึงทำให้ดูแก่กว่าวัยนั่นเอง

3. บุหรี่และแอลกอฮอล์

การสูบบุหรี่ติดต่อกันนานๆ รวมถึงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำคืออีกหนึ่งสาเหตุสำคัญทำให้ดูแก่ นั่นเพราะบุหรี่และแอลกอฮอล์คือตัวการเพิ่มอนุมูลอิสระ ผิวพรรณจึงเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร

4. ทานอาหารที่มีคอลลาเจนน้อย

สารอาหารที่ดีมีส่วนอย่างยิ่งในการทำให้ร่างกายและผิวพรรณสดใส ดูอ่อนกว่าวัย โดยเฉพาะวิตามินและคอลลาเจน โดยเฉพาะคอลลาเจนที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่น ชุ่มชื้น แถมยังช่วยให้ริ้วรอยจางลง สำหรับวิตามินยังแบ่งออกเป็น วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี ฯลฯ ซึ่งวิตามินแต่ละประเภทมาพร้อมคุณสมบัติเด่นแตกต่างกัน แต่ล้วนแล้วมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น

5. ไม่ออกกำลังกาย

“วงการออกกำลังกายเข้าแล้วออกง่าย” เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยได้ยินประโยคนี้ แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากการออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรงแล้วยังทำให้ดูอ่อนเยาว์ เพราะระหว่างออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ร่างกายและจิตใจจึงสดชื่นแจ่มใสดูอ่อนกว่าวัย แถมระบบต่างๆ ในร่างกายยังทำงานอย่างสอดคล้องและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากไลฟ์สไตล์การดำเนินชีวิตที่ส่งผลให้แก่เกินวัยแล้ว จะเห็นว่าการทานอาหารก็มีส่วนเช่นกัน เพราะวิตามิน แร่ธาตุ คอลลาเจน มีส่วนอย่างยิ่งที่ช่วยให้ระบบต่างๆ ในร่างกายทำงานมีประสิทธิภาพ อีกทั้งสารอาหารเหล่านี้ เมื่อร่างกายดูดซึมไปใช้งานยังส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใส สุขภาพดี ดูอ่อนกว่าวัย เพราะฉะนั้นถ้าอยากเป็นเจ้าของร่างกายแข็งแรง สวยหล่อสมวัย แนะนำให้เลิก 5 พฤติกรรมเหล่านี้ เชื่อว่าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของสุขภาพดีได้ไม่ยาก


นาซานับถอยหลังปล่อยจรวดภารกิจ Artemis1 ไปดวงจันทร์ หลังเลื่อนมาตั้งแต่ ส.ค.

องค์การนาซาเริ่มนับถอยหลังถอยหลังภารกิจทดสอบปล่อยจรวด SLS บรรทุกยานโอไรออน ไปดวงจันทร์ หากประสบความสำเร็จจะเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี ที่สหรัฐฯ ส่งจรวดไปสำรวจดวงจันทร์ เมื่อวันที่ 16 พ.ย. องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐฯ หรือนาซา เริ่มนับถอยหลังภารกิจทดสอบปล่อยจรวด "ระบบขนส่งอวกาศ" หรือเอสแอลเอส (Space Launch System -SLS) บรรทุกยานอวกาศโอไรออน (Orion) ในโครงการ "อาร์ทีมิส 1" (Artemis1) ที่จะส่งแคปซูลไปวนรอบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ของโครงการอาร์ทีมิส 1 ได้ทำการเติมเชื้อเพลิงแช่แข็ง (cryogenic fuel) ให้กับจรวดที่มีความยาว 98 เมตร เป็นที่เรียบร้อย โดยจรวด SLS มูลค่า 4,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 146,000 ล้านบาท จะถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดที่ศูนย์อวกาศเคนเนดี้ แหลมคานาเวอรัล ในรัฐฟลอริดา ในเวลา 01.04 น.เช้ามืดของวันที่ 16 พ.ย. ตามเวลาท้องถิ่น หรือตรงกับ 13.04 น. ของวันนี้ตามเวลาในไทย โดยจรวดจะโคจรรอบดวงจันทร์ 26 วันก่อนที่แคปซูลจะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกและตกในมหาสมุทรแปซิฟิก

นับเป็นความพยายามครั้งที่ 3 ในรอบหลายเดือน โดยภารกิจนี้ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อผู้เชี่ยวชาญได้ประเมินความเสียหายจากสภาพอากาศหลังจากเฮอริเคนนิโคล ทำให้มีกระแสลมแรง เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ทำให้บางชิ้นส่วนด้านบนของจรวดหลุดออก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สำหรับครั้งนี้ โอกาสดีในการปล่อยจรวดจะมีเพียง 2 ชั่วโมงนับตั้งแต่ 01.04 น. โดยนาซาจะมีการถ่ายทอดสดออนไลน์ภารกิจปล่อยจรวดในครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้ เดิมทีโครงการอาร์ทีมิส 1 มีกำหนดเริ่มการปล่อยจรวดเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่การเกิดปัญหาที่ระบบเชื้อเพลิงทำให้โครงการต้องล่าช้าออกไปอีก 1 เดือน จากนั้นสหรัฐฯก็เจอพายุเฮอริเคนเอียนพัดถล่ม ทำให้ภารกิจต้องเลื่อนออกไปอีกโดยในวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมาทางนาซาได้ขนส่งจรวดออกจากแท่นปล่อย 39 บี ของศูนย์อวกาศเคนเนดี้ มาพักรอที่อาคารซ่อมบำรุงยานอวกาศ ก่อนที่จะเจอพายุนิโคลพัดถล่มอีกลูก

หากประสบความสำเร็จในการปล่อยจรวดครั้งนี้จะนับเป็นครั้งแรกสำหรับนาซาที่รื้อฟื้นโครงการสำรวจดวงจันทร์ และจะมีการส่งนักบินอวกาศขึ้นจรวดไปวนรอบดวงจันทร์ในโครงการอาร์ทีมิส 2 ในปี 2567 และจะส่งนักบินอวกาศไปลงบริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ ในโครงการอาร์ทีมิส 3 ที่จะมีขึ้นในปี 2568-2569.


ระวัง 5 ปัจจัยเสี่ยง ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดได้!!

แม้ว่าในปัจจุบันจะมีวิธีการตรวจวินิจฉัยโรคมะเร็งได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ แต่โรคมะเร็งปอดก็ยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตเป็นอันดับต้นๆ

อาการของโรคมะเร็งปอด

อาการของมะเร็งปอด ส่วนมากในระยะเริ่มต้นมักจะไม่มีอาการ ต่อมาเมื่อโรคลุกลามอาจเริ่มจากอาการไอ เจ็บหน้าอก หอบเหนื่อย ดังนั้นบุคคลที่มีความเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจสุขภาพปอดเป็นประจำ โดยเฉพาะผู้ที่สูบบุหรี่ ซึ่ง “บุหรี่” นับเป็นปัจจัยหลักของการเกิดโรคมะเร็งปอดและโรคถุงลมโป่งพอง

ไม่สูบบุหรี่ก็เป็นมะเร็งปอดได้

อย่างไรก็ตาม แม้การสูบบุหรี่จะเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งปอด แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในขณะนี้ แม้ยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัดว่าทำไม! ผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่จึงเป็นมะเร็งปอดได้ แต่ก็มีการศึกษาและงานวิจัยหลายฉบับที่พบสาเหตุอื่นๆ ว่าอาจทำให้เกิดความเสี่ยงมะเร็งปอดได้ โดยเฉพาะการได้รับสารและเคมีต่างๆ เช่น

1. สารเรดอน เป็นสารกัมมันตรังสีที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนแห่ง ไม่มีรส ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยประสาทสัมผัสใดๆ ของมนุษย์ สารนี้นับเป็นสารที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอดในมนุษย์เป็นอันดับที่สอง รองจากสารต่างๆ ในบุหรี่

2. แร่ใยหิน หรือ แอสเบสตอส เป็นสารก่อมะเร็งที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งโทษและพิษภัยของแร่ใยหินนั้นก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ไต และโรคมะเร็งที่มีชื่อว่า Mesothelioma สารนี้พบได้ในกระเบื้องมุงหลังคาแบบลูกฟูก ท่อระบายน้ำ กระเบื้องปูพื้น ฝ้าเพดาน ฝาผนัง ฉนวนกันความร้อน ท่อน้ำร้อน หม้อไอน้ำ และพลาสติกขึ้นรูปต่างๆ

3. สารเคมีหนัก

4. การสูดดมควันบุหรี่จากคนใกล้ตัว (Second Hand Smoker)

5. พันธุกรรมที่ผิดปกติ

ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ศัลยแพทย์ทรวงอกเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้องมะเร็งปอด โรงพยาบาลพญาไท 1 กล่าวว่า...“มีรายงานการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งปอดในทวีปเอเชียนั้น 30-40% เป็นผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่มาก่อน โดยมากกว่า 50% ของเพศหญิงนั้นไม่เคยสูบบุหรี่ ซึ่งแตกต่างจากประเทศในฝั่งทวีปยุโรป ซึ่งมีเพียงแค่ 10-20% เท่านั้นที่ไม่เคยสูบบุหรี่ แต่กลับป่วยเป็นมะเร็งปอด”

พบผู้หญิงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้น

สำหรับมะเร็งปอดไม่ได้พบมากแต่ในผู้ชายเท่านั้น เห็นได้จากสถิติในปี 2018 จากการสำรวจของ World Cancer Research Fund International ทั่วโลก พบว่า... มีผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดรายใหม่เพิ่มถึง 2 ล้านคน และยังพบผู้หญิงป่วยเป็นโรคมะเร็งปอดมากติดอันดับ 1 ใน 3 ของโรคมะเร็งทั้งหมด

ชนิดของมะเร็งปอดในผู้ที่สูบบุหรี่กับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่

ลักษณะของผู้ป่วยที่สูบบุหรี่กับไม่สูบบุหรี่นั้น ผู้ป่วยที่ไม่สูบบุหรี่ส่วนมากมักจะพบมะเร็งชนิดที่เรียกว่า Adenocarcinoma ส่วนผู้ป่วยที่สูบบุหรี่มักจะพบเป็น Squamous Cell Carcinoma ซึ่งมักจะพบในหลอดลมขนาดกลาง โดยมักอยู่ตรงกลางกลีบปอด มะเร็งประเภทนี้เกิดจากการกระตุ้นการอักเสบ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่อาจส่งเสริมให้เป็นมะเร็ง แต่มะเร็งประเภท Adenocarcinoma มักจะอยู่ริมปอด นอกจากนี้ยังพบว่า “ผู้ป่วยมะเร็ง ปอดที่ไม่เคยสูบบุหรี่มักจะพบความผิดปกติของยีนร่วมด้วย” ได้แก่ EGFR (epidermal growth factor), anaplastic lymphoma kinase (ALK), ROS1 และ MET

ผศ.นพ.ศิระ กล่าวว่า “การรักษามะเร็งปอดของผู้ป่วยสูบบุหรี่ และไม่สูบบุหรี่ค่อนข้างคล้ายกัน ได้แก่ การผ่าตัด การให้ยาเคมีบำบัด และการฉายแสง สำหรับการผ่าตัดนั้นมีบทบาทหลักในกลุ่มที่เป็นมะเร็งปอดระยะเริ่มต้น คือระยะที่ 1 และ 2 โดยปัจจุบันการผ่าตัดปอดไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอีกต่อไป เราสามารถผ่าตัดผ่านทางการส่องกล้องโดยเทคนิคที่เรียกว่า “Vats” ซึ่งการผ่าตัดจะมีแผลขนาดเล็ก 3-4 ซม. เพียงช่องเดียว ส่งผลทำให้ผู้ป่วยเจ็บน้อย ฟื้นตัวเร็ว และสามารถกลับมาดำรงชีวิตปกติได้อย่างรวดเร็ว ส่วนการรักษาผู้ป่วยมะเร็งปอดระยะที่ 3 และ 4 การให้ยาเคมีบำบัด ยาพุ่งเป้า ที่เรียกว่า Target therapy และการฉายแสง จะเข้ามามีบทบาทเป็นหลัก”

ถึงแม้ว่ามะเร็งปอดสามารถเกิดได้กับทุกคน แต่การป้องกันก็ดีกว่าการรักษา ฉะนั้นผู้ที่จะสูบบุหรี่หรืออยู่ใกล้ชิดและต้องรับควันบุหรี่ ขอให้ตระหนักถึงภัยอันตราย ทั้งยังควรหลีกเลี่ยงสารเคมี หรือความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดมะเร็งปอด ทั้งยังควรออกกำลังกาย และกินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ และที่สำคัญคือไม่ควรมองข้ามการตรวจเช็กสุขภาพเป็นประจำ ตรวจพบเร็วก็จะยิ่งมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ ทั้งหมดนี้เพื่อลดโอกาสการเกิดโรคมะเร็งต่างๆ ได้ด้วย

บทความโดย : ผศ.นพ.ศิระ เลาหทัย ศัลยแพทย์ทรวงอกเชี่ยวชาญด้านผ่าตัดส่องกล้องมะเร็งปอด โรงพยาบาลพญาไท 1


เผยหลุมดำที่ซ่อนเมื่อดวงดาวสิ้นอายุขัย

หลุมดำมวลยวดยิ่งมักถูกพบที่ใจกลางดาราจักรหรือกาแล็กซีขนาดใหญ่ทั้งหมด ที่กาแล็กซีทางช้างเผือกของเราก็มีเช่นกัน นักดาราศาสตร์คาดว่าหลุมดำประเภทนี้มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์หลายล้านหรือพันล้านเท่า และเติบโตมาจากหลุมดำมวลปานกลาง ที่มีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์หลายพันถึงหลายแสนเท่า

ทฤษฎีหนึ่งเกี่ยวกับการก่อรูปของหลุมดำมวลยวดยิ่งคือ เอกภพหรือจักรวาลในยุคต้น เต็มไปด้วยกาแล็กซีแคระที่มีหลุมดำมวลปานกลาง เมื่อเวลาผ่านไปกาแล็กซีแคระเหล่านี้จะควบรวมหรือถูกกาแล็กซีมวลมากกว่ากลืนกินไป แต่ละครั้งที่แกนของกาแล็กซีควบรวมกัน ก็จะสร้างมวลขึ้นที่ใจกลางกาแล็กซีซึ่งก็จะมีขนาดใหญ่โตขึ้น และในที่สุดกระบวนการควบรวมก็จะสร้างหลุมดำมวลยวดยิ่งด้วย

ทีมวิจัยนำโดยนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตาครูส ในสหรัฐอเมริกา เผยว่า หากเข้าใจจำนวนประชากรหลุมดำมวลปานกลางที่มีอยู่ ว่ามีกี่แห่ง ตั้งอยู่ที่ไหน ก็จะช่วยตัดสินได้ว่าทฤษฎีการก่อรูปหลุมดำมวลยวดยิ่งนั้นถูกต้องหรือไม่ แต่สิ่งที่ยังเป็นปริศนาก็คือกาแล็กซีแคระทั้งหมดมีหลุมดำขนาดกลางหรือเปล่า เพราะการตรวจหาหลุมดำมวลชนิดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ล่าสุด ทีมเผยว่าจากการใช้ข้อมูลของหอดูดาวภาคพื้นดินจากทั่วโลกและกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ทำให้ค้นพบหลุมดำมวลปานกลางที่ซ่อนอยู่ในกาแล็กซีแคระชื่อ SDSS J152120.07+140410.5 อยู่ห่างเราออกไป 850 ล้านปีแสง หลุมดำนี้เผยตัวตนออกมาขณะที่มันกินดาวฤกษ์ที่เข้ามาใกล้เกินไป หายนะของดาวฤกษ์ดวงนั้นก่อเกิดแสงจ้าของรังสีในช่วงเวลาสั้นๆ ทว่ากลับสว่างกว่าแสงของดาวฤกษ์ทั้งหมดในกาแล็กซีแคระเสียอีก.

Credit : NASA, ESA, Ryan Foley/UC Santa Cruz


เผยภาพสะพานดวงดาวส่องสว่างเชื่อม 2 กาแล็กซี

กล้องสำรวจขั้นสูง (Advanced Camera for Surveys-ACS) ที่ติดตั้งบนกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล เครื่องมือขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา และองค์การอวกาศยุโรป ได้ส่งการบ้านที่ชวนตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง หลังสำรวจกลุ่มดาราจักรหรือกาแล็กซีลักษณะประหลาด ซึ่งการค้นหาสิ่งที่น่าสนใจเหล่านี้ก็เพื่อมอบให้กับสำหรับการสังเกตการณ์ในอนาคตด้วยกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ต่อไป

ภาพล่าสุดก็คือกาแล็กซี 2 แห่งในกลุ่มกาแล็กซีแฝดสามที่ชื่อ Arp 248 หรือเรียกว่า “Wild's Triplet” อยู่ห่างจากโลกประมาณ 200 ล้านปีแสง ตั้งอยู่ในกลุ่มดาวหญิงสาว มีลักษณะเป็นกาแล็กซีชนิดก้นหอยหรือทรงกังหันขนาดใหญ่ 2 แห่งแลคล้ายว่ากำลังถูกเชื่อมต่อกันด้วยสะพานเรืองแสง อันเป็นกระแสธารอันยาวยืดของดวงดาวและฝุ่นระหว่างดวงดาว เกิดขึ้นจากแรงดึงดูดซึ่งกันและกันของกาแล็กซีทั้ง 2 แห่งนั่นเอง

นอกจากนี้ ในภาพดังกล่าวยังปรากฏภาพของกาแล็กซีชนิดก้นหอยที่มีขนาดเล็กกว่าและไม่เกี่ยวข้องอะไรกันกับกลุ่มกาแล็กซี Arp 248 โดยขนาบอยู่ด้านข้างให้เห็นอย่างชัดเจน.

Credit : ESA/Hubble & NASA,