ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 16 เมษายน 2565

WHO จับตาโอมิครอนน้องใหม่มาแรง BA.4-BA.5 แม้ยังพบคนติดเชื้อไม่กี่สิบ

องค์การอนามัยโลกกำลังจับตาโอมิครอนน้องใหม่ BA.4 และ BA.5 พบมีการกลายพันธุ์เพิ่มเติมบางตำแหน่ง ถึงแม้ขณะนี้ยังพบผู้ติดเชื้อเพียงไม่กี่สิบราย

เมื่อ 12 เม.ย. 65 องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกแถลงการณ์กำลังเฝ้าติดตามเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน สายพันธุ์ย่อยน้องใหม่ 2 สายพันธุ์ คือ BA.4 และ BA.5 ว่าจะทำให้เกิดการติดเชื้อหรือเป็นอันตรายมากขึ้นกว่า โอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.1 และ BA.2 หรือไม่ ในขณะที่โอมิครอน BA.2 กำลังเป็นเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดทั่วโลก

องค์การอนามัยโลกแถลงว่า องค์การอนามัยโลกได้เริ่มติดตามโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 และ BA.5 ซึ่งเป็น 'น้อง' ของ BA.1 และ BA.2 เพราะว่ามันมีการกลายพันธุ์เพิ่มเติม ซึ่งทำให้จำเป็นต้องการศึกษาต่อไปเพื่อทำความใจว่าจะสามารถหลบหลีกภูมิคุ้มกันร่างกายจากการฉีดวัคซีนได้ดีขึ้นหรือไม่ โดยตามรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า พบคนติดเชื้อโอมิครอน BA.4 และ BA.5 ที่รายงานต่อฐานข้อมูล GISAID ไม่กี่สิบราย

ด้านสำนักงานความมั่นคงด้านสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักร เสนอรายงาน เมื่อสัปดาห์ก่อนว่า พบคนติดโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4 ในแอฟริกาใต้ เดนมาร์ก บอตสวานา สกอตแลนด์ และอังกฤษ ระหว่างวันที่ 10 มกราคม-30 มีนาคม

ขณะที่สัปดาห์ที่แล้ว มีรายงาน พบคนติดโอมิครอน BA.5 ทั้งหมดอยู่ในแอฟริกาใต้ ทว่าต่อมา กระทรวงสาธารณสุขของบอตสวานา รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโอมิครอน BA.4 และ BA.5 จำนวน 4 ราย โดยทั้งหมดอายุระหว่าง 30-50 ปี ได้รับการฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว และมีอาการป่วยเล็กน้อย.

ที่มา : Channelnews Asia


พบ 2 ดาวเคราะห์นอกระบบ มีมวลเท่าดาวเสาร์

ทีมนักดาราศาสตร์นานาชาตินำโดยนักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์กในเยอรมนี ประกาศการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบ 2 ดวงเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งเป็นผลงานจากโครงการสำรวจของ CARMENES ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์ขนาด 3.5 เมตรของหอดูดาวคาลาร์ อัลโต ในเมืองอัลเมเรีย ในสเปน

ดาวเคราะห์นอกระบบทั้ง 2 ดวงนี้ได้รับการตั้งชื่อว่า TYC 2187-512-1 b และ TZ Ari b กำลังโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ของตนเองที่เป็นดาวแคระประเภท M ซึ่งดาว เคราะห์นอกระบบ TYC 2187-512-1 b และ TZ Ari b นั้นถูกระบุว่ามีมวลเท่ากับดาวเสาร์ โดยดาวเคราะห์ TYC 2187-512-1 b โคจรรอบดาวฤกษ์แม่ของตนชื่อ TYC 2187-512-1 ทุกๆ 692 วัน ระบบดาวแห่งนี้อยู่ห่างโลกประมาณ 50.46 ปีแสง ส่วนมวลของดาวฤกษ์แม่วัดได้ประมาณครึ่งหนึ่งของดวงอาทิตย์ของเรา ขณะที่ดาวเคราะห์ TZ Ari b มีคาบการโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ของตนที่ชื่อ TZ Ari ทุกๆ 771 วัน โดยดาวฤกษ์แม่ดวงนี้มีมวลน้อยกว่าและขนาดเล็กกว่าดวงอาทิตย์ 6 เท่า ระบบดาวแห่งนี้อยู่ห่างจากโลกประมาณ 14.57 ปีแสง

ทีมนักดาราศาสตร์เผยว่า TZ Ari b จัดเป็นดาวเคราะห์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมตั้งข้อสังเกตว่านี่เป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 2 ที่ได้รับการยืนยันว่าโคจรรอบดาวฤกษ์ที่มีมวลต่ำกว่ามวลของดวงอาทิตย์ 0.3 เท่า.

(Credit : NASA Ames)


ทำความรู้จัก ‘โรคไบโพลาร์’ หรือ ‘โรคอารมณ์สองขั้ว’ รู้ไว รักษาหาย

เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ ‘โรคไบโพลาร์’ (Bipolar Disorder) หรือ ‘โรคอารมณ์สองขั้ว’ กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ร่วมมือกับ ราชวิทยาลัยจิตแพทย์แห่งประเทศไทย สมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยการสนับสนุนจาก ซาโนฟี่ ประเทศไทย

โรคไบโพลาร์เป็นความผิดปกติทางอารมณ์ชนิดหนึ่งที่มีการขึ้นและลงของอารมณ์อย่างรุนแรง โดยสาเหตุสำคัญเกิดจากสารเคมีในสมองทำงานผิดปกติ หรืออาจเกิดในผู้ที่มีความเครียดสะสม หรืออดนอนบ่อยๆ ร่วมด้วย

การแสดงออกทางอาการแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มอาการแมเนีย (Mania) คือ อารมณ์ดี คึกคัก สนุกสนาน และกลุ่มอาการซึมเศร้า (Depress) จึงเรียกโรคนี้ว่า โรคอารมณ์สองขั้ว (ขั้วบวก = แมเนีย และ ขั้วลบ = ซึมเศร้า)

โดยปกติในแต่ละวัน คนเราจะมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในระดับหนึ่งแล้วกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติ รับผิดชอบหน้าที่การงาน ครอบครัว สังคมได้ แต่คนที่มีอารมณ์ผิดปกติ คือ เกิดอารมณ์ขั้วบวกหรืออารมณ์ขั้วลบเป็นเวลา 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป และไม่สามารถกลับเข้าสู่อารมณ์ปกติได้ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันและความสัมพันธ์กับผู้คนรอบตัว

โดยทั่วไปผู้ป่วยจะมีสัญญาณเริ่มต้น ได้แก่ 1. ขั้วบวก คือ หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ 2-3 วัน พูดมากขึ้น ร่าเริงผิดปกติ หรือในบางคนอาจจะมีพฤติกรรมใช้จ่ายฟุ่มเฟือย 2. ขั้วลบ คือ เศร้าผิดปกติ รู้สึกว่าตัวเองไร้ค่า เบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร คิดลบ รู้สึกไม่อยากมีชีวิต

หากญาติหรือคนใกล้ชิดสังเกตเห็นอาการเริ่มต้นดังกล่าว ไม่ต้องวิตกกังวล อาการเหล่านี้ไม่รุนแรง และสามารถจัดการได้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ หรือปรึกษาปัญหาสุขภาพจิตได้ที่สายด่วนกรมสุขภาพจิต โทร. 1323 หรือทาง www.facebook.com/helpline1323/

ทั้งนี้ โรคไบโพลาร์รักษาได้ด้วยการใช้ยา โดยแพทย์จะให้ยาทางจิตเวชเพื่อปรับสารสื่อประสาทและควบคุมอารณ์ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับโรคและยา รวมถึงการดูแลตนเองในด้านต่างๆ ควบคู่กันไป โดยข้อห้ามหลักๆ คือ ไม่ควรหยุดยาเอง ไม่ควรอดนอน และไม่ควรใช้สารเสพติดหรือดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหายจากอาการผิดปกติและกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง

หากรู้ไว รักษาได้และสามารถใช้ชีวิตประจำวันร่วมกับคนอื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข


นักวิจัยเตือน “อาร์ติก” เผชิญมลพิษสาหัส ไมโครพลาสติกหนาแน่นในน้ำแข็ง-หิมะ

นักวิจัยเตือน “อาร์ติก” – ซินหัว รายงานผลการศึกษาจากสถาบันอัลเฟรด วีเกอเนอ สังกัดศูนย์วิจัยทะเลและขั้วโลกเฮล์มโฮลตซ์ (เอดับเบิลยูไอ) เปิดเผยว่ามลพิษจากขยะพลาสติก “ระดับน่ากังวล” ได้เข้าถึงภูมิภาคอาร์กติกแล้ว

ผลศึกษาพบ “มวลคลื่นขยะพลาสติก” ที่เคลื่อนตัวมาตามแม่น้ำ อากาศ และการขนส่งทางเรือ ได้ลอยถึงทุกพื้นที่ของอาร์กติกแล้ว โดยมีการตรวจพบความหนาแน่นระดับสูงของไมโครพลาสติกในน้ำ พื้นทะเล ชายหาดห่างไกล แม่น้ำ หรือแม้แต่ในน้ำแข็งและหิมะ

นางเมลานี เบิร์กแมนน์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันอัลเฟรด วีเกอเนอ กล่าวว่าผู้คนยังคงคิดว่าอาร์กติกเป็นดินแดนรกร้างที่ส่วนใหญ่ยังไม่เคยถูกรุกล้ำ ทว่าการวิจัยโดยทีมงานจากนอร์เวย์ แคนาดา และเนเธอร์แลนด์ กลับพบว่าความเข้าใจดังกล่าวไม่ได้สะท้อนความเป็นจริง

ผลการศึกษาระบุว่าแต่ละปีมีขยะพลาสติกราว 19-23 ล้านตัน ลงเอยด้วยการหมุนเวียนในระบบน้ำของโลก โดยอนุภาคของขยะเหล่านั้นค่อยๆ แตกตัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเมื่ออยู่ในน้ำ จากระดับมาโครสู่ไมโคร และยังสามารถเข้าสู่กระแสเลือดของมนุษย์อีกด้วย

คณะนักวิจัยกล่าวถึงการผลิตพลาสติกทั่วโลก ซึ่งจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวภายในปี 2588 โดยเตือนว่าพลาสติกไม่ได้เป็นแค่ภาระสำหรับระบบนิเวศเท่านั้น แต่ยังสามารถทำให้การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแย่ลงอีกด้วย


จีนส่ง “เกาเฟิน-3 03” ดาวเทียมสำรวจโลกดวงใหม่สู่ห้วงอวกาศ

จีนส่ง “เกาเฟิน-3 03” – ซินหัว รายงานว่า จีนส่งดาวเทียมสำรวจโลกดวงใหม่ขึ้นสู่อวกาศจากศูนย์ปล่อยดาวเทียมจิ่วเฉวียน ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ

ดาวเทียมเกาเฟิน-3 03 (Gaofen-3 03) ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศโดยจรวดขนส่งลองมาร์ช-4ซี (Long March-4C) เมื่อเวลา 07.47 น. ตามเวลาท้องถิ่น และเข้าสู่วงโคจรที่กำหนดสำเร็จ ซึ่งการปล่อยดาวเทียมดังกล่าวเป็นภารกิจครั้งที่ 414 ของจรวดขนส่งตระกูลลองมาร์ช

ดาวเทียมดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับดาวเทียมเกาเฟิน-3 และดาวเทียมเกาเฟิน-3 02 ในวงโคจร เพื่อสร้างกลุ่มดาวเทียมเรดาร์ทางบก-ทางทะเล และจับภาพเรดาร์ชนิดช่องรับคลื่นสังเคราะห์ (SAR) ที่เชื่อถือได้และมีความเสถียร

ภาพถ่ายที่ได้จะมีความละเอียดระดับ 1 เมตร พร้อมรอบวงโคจรถ่ายภาพซ้ำพื้นที่เดิมทุก 1 วัน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงความสามารถเฝ้าติดตามของดาวเทียมเรดาร์ทางบก-ทางทะเลของจีน

ดาวเทียมเกาเฟิน-3 03 จะทำหน้าที่ป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติทางทะเล เฝ้าติดตามสภาพแวดล้อมทางทะเลเชิงพลวัตร การวิจัยทางทะเล การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์น้ำ เกษตรกรรม และอุตุนิยมวิทยา ตลอดจนช่วยปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ทางทะเล


5 อาหารล้างพิษ-ไขมันออกจากตับ ลดเสี่ยง”ไขมันพอกตับ”

หากกินอาหารเหล่านี้ จะช่วยให้ไขมันที่ไม่ดีค่อยๆ ลดลงจากตับในเวลา 3 เดือน

นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป ระบุถึงอาหารที่ช่วยลดไขมันในตับได้อย่างช้าๆ เห็นผลภายใน 3 เดือน เอาไว้ดังนี้

ทำไมต้องล้างพิษ-ลดไขมันออกจากตับ

ปกติแล้วตับเป็นอวัยวะหลักที่สามารถล้างพิษที่เข้ามาในร่างกายได้ ไม่ว่าจะมาจากอาหารการกิน อากาศ มลพิษต่างๆ หากตับทำงานไม่ดี อาจทำให้ร่างกายเสี่ยงสารพิษสะสม และเกิดภาวะ “คั่งพิษ” และอาจเสียชีวิตได้

ปกติแล้วตับจะกำจัดพิษออกจากไปร่างกายโดยไม่มีการสะสมพิษเอาไว้ที่ตัวตับ แต่เมื่อไรก็ตามที่ร่างกายมีภาวะไขมันพอกตับ เหล่าสารพิษอาจเกาะที่ไขมัน อาจเกิดภาวะตับอักเสบ และเมื่อร่างกายพยายามรักษาจนหาย อาจเกิดเป็นพังผืดไปทีละส่วนๆ ของตับ หากเกิดพังผืดไปทั่วตับมากขึ้นเรื่อยๆ อาจเกิดภาวะตับแข็งได้

อาหารช่วยล้างพิษ-ลดไขมันจากตับ

1. ผักตระกูลกะหล่ำ ผักในตระกูลกะหล่ำ นอกจากกะหล่ำปลี กะหล่ำดาว กะหล่ำม่วง กะหล่ำดอก แล้ว ยังมีบรอกโคลี และอื่นๆ ผักตระกูลกะหล่ำช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ในร่างกายได้ และยังมีแป้งต่ำ ทำให้ร่างกายมีภาวะดื้ออินซูลินต่ำลง เสี่ยงเบาหวานน้อยลงด้วย

2. เห็ด ไม่ว่าจะเป็นเห็ดอะไรก็กินได้หมด เพราะมีกลูตาไธโอนสูง ทำให้สารพิษในตับลดลง และยังเป็นเกราะป้องกันเซลล์ตับไม่ให้อักเสบได้ง่าย เมื่อกินในปริมาณที่เหมาะสมในระยะเวลาหนึ่ง ตับสามารถฟื้นฟูสุขภาพให้ดีขึ้นมาได้ด้วยตัวเอง

3. กระเทียม กระเทียมเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาโรคได้มาก ทั้งลดความดันโลหิต ลดการอักเสบในร่างกาย มีวิตามินบี 1 และช่วยลดปริมาณไขมันที่เกาะตับได้อย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นยาฆ่าเชื้อตามธรรมชาติ ป้องกันแบคทีเรีย เชื้อไวรัส และเชื้อราได้ และการกินกระเทียมเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งหลายๆ ชนิดอีกด้วย

4. อะโวคาโด อะโวคาโดมีไขมันดีสูง ซึ่งไม่ไปสะสมที่ตับเหมือนไขมันเลวที่เกิดจากการบริโภคไขมันสัตว์ แป้ง และน้ำตาลมากเกินไป อะโวคาโดมีกลูตาไธโอน แอนตี้ออกซิแดนท์สูง และยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม ที่ช่วยในเรื่องของการนอนหลับ และการขับถ่ายให้ดีขึ้นได้ด้วย 9 ประโยชน์สุดยอดจาก “อะโวคาโด” ดีต่อสุขภาพของจริง

5. น้ำมันมะกอก ชนิดเอกซ์ตร้า เวอร์จิ้น น้ำมันมะกอก ชนิดเอกซ์ตร้า เวอร์จิ้น เป็นน้ำมันมะกอกที่แทบจะไม่ผ่านกระบวนการอื่นใด ช่วยทำให้เซลล์ตับแข็งแรง ไขมันที่เกาะตับลดลง การดื้อต่ออินซูลินลดลง ทำให้ภาวะเบาหวานในร่างกายดีขึ้น แต่ควรจำกัดปริมาณให้เหมาะสม ไม่กินมากเกินไป

ขอขอบคุณ ข้อมูล :นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป

ภาพ :iStock