ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



นาซาประกาศตั้งทีมอิสระศึกษาปรากฏการณ์ "ยูเอฟโอ"

เจ้าหน้าที่นาซาได้เลือกทีมนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ 16 คน ที่จะเจาะลึกความลึกลับของ “ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้" (unidentified aerial phenomena-UAP) หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "วัตถุบินได้ที่ระบุเอกลักษณ์ไม่ได้" (UFO) หรือ ยูเอฟโอ โดยการศึกษาอิสระได้เริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

กลุ่มนี้จะประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญในหลายสาขาวิชา เช่น โหราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล สมุทรศาสตร์ พันธุศาสตร์ นโยบาย และวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับดาวเคราะห์ เช่นเดียวกับนายสก็อตต์ เคลลี นักบินอวกาศที่เกษียณอายุราชการของนาซา อดีตนักบินรบ นักบินทดสอบ และกัปตันกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เกษียณอายุแล้ว

นาซาซึ่งประกาศการก่อตั้งกลุ่มเมื่อเดือนมิถุนายน ก่อนหน้านี้เปิดเผยว่าทีมดังกล่าวจะนำโดย เดวิด สเปอร์เกล นักดาราศาสตร์ฟิสิกส์ ซึ่งเป็นประธานมูลนิธิไซมอนส์ ในนครนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม กลุ่มที่ถูกตั้งขึ้นใหม่นี้ไม่จำเป็นต้องระบุอย่างแน่ชัดว่า "ปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่สามารถอธิบายได้" ที่เกิดขึ้นเหนือน่านฟ้าทางทหารในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมาคืออะไร แต่ทีมงานจะมองหาวิธีที่ดีที่สุดสำหรับนาซาในการศึกษาปรากฏการณ์นี้ต่อไป

หน่วยงานอวกาศได้ตั้งข้อสังเกตว่าการสังเกตเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวในจำนวนที่จำกัด ทำให้ยากที่จะสรุปผลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับลักษณะของเหตุการณ์ดังกล่าว

นาซาแถลงว่า "หากไม่มีการเข้าถึงชุดข้อมูลอย่างทั่วถึง ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบหรืออธิบายการสังเกตใดๆ ดังนั้นจุดเน้นของการศึกษาคือการแจ้งให้ NASA ทราบถึงข้อมูลที่เป็นไปได้ที่สามารถเก็บรวบรวมได้ในอนาคตเพื่อแยกแยะธรรมชาติของปรากฏการณ์ UAP ทางวิทยาศาสตร์"

นอกจากการตั้งทีมใหม่ของนาซา กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังตั้งทีมเจ้าหน้าที่เพื่อสืบหาปรากฏการณ์ทางอากาศที่ไม่ระบุชื่อ ที่ประกอบด้วยนักบินทหาร และวิเคราะห์ข้อมูลโดยเจ้าหน้าที่กลาโหมและหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ

ความพยายามคู่ขนานของนาซาและกระทรวงกลาโหม ชี้ให้เห็นจุดเปลี่ยนของรัฐบาลสหรัฐฯ หลังจากใช้เวลาหลายทศวรรษในการเบี่ยงเบน หักล้าง และทำให้การค้นหาข้อมูลปรากฏการณ์ยูเอฟโอ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ย้อนหลังไปถึงยุคคริสต์ศตวรรษ 1940.

ที่มา CNN


ดินแดนชุ่มน้ำในเทียนจิน ต้อนรับนกอพยพหนีหนาว

เขตอนุรักษ์ธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำชีหลี่ไห่ เทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน ได้ต้อนรับฝูงนกอพยพจำนวนมาก

สำนักข่าวซินหัว-เมื่อไม่นานนี้ เขตอนุรักษ์ธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำชีหลี่ไห่ เทศบาลนครเทียนจินทางตอนเหนือของจีน ได้ต้อนรับฝูงนกอพยพจำนวนมาก ทั้งนกปากช้อนหน้าขาว นกกระสานวล และนกกระเรียนยุโรป โบยบินหนีหนาวมาเพิ่มสีสันความมีชีวิตชีวายามฤดูใบไม้ร่วง

ปัจจุบันเขตอนุรักษ์ธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำชีหลี่ไห่ กลายเป็นพื้นที่รองรับนกน้ำหลากสายพันธุ์และจำนวนมากที่สุดของเทียนจิน โดยมีการพบเจอนกสายพันธุ์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจาก 182 พันธุ์ เป็น 258 พันธุ์ ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา


กล้องจันทรา พบการชนของกระจุกกาแล็กซี

แม้ว่านักวิทยาศาสตร์จะรู้ดีเกี่ยวกับองค์ประกอบของจักรวาล แต่ก็ยังมีปัญหาที่ต้องการไขคำตอบนั่นคือสสารจำนวนมากที่ยังไม่ได้ถูกนำมาศึกษา โดยเฉพาะมวลบางอย่างที่ไม่ปรากฏให้เห็นหรือมวลที่หายไป แต่ไม่ใช่สสารมืดที่มองไม่เห็น นักวิทยาศาสตร์นำเสนอว่า บางส่วนของมวลที่หายไปนี้น่าจะซ่อนอยู่ในเส้นใยขนาดยักษ์หรือเส้นใยที่มีก๊าซอุ่นถึงร้อนที่มีอุณหภูมิ 10,000–10,000,000 เคลวิน ที่อยู่ในช่องว่างระหว่างกาแล็กซีและกระจุกกาแล็กซี เรียกสิ่งนี้ว่า “warm-hot intergalactic medium” หรือ WHIM

เมื่อเร็วๆนี้ ทีมนักดาราศาสตร์จากศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ดและสมิธโซเนียน ในสหรัฐอเมริกา ที่ใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศจันทรา หรือกล้องรังสีเอ็กซ์จันทรา สังเกตไปที่ Abell 98 ซึ่งมีกระจุกกาแล็กซีที่ชนกันห่างจากโลกประมาณ 1,400 ล้านปีแสง และพบว่าช่องว่างระหว่างกระจุกกาแล็กซีใน Abell 98 มีหลักฐานของ WHIM หรือส่วนผสมของก๊าซที่มีอุณหภูมิตั้งแต่หลายหมื่นองศาไปจนถึงหลายล้านองศาแทรกซึมไปทั่วเส้นใยในจักรวาล

ข้อมูลของกล้องจันทราชี้ให้เห็นสะพานของการแผ่รังสีเอ็กซ์ระหว่างกระจุกกาแล็กซีที่ชนกัน 2 แห่ง มีก๊าซที่อุณหภูมิประมาณ 20 ล้านเคลวินและก๊าซที่เย็นกว่าซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 10 ล้านเคลวิน โดยก๊าซที่ร้อนกว่าน่าจะมาจากก๊าซในกระจุกกาแล็กซี 2 แห่งที่ทับซ้อนกัน อีกทั้ง ข้อมูลกล้องจันทรายังบ่งชี้การมีอยู่ของคลื่นกระแทกในช่วงเริ่มต้นของการชนกันของกระจุกกาแล็กซีก่อน ที่ใจกลางของกระจุกกาแล็กซีจะเคลื่อนผ่านกันและกัน ซึ่งคลื่นกระแทกนี้เป็นการค้นพบที่สำคัญ เพราะยังไม่เคยเห็นมาก่อน.

(Credit : X-roy: NASA/CXC/CfA/A. Sakr; Optical: NSF/NOIRLab/WIYN)


9 วิธีลดกรดไหลย้อน รักษาได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งยา

“กรดไหลย้อน” เมื่อมีอาการของโรคแล้ว อาจทำให้เราทรมานมากจนอยากจะหายจากโรคนี้เสียที เพราะทำให้นอนไม่หลับ กินก็ลำบาก รู้สึกแย่ ๆ หลายอย่าง เช่น แสบร้อนกลางอก เรอบ่อย กลืนลำบาก มีเสมหะ หรือไอบ่อย ๆ คลื่นไส้ อาเจียน ฯลฯ การรักษาทำได้โดยพบแพทย์เพื่อรับยามารับประทาน แต่เราสามารถลดอาการของโรคกรดไหลย้อนโดยไม่ต้องพึ่งยาได้ (หากยังไม่มีอาการหนักมาก ทั้งนี้หากจำเป็นต้องกินยาตามแพทย์สั่ง ก็ยังควรต้องกินอยู่ อย่างดยาโดยที่แพทย์ไม่ได้สั่งเป็นอันขาด)

อาการเริ่มต้นของโรคกรดไหลย้อน โรคยอดฮิตวัยทำงาน

วิธีลดอาการของโรคกรดไหลย้อน

แบ่งมื้ออาหารย่อย ๆ

การรับประทานอาหารปริมาณมาก ๆ ในครั้งเดียว อาจทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนกำเริบขึ้นได้ คุณอาจไม่สามารถรับประทานอาหาร 1 มื้อได้เท่าเดิม เช่น จากที่เคยกินข้าว 3 ทัพพีต่อมื้อ อาจทำไม่ได้อีกต่อไป จะเริ่มรู้สึกอึดอัดท้อง แน่นคอ อาหารไม่ย่อย ดังนั้นควรแบ่งอาหารออกมารับประทานในแต่ละครั้งให้น้อยลง อาจแบ่งจาก 3 มื้อ เป็น 5-6 มื้อได้

หลีกเลี่ยงอาหารบางประเภท

อาหารบางประเภทอาจทำให้อาการของโรคกรดไหลย้อนกำเริบได้ ได้แก่- สาระแหน่ (มิ้นท์)- อาหารไขมันสูง- อาหารรสจัด - มะเขือเทศ- หอม- กระเทียม- กาแฟ- ชา- ช็อกโกแลต- แอลกอฮอล์

อย่าดื่มน้ำอัดลม

น้ำอัดลมอาจทำให้คุณเรอ มีแก๊สในกระเพาะอาหารมากขึ้น และยังส่งน้ำย่อยที่เป็นกรดไปที่หลอดอาหารมากขึ้นด้วย ดังนั้นควรดื่มน้ำเปล่าธรรมดา ๆ ไปก่อนจะดีกว่า

นั่ง/ยืนตรง ๆ หลังกินอาหารเสร็จ

การนั่ง หรือยืนหลังตรงหลังรับประทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ จะช่วยให้น้ำย่อยในกระเพาะอาหารอยู่ในส่วนที่มันควรจะเป็น ไม่ไหลย้อนขึ้นมาที่กลางอกให้เรารู้สึกแสบ และควรรับประทานอาหารให้เสร็จก่อนเข้านอนอย่างน้อย 3 ชั่วโมงด้วย (รวมถึงการห้ามเอนตัวลงนอนเพื่องีบหลังอาหารกลางวันด้วย)

อย่าเคลื่อนไหวร่างกายเร็วเกินไป

ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ หลังรับประทานอาหารภายใน 2-3 ชั่วโมง สามารถลุกขึ้นเดินเล่นเบา ๆ หลังมื้ออาหารได้ แต่ไม่ควรออกท่าออกทางออกกำลังกายมากเกินไป โดยเฉพาะการวิ่งหนัก ๆ การก้ม ๆ เงย ๆ เต้นแอโรบิก หรือทำกาบบริหารต่าง ๆ หลังกินข้าวใหม่ ๆ เป็นต้น

นอนหลังพิงหัวเตียง

หากใครที่มีอาการมาก ๆ ไม่สามารถเอนตัวนอนลงบนพื้นราบได้ เพราะกรดอาจจะไหลย้อยมาที่กลางอกในตอนกลางคืน ก็ควรนอนหลับในท่าหลังพิงหัวเตียง ให้หัวสูงกว่าเท้า 6-8 นิ้ว อย่าลืมเอาหมอนหนุนสะโพก หลังไปจนถึงคอให้นอนได้สบายด้วย ควรเลือกหมอนทรงสามเหลี่ยมที่ช่วยหนุนหลังดีกว่าการเอาหมอนมาวางทับ ๆ กันแล้วนอน เพราะจะไม่ได้มุมที่นอนแล้วสบายกับหลัง

ลดน้ำหนัก

โดยส่วนใหญ่แล้ว กรดไหลย้อย มาเกิดขึ้นกับคนที่มีน้ำหนักตัวเกินเกณฑ์มาตรฐาน หากรู้ตัวว่าตัวเองมีน้ำหนักมากเกินไป การลดน้ำหนักก็จะช่วยให้อาการของกรดไหลย้อนดีขึ้นได้ ทั้งนี้หากไม่แน่ใจว่าตัวเองควรลดน้ำหนักหรือไม่ ควรปรึกษาแพทย์ที่รักษาโรคกรดไหลย้อนประจำตัวดูก่อนได้

งดสูบบุหรี่

หากเป็นสิงห์นักสูบอยู่แล้ว ควรเลิกสูบบุหรี่ถาวร เพราะสารนิโคตินในบุหรี่อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารหย่อนคล้อยลง น้ำย่อยที่เป็นกรดจึงอาจไหลย้อนไปที่อื่นในร่างกาย เช่น หลอดอาหาร คอ ปาก ได้ง่ายมากขึ้น

เช็กยาที่ใช้อยู่

ยาสำหรับวัยทอง ยาต้านเศร้ากลุ่มไตรไซคลิก และยาแก้ปวด แก้อับเสบบางชนิด อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารหย่อนคล้อยลงได้เช่นกัน ดังนั้นอาจลองปรึกษาแพทย์ที่รักษาโรคอื่น ๆ อยู่ดูว่าสามารถปรับเปลี่ยนยาได้หรือไม่

หากลองทำตามคำแนะนำเหล่านี้แล้วอาการกรดไหลย้อนยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม และวิธีรักษาที่เหมาะสมต่อไป


กล้องเจมส์ เวบบ์ เผยมุมมองล่าสุดของเสาแห่งการก่อกำเนิด

ย้อนกลับไปเมื่อ 27 ปีที่แล้วในปี พ.ศ.2538 กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิลได้สร้างความประทับใจให้เห็นจากผลงานภาพ “Pillars of Creation” หรือเรียกว่า “เสาแห่งการก่อกำเนิด” ปรากฏเป็นภาพภูเขาก๊าซและฝุ่นสูงตระหง่านในเนบิวลานกอินทรี จัดเป็นหนึ่งในแหล่งก่อตัวดาวฤกษ์ที่น่าตื่นตะลึงในจักรวาล แลคล้ายงานศิลปะอันยิ่งใหญ่ในห้วงอวกาศ

แต่เมื่อเร็วๆนี้ กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เวบบ์ ซึ่งเป็นทายาทของกล้องฮับเบิลได้สานต่อสอดส่องให้ความละเอียดของ “เสาแห่งการก่อกำเนิด” มากยิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยพลังดวงตาอินฟราเรดในการมองทะลุไปสถานที่แห่งนั้น และตรวจสอบดาวฤกษ์ทารกแรกเกิดที่ยังคงนอนอยู่ในเปลฝุ่น โดยมนุษย์อย่างเราๆจะเห็นว่า “เสาแห่งการก่อกำเนิด” มีเส้นริ้วและคลื่นสีแดงเชอร์รี และวัตถุที่บีบจากก้อนก๊าซและฝุ่นซึ่งก็คือดาวฤกษ์เกิดใหม่ ขณะที่พวกมันยุบตัวและร้อนขึ้นเพื่อกลายเป็นดวงดาว

ทั้งนี้ เนบิวลานกอินทรีอยู่ห่างจากโลกประมาณ 6,500 ปีแสง และอยู่ในกลุ่มดาวงู ซึ่งมาจากคำภาษาละติน serpent ที่แปลว่า “งู” เนบิวลานกอินทรีแห่งนี้มีอีกชื่อเมซีเยร์ 16 (Messier 16) เป็นพื้นที่ที่แทบมองไม่เห็นแสงดาวด้วยตาเปล่า และตอนนี้กล้องเจมส์ เวบบ์ ได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเองว่าไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเลย.