เปรียบเทียบอาการ “โอมิครอน” กับ “เดลตา” ใครแรงกว่ากัน

นาทีนี้ “โอมิครอน” คือเชื้อโควิดกลายพันธุ์ใหม่ที่ต้องจับตาอย่างมากว่าจะเข้ามาระบาดในไทยหรือไม่ แต่นอกเหนือจากการลุ้นแล้ว เรามาเปรียบเทียบกันชัด ๆ ว่า ระหว่างอาการของโอมิครอนกับเดลตา มีความต่างกันอย่างไร และใครแรงกว่ากัน

อาการ “โอมิครอน”

อาการของสายพันธุ์โอมิครอนที่พบโดยทั่วไปในเวลานี้คือ ยังสามารถรับรสชาติและได้กลิ่นเหมือนปกติ ไม่ค่อยมีอาการไข้ มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย มีอาการปอดอักเสบร่วมด้วย และสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็ว

อาการ “เดลตา”

สำหรับอาการของสายพันธุ์เดลตาจะมีบางส่วนที่คล้ายกับโอมิครอนคือ ไม่สูญเสียการรับรู้รสและกลิ่น แต่มักจะมีอาการปวดศีรษะ มีไข้ มีน้ำมูก และเจ็บคอ อาการคล้ายโรคหวัดทั่วไป และสามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่าย

เมื่อลองเปรียบเทียบอาการทั้ง 2 สายพันธุ์แล้ว อาจจะเห็นว่าโอมิครอนมีอาการไม่รุนแรงเท่าเดลตา แต่ก็อย่าประมาทจนเกินไป เพราะเพิ่งอยู่ในช่วงค้นพบสายพันธุ์นี้ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น เรายังต้องเฝ้าสังเกตอาการกันอย่างใกล้ชิดต่อไปถึงจะรู้ว่าจะมีอาการอื่น ๆ ที่รุนแรงร่วมด้วยหรือไม่

นอกจากนี้ กลุ่มคนที่พบว่าติดเชื้อโอมิครอนส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยและกลุ่มคนที่มีอายุน้อย ซึ่งมีแนวโน้มว่าแสดงอาการเมื่อติดเชื้อโควิด-19 เพียงเล็กน้อย ดังนั้นถ้าหากมีการระบาดในกลุ่มผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงวัย ผู้ป่วยภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงกว่าได้

และที่สำคัญ ไม่ว่าจะมีสายพันธุ์ใหม่เข้ามาหรือไม่ สิ่งที่เราควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัดก็คือ ใส่หน้ากาก ล้างมือ หรือใช้แอลกอฮอล์ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด และฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้ครบโดส เพื่อป้องกันตนเองและคนรอบข้างไม่ให้ติดเชื้อโควิดนั่นเอง

ทั้งนี้ โอมิครอน เป็นเชื้อโควิดกลายพันธุ์ชนิดใหม่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้เป็นสายพันธุ์ระดับที่น่ากังวล (Variants of Concern: VOC) มีรายงานว่าถูกพบครั้งแรกในแอฟริกาใต้ ปัจจุบันมีการระบาดแล้วในประเทศแอฟริกาใต้, บอตสวานา, เบลเยียม, ฮ่องกง, อิสราเอล, ออสเตรเลีย, สหราชอาณาจักร, เยอรมนี, แคนาดา (ข้อมูล ณ วันที่ 29 พ.ย. 2021)

ล่าสุด วันที่ 3 ธ.ค. 2564 สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ได้เผยผลวิจัยจาก DSI-NRF Centre of Excellence in Epidemiological Modelling and Analysis ของแอฟริกาใต้ ที่พบว่าเชื้อโควิด-19 กลายพันธุ์ สายพันธุ์โอมิครอน ทำให้คนที่เคยป่วยเป็นโควิดแล้ว มีความเสี่ยงที่จะกลับมาติดเชื้อซ้ำได้ถึง 3 เท่า ซึ่งจากการศึกษาข้อมูลของผู้ติดเชื้อ 2.8 ล้านรายในแอฟริกาใต้ ระหว่างเดือนมี.ค. 2563 จนถึงวันที่ 27 พ.ย. 2564 พบว่ามีถึง 35,670 ที่คาดว่าเป็นการกลับมาติดเชื้อซ้ำอีกครั้ง

ขณะที่เชื้อกลายพันธุ์อย่างสายพันธุ์เบตาและเดลตา พบว่าผู้ที่ป่วยด้วยเชื้อ 2 สายพันธุ์นี้มีอัตราการติดเชื้อซ้ำต่ำกว่าเชื้อดั้งเดิมอย่างสายพันธุ์อู่ฮั่นเสียอีก แต่สำหรับตัวล่าสุดอย่างโอไมครอน กลับมีอัตราการติดเชื้อซ้ำที่สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเมื่อช่วงกลางเดือน พ.ย. แอฟริกาใต้มีผู้ติดเชื้อต่อวันอยู่ที่ราวๆ 300 ราย และมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนในวันพุธที่ผ่านมา มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 8,561 รายแล้ว

ที่มา Bloomberg , CNET

ดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ ในระบบดาวที่แปลกประหลาด

ดาวเคราะห์ก่อตัวขึ้นจากสสารที่มารวมกันภายในจานฝุ่นก๊าซขนาดใหญ่ที่หมุนวนรอบๆดาวฤกษ์ที่เกิดใหม่ รูปแบบของระบบดาวที่คุ้นเคยก็คือดาวเคราะห์จะหนึ่งดวงหรือหลายดวงโคจรรอบดาวฤกษ์แม่ดวงเดียว เช่น ระบบสุริยะของเรา ทว่าการค้นพบดาวเคราะห์ที่โคจรรอบดาวฤกษ์ 2 ดวง นับว่าเป็นเรื่องแปลกและหายากมาก ซึ่งการค้นพบระบบดาวแบบดังกล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ได้ท้าทายความคิดของนักดาราศาสตร์เกี่ยวกับการก่อตัวและวิวัฒนาการของดาวเคราะห์

นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยสตอกโฮล์มเผยว่า ระบบดาวที่เพิ่งค้นพบคือ b Centauri อยู่ห่างจากโลก 325 ปีแสง ถูกจับภาพโดยกล้องโทรทรรศน์วีแอลที (Very Large Telescope) ที่มีขนาดใหญ่มากของหอดูดาวท้องฟ้าซีกใต้แห่งยุโรป ตั้งอยู่ในชิลี ที่น่าตื่นเต้นก็คือในระบบดาวแห่งนี้ประกอบด้วย 2 ดาวฤกษ์ โดยแต่ละดวงมีมวลมากกว่าดวงอาทิตย์ 3 เท่า ทำให้เกิดรังสีอัลตราไวโอเลตและรังสีเอ็กซ์จำนวนมาก ดาวฤกษ์ทั้งคู่มีดาวเคราะห์ที่ชื่อ b Centauri โคจรรอบ ซึ่งเป็นดาวเคราะห์ก๊าซยักษ์ มีมวลมากกว่าดาวพฤหัสมากกว่า 11 เท่า มีวงโคจรที่กว้างใหญ่กว่าดาวพฤหัสถึง 100 เท่า และกว้างกว่าโลกประมาณ 560 เท่า

การที่ดาวเคราะห์ขนาดมหึมาโคจรรอบดาวฤกษ์ที่ร้อนขนาดนี้ ทำให้เกิดการคาดเดาเกี่ยวกับต้นกำเนิดของดาวเคราะห์ ซึ่งการค้นพบนี้ทำให้รู้ว่าการก่อตัวของดาวเคราะห์ดูเหมือนจะเป็นกระบวนการที่หลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ.

ภูเขาไฟสเปน “หวนปะทุ” รุนแรง ผ่านมา 85 วันลาวายังไหลทะลักไม่เลิก

เมโทร : รายงานสถานการณ์ ภูเขาไฟกุมเบร บิเอฆา บนเกาะลาปัลมา ในหมู่เกาะคานารี ประเทศสเปน ซึ่งปะทุต่อเนื่องตั้งแต่เดือนก.ย.ที่ผ่านมาว่า

แม้จะผ่านมานานถึง 85 วันแล้ว แต่ลาวาร้อนยังไหลทะลักพวยพุ่งจากรอยแยกและปากปล่องของภูเขาไฟ หนำซ้ำไม่มีทีท่าว่าจะยุติลงในเร็ววัน และถือเป็นการระเบิดของภูเขาไฟที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ของเกาะลาปัลมาด้วย

รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ธ.ค. ระบุว่าภูเขาไฟกุมเบร บิเอฆา มีความเคลื่อนไหวเล็กน้อยหลายวันก่อนหน้านั้น แต่จู่ๆ ก็เกิดปะทุรุนแรงขึ้นอีกครั้ง มีเสียงระเบิดดังสั่นต่อเนื่องและพ่นเขม่าควันหนาแน่นขึ้นสู่ท้องฟ้าเป็นทางยาว

นายมาริอาโน เออร์นันเดซ เจ้าหน้าที่รัฐบาลระดับสูงของเกาะลาปัลมา กล่าวว่าก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญด้านภูเขาไฟของสเปนวิเคราะห์ว่าการปะทุจะกินเวลาราว 3 เดือน แต่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าจะยุติเมื่อไหร่ และว่าภูเขาไฟยังมีความเคลื่อนไหวเป็นระยะๆ โดยในช่วง 1 วัน เมื่อวันที่ 11-12 ธ.ค. พบแผ่นดินไหวถึง 24 ครั้ง แต่ไม่หนักจนผู้คนรับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือน

สำหรับความเสียหายจากการระเบิดของภูเขาไฟกุมเบร บิเอฆา ในช่วงเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา มีอาคารบ้านเรือนมากกว่า 3,000 หลังได้รับความเสียหายหรือพังย่อยยับ ประชาชนราว 7,000 คนต้องอพยพหนีตาย และลาวาไหลบ่าครอบคลุมพื้นที่เป็นบริเวณกว้างกว่า 6,250 ไร่

หนุ่มเรียนจบ พ่อให้เงินเกือบล้านไปซื้อรถ อึ้งลูกไปซื้อควาย ตอนนี้มีคนขอซื้อ 3.5 ล้าน แต่ไม่ขาย เผยเคยคว้าแชมป์ประเทศไทยปี 2558 มาแล้ว

13 ธ.ค. 2564-: ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 1 บ้านสร้างค้อ ต.สร้างค้อ อ.ภูพาน จ.สกลนคร หลังจากทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว มีกระบือ หรือควายเผือก มีลักษณะสวยงาม และมีดีกรีแชมป์ประเทศไทยไม่นานมานี้ โดยมีคนขอซื้อในราคา 3.5 ล้านบาท แต่เจ้าของไม่ขาย

เมื่อผู้สื่อข่าวไปถึงพบกับนายนรากร ศรีพั้ว หรือบิ๊กต่อ อายุ 30 ปี เจ้าของควายตัวดังกล่าว กำลังให้หญ้าเจ้ามังกรทอง ควายเผือกตัวรักอยู่พอดี โดยลักษณะฟาร์มนอกจากจะเลี้ยงควายแล้ว ยังทำปศุสัตว์อย่างอื่น เช่น เลี้ยงม้า แพะ กระต่าย อีกด้วย

นายนรากร กล่าวว่า ตนจบการศึกษาปริญญาตรี สาขาสัตว์แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น หลังเรียนจบออกมาก็ไม่ได้อยากไปทำงานที่ไหน อีกทั้งเป็นคนที่ชอบอาชีพเกษตร ทำไร่ ทำนา จึงอยู่ช่วยครอบครัวทำเกษตร หลังจากเรียนจบ พ่อเห็นว่าตนเป็นเด็กดี ช่วยเหลืองานพ่อแม่ตลอด พ่อเลยให้รางวัลเป็นเงินสด 7.9 แสนบาท เพื่อให้ไปซื้อรถยนต์ ตนคิดว่าหากนำเงินไปซื้อรถ เงินนั้นคงจะไม่มีดอกมีผลอะไร จึงนำเงินที่พ่อให้ไปซื้อควายเผือกไทยแท้มาแทน ทำเอาพ่อแม่ถึงกับอึ้งและช็อกกันทั้งบ้าน แต่ท่านก็เข้าใจ

นายนรากร กล่าวอีกว่า ได้เลี้ยงเจ้ามังกรทองอย่างดีเหมือนลูกคนหนึ่งเลย มีความสง่า ผิวพรรณอมชมพู เลี้ยงอยู่ 2 ปี จึงนำส่งเข้าประกวดควายงาม และสามารถคว้าแชมป์ประเทศไทยปี 2558 จากวันนั้นถึงวันนี้ จากควายที่ซื้อมาในราคา 7.9 แสนบาท เมื่อไม่นานมานี้มีคนมาขอซื้อโดยให้ราคา 3.5 ล้าน บาท แต่ตนไม่ขาย ซึ่งเจ้ามังกรทองตัวนี้เคยร่วมแสดงหนังเรื่องบางระจัน 2 มาแล้ว ปัจจุบันเจ้ามังกรทอง หนักประมาณ 1,500 ก.ก. และได้รีดน้ำเชื้อแบ่งขายให้เกษตรกรที่สนใจสายในสายพันธุ์ โดยแบ่งขายโดสละ 5,000 บาท จากแค่ขายน้ำเชื้อเจ้ามังกรทองเพียงอย่างเดียว ก็มีรายได้ตกเดือนละหลายหมื่นบาทแล้ว

ด้านชูพงศ์ คำจวง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ที่เดินทางมาดูเจ้ามังกรทองในครั้งนี้ด้วย กล่าวว่า ถือว่าเป็นเกษตรแนวใหม่ ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรเป็นอย่างดี นอกจากนี้อนาคต จ.สกลนครจะผลักดันให้เป็นเมืองการท่องเที่ยวด้านการทำเกษตรแบบผสมผสานอย่างเต็มรูปแบบต่อไป

"สวนไร้พรมแดน" สวนลอยฟ้ายาว 1.2 กม. เปิดใหม่ในเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน

ชวนมาทำความรู้จักกับสวนสาธารณะเปิดใหม่ที่ยาวถึง 1.2 กิโลเมตร เมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ปรับปรุงจากสถานีรถไฟเก่าเพื่อมาเป็นแหล่งปฏิสัมพันธ์ให้กับคนยุคใหม่

"สวนไร้พรมแดน" แห่งนี้ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของสถานีและศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟเก่ากลางเมืองเซินเจิ้น ประเทศจีน ที่นี่เป็นดาดฟ้ายาว 1.2 กิโลเมตรที่ล้อมรอบด้วยตึกระฟ้า ซึ่งถูกแปลงให้เป็นสวนไร้พร้มแดน หรือ สวนที่สามารถเดินผ่านทางเชื่อมตึกต่าง ๆ จากอีกฝั่งเพื่อข้ามมาเที่ยวได้

นาย ฮ่าว ตง (Hao Dong) หนึ่งในผู้ร่วมลงทุนใน "สวนไร้พรมแดน" แห่งนี้เล่าถึงความท้าทายในการเนรมิตที่แห่งให้เกิดขึ้นมาจริงว่ามันไม่ง่ายเลย เพราะโดยปกติแล้วโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ จะเป็นสินทรัพย์ของรัฐบาลจีน ทำให้ภาคเอกชนไม่สามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการทำให้รัฐบาลเห็นถึงความตั้งใจที่กลุ่มนักพัฒนาต้องการจะทำให้ที่แห่งนี้มีประโยชน์ต่อคนหมู่มากจริง ๆ จึงจะมีการจัดทำสะพานเชื่อมจากตึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะโรงเรียน อาคารสำนักงาน อพาร์ตเมนท์พักอาศัย เข้าสู่สวนแห่งนี้ จึงเป็นที่มาของ "สวนไร้พรมแดน" หรือชื่อภาษาอังกฤษคือ crossboundaries นั่นเอง

บิงค์ เล็นฮาร์ท (Binke Lenhardt) อีกหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาบอกว่า โครงการนี้จะถือว่ามาเติมเต็ม 'ชุมชนเมืองสมัยใหม่' ที่ขาดแหล่งพบปะสังสรรค์และสร้างความเชื่อมโยงระหว่างคนสู่คน ที่แห่งนี้จึงมีทั้งสวนสาธารณะ และ สนามกีฬาต่าง ๆ ไม่ว่าจะสนามบอล สนามเทนนิส พร้อมที่นั่งสำหรับที่มาชมการแข่งขัน และทางเดินเล่นยกระดับ ให้เหล่านักเรียนนักศึกษา คนทำงาน คนในชุมชนได้มาใช้เวลาทำกิจกรรมร่วมกันและเติมเต็มช่วงเวลาที่ขาดหายไปจากที่เราอยู่กันบนโลกอินเตอร์เน็ตซะส่วนใหญ่

ที่มาข้อมูล : WWW.desighboom.com