ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ส่องความงาม 'ชุดไทย' สุดอลัง บนเรือนร่าง 'นางสงกรานต์ 2567'

ช่วง เทศกาลสงกรานต์ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า นางสงกรานต์ ก็เป็นอีกหนึ่งสีสันในขบวนแห่สงกรานต์ ซึ่งแต่ละที่ที่จัดงานสงกรานต์ก็จะหาสาวๆ สวยๆ มาร่วมสร้างสีสัน และดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งปีนี้แต่ละนางต่างปรากฎตัวใน ชุดไทย สุดอลัง และวันนี้ คมชัดลึก จะพาไปส่องความงดงามของชุดที่แต่ละนางสวมใส่ แปลงร่างเป็น นางสงกรานต์ 2567 กันค่ะ

เชย์นิส ปาลาซิโอส มิสยูนิเวิร์ส 2023 นางสงกรานต์ 2567 มาในชุด "นารีตริโลตมา สยามนัฏยาพิไล" ได้แรงบันดาลใจรูปแบบการแต่งกายจากละครนาง ซึ่งเป็นการแต่งกายของการแสดง โขน โดยออกแบบพัสตราภรณ์ขึ้นใหม่ ให้ตรงสีตามวันของนางสงกรานต์ คือ สีม่วงประจำวันเสาร์ ด้วยการนุ่งผ้าเขียนลายทอง ลายช่อพุดตาน ห่มผ้าสะพักสีเศวต ปักเลื่อมโลหะและปีกแมลงทับ แล้วล้อมด้วยไหมทองอย่างประณีต สวมกรองคอปักประดับด้วยงานสลักดุนโลหะฝังอัญมณี ลงยาตามขนบโบราณ พร้อมเครื่องประดับ ว่าประดับด้วย นิลรัตน์ (อัญมณีสีดำ หรือสีน้ำเงินเข้มจนดำ) ซึ่งเป็นอัญมณีประจำ นางสงกรานต์ ประจำวันเสาร์ สวม คือ รัดเกล้ายอด ซึ่งเป็นศิราภรณ์อันสูงค่า ทรงยอดแหลม ตั้งอยู่กลางกระหม่อม ประกอบด้วยกรรเจียกจร หรือ จรหู และรัดท้ายช้อง (รัดบริเวนผมด้านหลัง) ทั้งยังเพิ่มความงามด้วยมาลัยครุย แสดงให้เห็นความประณีตของการแต่งกาย ชุดไทย อย่างโบราณ อันสง่างาม แห่งสยามประเทศ

แอฟ ทักษอร มาเป็น นางสงกรานต์ 2567 มโหธรเทวี ใน ชุดไทย โบราณ โดยนำแนวคิดภาพ นางสงกรานต์ โบราณที่พิพิธภัณฑ์วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ประดับสวมพัสตราภรณ์ กรองปักลายราชสำนักอยุธยาโบราณ ผ้าสไบปักดิ้นเงินทองสองชาย นุ่งผ้ายกทองจีบชายสะบัดของ อ.วีรธรรม ตระกูลเงินไทย ที่ได้รูปแบบการทอผ้าแบบราชสำนักโบราณ และสวมศิราภรณ์กระบังหน้าที่สร้างมาจากแบบอย่างละครเจ้าพระยามหินทรศักดิ์ธำรงที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร โดยช่างฝีมือชั้นดีของไทย และเครื่องประดับที่นำมาใช้ เป็นเครื่องประดับทองคำแท้ สมัยโบราณ ทั้งกระบังหน้า ทับทรวง ต่างหู ธำมรงค์ กำไล รัดแขน สังวาลย์ ปั้นเหน่งและสายเข็มขัดทางมะพร้าว ข้อเท้า ออกแบบโดย ผศ.ดร.สุรัตน์ จงดา พร้อมด้วย พีรมณฑ์ ชมธวัช, อธิษฐ์ ฐิรกิตติวัฒน์ และพุทธพงษ์ เพียรเจริญ

พาย รินรดา นางมโหธรเทวี นางสงกรานต์ ประจำวันเสาร์ ทัดดอกสามหาว (ผักตบชวา) มีนิลรัตน์เป็นเครื่องประดับ อาวุธคู่กาย พระหัตถ์ขวาถือจักร พระหัตถ์ซ้ายถือตรีศูล ประทับมยุราปักษา (นกยูง) เป็นพาหนะ แต่งกายภายใต้แนวคิดนางฟ้านางสวรรค์ตามจิตรกรรมไทยประเพณีตามลักษณะของนางสงกรานต์ ออกแบบโดย พีรมณฑ์ ชมธวัช เครื่องแต่งกายประกอบด้วยพัสตราภรณ์สีทอง นุ่งผ้าชักชายสะบัดอย่างโบราณ ด้วยผ้าไหมยกทองลายริ้ว นุ่งแบบกรวยเชิงหนึ่งชั้น เครื่องประดับจากอาภรณ์งามสตูดิโอ ประกอบด้วย กระบังหน้า เกี้ยวกลม กรองคอ (รูปแบบราชสำนักโบราณ) ต่างหู ธำมรงค์ กำไล รัดแขน (ทองคำแท้โบราณต้นรัตนโกสินทร์) ปั้นเหน่งและสายเข็มขัดทางมะพร้าว

แอนโทเนีย โพซิ้ว รองนางงามจักรวาล มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 และรองชนะเลิศอันดับ 1 มิสยูนิเวิร์ส 2023 สุดตระการตา ในชุด นางสงกรานต์ “นาฏยานารี เทวีมโหธร” ซึ่งนำเอาเอกลักษณ์อันโดดเด่นของการแต่งกายซึ่งมีอยู่หลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการห่มผ้าสองชาย นุ่งผ้าจีบด้วยผ้าลายอย่างลายสร้อยสามหาวแบบจิตรกรรมไทยชักชายสบัด สวมมงกุฏกษัตรีย์อย่างนางกษัตริย์ในนาฏกรรมไทย ทั้งยังสร้างสรรค์ศาสตราวุธขึ้นใหม่อย่างวิจิตรด้วยงานหัตถศิลป์ไทย ด้วยลายรดน้ำ อย่างโบราณ เพื่อเป็นอาวุธประจำนางสงกรานต์ในปีนี้ นั่นคือ จักร และตรีศูล

ฟ่าน ปิงปิง ซุปเปอร์สตาร์ชื่อดังแถวหน้าของจีน ที่แปลงร่างเป็น นางสงกรานต์ 2567 มาในชุดไทยศิวาลัยสีฟ้าอันวิจิตร ปักลวดลายดอกบัวหลวงด้วย คริสตัลสวารอฟสกี้สีทองคำ มูลค่าสูงเฉียดหนึ่งล้านบาท ผลงานการออกแบบสุดสร้างสรรค์ของ ดร.สรรค์ สุดเกตุ ดีไซเนอร์และเจ้าของแบรนด์ห้องเสื้อ วนัช กูตูร์ ด้วยรูปแบบชุดที่ชูความเป็นไทยได้อย่างเรียบหรูงดงามแล้ว ยังเป็นตัวแทนของความเป็นเอกลักษณ์ของไทยที่ไม่สามารถหาจากที่ใดได้อีก ในส่วนของเครื่องประดับที่ใช้คู่กัน ทำขึ้นโดยช่างฝีมือทองโบราณ

เบ็คกี้ รีเบคก้า แปลงโฉมเป็น นางสงกรานต์ มโหธรเทวี งดงามด้วยเครื่องแต่งกายอย่างสตรีราชสำนักไทยโบราณ ห่มด้วยผ้าสะพักไหมยกทองชนิดที่เรียกว่าผ้าเข้มขาบเป็นผ้าอย่างโบราณที่นิยมใช้กันมาก เครื่องประดับประกอบด้วยประกอบด้วยรัดเกล้ายอด กรองคอ (รูปแบบราชสำนักโบราณ) ต่างหู ธำมรงค์ กำไร สังวาลย์ ด้วยเครื่องทองคำแท้จากบ้านทองสมสมัย พร้อมด้วย รัดแขน และ ปั้นเหน่ง เข็มขัดทอง

โบว์ เมลดา และ ญาญ่า อุรัสยา สวมใส่ชุด นางสงกรานต์ 2567 จากแบรนด์ HOOK’S by PRAPAKAS โดย ประภากาศ อังศุสิงห์ ดีไซเนอร์ ได้ถ่ายทอดเรื่องราวของความเป็นไทย สีสันของกลิ่นอายฤดูร้อนในช่วงสงกรานต์ และได้นำเอาอัตลักษณ์ของทุกภูมิภาค ทุกถิ่นฐานของประเทศไทยนำมารังสรรค์ชุดให้ดูทันสมัย เพื่อเป็นต้นแบบการแต่งกาย ที่เป็น ซอฟต์ พาวเวอร์ ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ อย่างภาคภูมิใจในความเป็นไทยที่งดงาม


นางแบบไทยในญี่ปุ่น โพสต์เสียความรู้สึก 'ช่างภาพ' ใช้ภาพ AI แต่งแทนหน้าจริง

เข้าสู่ยุคที่ปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของมนุษย์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการอำนวยความสะดวกในการค้นคว้าหาข้อมูล หาแรงบันดาลใจใหม่ๆ หรือไอเดีย ในการทำงาน บางอาชีพอาจต้องใช้สิ่งนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือการทำงานไปเลยก็เริ่มมีมาให้เห็น

ซึ่งล่าสุดก็ได้มีเรื่องราวของดราม่า ซึ่งเกิดขึ้นในวงการ นางแบบ กับ ช่างภาพ เมื่อ ช่างภาพได้ว่าจ้าง นางแบบไทยในญี่ปุ่น ไปเป็นแบบในการถ่ายรูปให้ แต่เมื่อเผยแพร่ ช่างภาพ กลับใช้ภาพที่ถูเจเนอเรท หรือปรับแต่งโดย AI มาโพสต์ และทางด้านนางแบบเองก็ได้ออกมาโพสต์เรื่องราวผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเธอนั้นเสียความรู้สึกอย่างมากที่ภาพนั้นเป็นหน้าของ AI ไม่ใช่หน้าตาจริงๆ ของเธอเอง

เธอระบุข้อความส่วนหนึ่งว่า "ส่วนตัวรู้สึกว่าเสียมารยาทมากๆ ไม่เคารพสิทธิ์ส่วนบุคคลมาก ไม่ให้เกียรติเราที่เป็นนางแบบเลย แล้วทำเหมือนอีกฝ่ายไม่ใช่คน ไม่มีความรู้สึก ประเด็นแรกคือไม่บอกเราก่อนสักนิดเลย เเละจงใจซ้อนโพสนี้กับเรา จนเราทักเขาไปว่า "ขออนุญาตถามได้ไหมคะ ว่าทำไมถึงใช้ใบหน้า Ai แทนหน้าของนิก ไม่ชอบหน้านิกตรงไหนหรือเปล่าคะ ถ้ารู้สึกว่าไม่ตรงกับความต้องการที่พี่จ้าง นิกคืนเงินค่าจ้างทั้งหมดให้ได้นะคะ" เขาตอบแค่ว่า "แค่อยากเล่นอะไรสนุกๆ" สนุกมากไหม? ต้องสนุกด้วยกี่โมง? สนุกแบบใด? "

ความเห็นของชาวเน็ตแยกเป็น 2 ทาง

เข้าใจ นางแบบ ชาวเน็ตส่วนหนึ่งเข้าใจความรู้สึกของนางแบบคนนี้ โดยบางรายระบุข้อความว่า "ขอโกรธแทนเลย ทำแบบนี้ได้ไง เป็นกำลังใจให้นะคะ" และอีกหลายคนมองว่าการกระทำของ ช่างภาพ ที่ใช้ AI ในการแต่ง และเปลี่ยนใบหน้าของนางแบบนั้นเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม และค่อนข้างทำร้ายความรู้สึกของเจ้าตัวไม่น้อย เพราะไม่มีการขออนุญาตหรือพูดคุยกันก่อน จึงเป็นเรื่องที่ไม่ให้เกียรตินางแบบที่ร่วมงานด้วย

ส่วนความคิดเห็นอีกฝั่งนั้นมองว่า ช่างภาพ ไม่ได้ผิดอะไร โดยระบุว่า "จ้างนางแบบ จ่ายเงินครบ ก็คือการจบงาน จบงานแล้วนิครับ ผมไม่เคยเห็นนางแบบอาชีพคนไหนมาไล่จี้ช่างภาพว่าถ่ายไม่ดี นางแบบไม่ชอบ เราต้องมองนะครับว่า อยู่ในฐานะอะไร งานใครงานมัน จบคือจบ" บางรายถึงขั้นแนะนำนางแบบคนนี้ว่า ให้คืนเงินค่าจ้างทั้งหมดไปแล้วขอให้ลบรูปออก

อย่างไรก็ตาม พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 มาตรา 10 ระบุว่า งานที่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ขึ้นโดยการรับจ้าง บุคคลอื่น ให้ผู้ว่าจ้างเป็นผู้มีลิขสิทธิ์ในงานนั้น เว้นแต่ผู้สร้างสรรค์และผู้ว่าจ้าง จะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น


การ์ดถึงกับงง ต้องเช็กซ้ำ เมื่อศิลปินดังถือถังน้ำนั่งรถคอกมาขึ้นเวที

มิติใหม่ของการนั่งรถมาทำงานของศิลปินหนุ่มชื่อดังอย่าง กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ที่ล่าสุดทำเอาการ์ดถึงกับงง ต้องขอเช็กแล้วเช็กอีกว่าใช่ศิลปินจริงหรือไม่ หลังจากที่เจ้าตัวนั่งรถคอกพร้อมถือถังน้ำวิ่งมาเข้าที่หลังเวที

โดยในคลิป เผยให้เห็นภาพของ กอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ถือถังน้ำยืนอยู่ในรถคอก เพราะก่อนที่จะมาขึ้นเวที เจ้าตัวไปวนรอบคูเมืองมาก่อนจะขึ้นร้องเพลง ซึ่งในคลิปมีเสียงพูดว่า

"พี่คร้าบ เปิดประตูด้วยคร้าบ ศิลปินครับ ศิลปิน ผมเป็นศิลปินมาเล่นงานพี่จริงๆ นะครับ ผมแค่เอารถไปวนรอบคูเมืองมาก่อน ศิลปินครับพี่ ฟักกลิ้งฮีโร่ครับ ศิลปินครับ ศิลปิน ผมเป็นศิลปิน"

หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกโพสต์ออกไป ก็มีแฟนๆ เข้ามาคอมเมนต์แซวมากมาย อาทิ "555 พี่การ์ดเพลงนี้มาในหัว อ้ายบ่อยากเชื่อสายตา ว่าภาพตรงหน้าจะเป็นความจริง, ปกติแค่ไม่ใส่แว่นก็จำแทบไม่ได้อยู่แล้ว5555, พี่ก็เล่นมารถคอกเลย, การ์ดเลงแล้วเลงอีก ใช่ไม่ใช่, ศลป ไปบิ้วรอบคูเมืองก่อนขึ้นเวที"


เปิด 5 "เครื่องดื่ม" คลายร้อน ห่างไกล "เบาหวาน" ที่ หมอ แนะนำ

เมษายนทีไร ร้อนตับแล่บทุกที โดยเฉพาะปี 2567 นี้ ที่พยากรณ์อากาศกันว่า อุณหภูมิจะพุ่งทะลุ 40 องศาฯ นอกจากเครื่องปรับอากาศ พัดลม จะเป็นตัวช่วยคลายร้อนแล้ว “เครื่องดื่ม” เย็นๆ ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการคลายร้อน แต่ดื่มอย่างไรให้ไร้โรค โดยเฉพาะ เบาหวาน เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า บรรดาเครื่องดื่มที่ให้ความหวานเย็น ก็พ่วงมาด้วยน้ำตาล แต่ “หมอ เจด” ได้แนะนำ 5 เครื่องดื่ม คลายร้อน ที่รับประกันความชื่นใจ แถมยังไกลจาก เบาหวาน

“หมอเจด” หรือ นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา แนะนำ 5 เครื่องดื่ม ที่ดื่มได้ไม่รู้สึกผิด รับประกันความชื่นใจ แถมยังไกลจากเบาหวาน มีดังนี้

1. น้ำหมักผลไม้ หรือ น้ำ infused

วิธีทำ เตรียมน้ำเปล่าใส่เหยือก ตามด้วยหั่นผลไม้ เช่น แอปเปิ้ล ส้ม เลม่อน หรือสตอว์เบอร์รี แล้วนำใส่เหยือกทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แค่นี้ก็ได้น้ำหมักมาดื่มให้ชื่นใจแล้ว หรือเพิ่มสมุนไพร อย่างเช่น ขิง อบเชย มินต์ ตะไคร้ ให้มีกลิ่นหอม ใครชอบแบบไหนเลือกส่วนผสมเองได้เลย ข้อดีของเครื่องดื่มชนิดนี้คือ ช่วยให้เราสดชื่น มีกลิ่นแถมน้ำตาลน้อย

2. น้ำมะลิ

เป็นเครื่องดื่มที่คลาสสิคมาก เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยดื่ม แค่เอาดอกมะลิ แช่ไว้กับน้ำ แค่นี้ก็ได้เครื่องดื่มหอมๆ ไว้ดับร้อนแล้ว ที่ขาดไม่ได้เลยคือ เพิ่มความสดชื่นด้วยขันสีเงิน แถม มะลิ มีสรรพคุณช่วยร้อนใน และแก้วิงเวียนได้อีกด้วย

3. น้ำเก๊กฮวย

หน้าร้อนแบบนี้ ตัวช่วยดับร้อนที่ขาดไม่ได้เลยคือ น้ำเก๊กฮวย แค่นำเก๊กฮวยมาต้มและผสมกับน้ำ เติมน้ำแข็งเพื่อความสดชื่น แค่นี้ก็ได้เมนูคลายร้อนแล้ว แต่ที่อยากให้ระวังเลยก็คือน้ำตาล หมอเจดแนะนำว่า ทำเองดีที่สุด และหลีกเลี่ยงการเติมน้ำตาล

4. กาแฟ

กาแฟที่หมอเจดแนะนำคือ กาแฟดำ นอกจากจะเป็นตัวช่วยในการทำ IF จะช่วยทำให้ตื่นตัว และมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น เช้าๆ แบบนี้ ได้กาแฟสักแก้ว รับรองสดชื่นแน่นอน สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงก็คือ พวกกาแฟใส่น้ำตาล น้ำเชื่อม นม หรือครีมเทียม

5. น้ำผสมอุทัยทิพย์

ประโยชน์ของอุทัยทิพย์ นอกจากวัยรุ่น จะนำมาใช้ทาปาก ทาแก้ม แต่ในความเป็นจริงแล้ว อุทัยทิพย์ ใช้ผสมน้ำดื่ม ประกอบไปด้วย ส่วนผสมของสมุนไพรหลายอย่าง หลักๆ แล้ว ช่วยเรื่อง ลดความกระหายน้ำ ลดความร้อนในร่างกาย และที่สำคัญ กลิ่นหอมมากด้วย


สงกรานต์สยาม 2567 คลื่นมหาชนเนืองแน่น ร่วมสาดน้ำคลายร้อน ชุ่มฉ่ำความสุข

เทศกาลสาดน้ำสงกรานต์ 2567 ของวันที่ 14 เมษายน ซึ่งเป็นวันที่สองของการเล่นน้ำที่บริเวณสยามสแควร์ คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ หลากหลายช่วงวัย ซึ่งเป็นไปอย่างสนุกสนาน โดยมีบริการน้ำสะอาดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นแบบไม่อั้น

บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์ วันที่สอง บริเวณพื้นที่สยามสแควร์ เขตปทุมวัน กทม. ซึ่งมาในธีม “สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็นเป็นสนุก” เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติรวมตัวเล่นน้ำชุ่มฉ่ำไปด้วยความสุข แม้ว่าสภาพอากาศจะร้อนจัดก็ตาม

บริเวณพื้นที่เล่นน้ำของสงกรานต์สยาม 2567 เจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวให้แต่งกายอย่างมิดชิด ทั้งผู้ชายและผู้หญิง นอกจากนี้ยังมีกฎความสนุกของการเล่นน้ำสงกรานต์อื่นๆ เช่น ห้ามประแป้ง การพกพาของมีคม หรืออาวุธ การใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูง และห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ตามจุดต่างๆ ของสยามสแควร์ มีบริการน้ำสะอาดให้นักท่องเที่ยวได้เล่นแบบไม่อั้นตลอดเส้นทาง และยังมีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งสไลเดอร์ยักษ์ อุโมงค์น้ำพุ ปาร์ตี้โฟมให้ได้ร่วมสนุก และมีบริการร้านอาหารกว่า 30 ร้านค้า

สงกรานต์สยาม ผ้าขาวม้า อยู่เย็นเป็นสนุก จัดขึ้นทั้งหมด 3 วัน 15 เมษายน 2567 เป็นวันสุดท้าย