

กรมการพัฒนาชุมชน เดินหน้ายกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน “จักสานไทย” สู่สากล เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน ด้วยการจัดโครงการยกระดับงานหัตถกรรมชุมชน “จักสาน” สู่ตลาดสากล ภายใต้โครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ณ ห้องฟีนิกซ์ 1 – 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยนายสุรศักดิ์ อักษรกุล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน มอบหมายให้นายวรงค์ แสงเมือง รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดงาน กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่มีผลิตภัณฑ์งานจักสาน ระดับ 1 – 5 ดาว จำนวน 35 กลุ่ม/ราย ดำเนินการระหว่างวันที่ 18 – 19 ตุลาคม 2568
ถือเป็นการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ในการยกระดับผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมจักสาน โดยได้รับเกียรติจากคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ อาทิ ดร.ศรินดา จามรมาน ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก , คุณธนันท์รัฐ ธนเสฎฐการย์ ที่ปรึกษาโครงการผ้าไทยใส่ให้สนุก, คุณจิรัฏฐ์ ทรัพย์พิศาลกุล สไตล์ไดเรกเตอร์นิตยสาร Vogue , คุณศิริชัย ทหรานนท์ นักออกแบบและเจ้าของแบรนด์ THEATRE , คุณภูภวิศ กฤตพลนารา นักออกแบบเจ้าของแบรนด์ ISSUE, ดร.กรกลด คำสุข รักษาการผู้อำนวยการสำนักวิชาการสร้างสรรค์ วิทยาลัยอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, ผศ.ดร.รวิเทพ มุสิกะปาน ประธานหลักสูตรแฟชั่น สิ่งทอ และเครื่องตกแต่ง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ร่วมถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้แก่ กลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมโครงการฯ...
ทั้งนี้ ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่เข้าร่วมโครงการฯ จะได้รับการยกระดับพัฒนางานจักสาน ให้เป็นผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ต่อยอดจากภูมิปัญญาดั้งเดิมด้วยแนวคิด Sustainable Fashion : แฟชั่นแห่งความยั่งยืน ตอบสนองความต้องการของตลาดสากล พร้อมได้รับการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมจักสานไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติ เป็นการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ สามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้แก่ ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP และชุมชนได้อย่างยั่งยืน
ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาว วันที่ 23 ตุลาคมนี้ และเมื่อลมหนาวมา ท้องฟ้าแจ่มใสก็เหมาะที่จะดูดาวกันแล้ว ซึ่งงานเทศกาลชมดาว ที่ NARIT จัดขึ้นในปีนี้เริ่มวันเสาร์ที่ 1 พฤศจิกายน 2568 แล้ว มีรายละเอียด 10 กิจกรรมดูดาวที่น่าสนใจ ทั้งดาวตก ไปจนถึงพระจันทร์ดวงใหญ่มาก ใกล้โลกมากที่สุดของปีนี้ ในวันลอยกระทง 2568 นี้ วันเสาร์ที่ 1 พ.ย. 2568 เปิดเทศกาลดูดาวรับลมหนาว เวลา 18:00-22:00 น. เป็นการเปิดฤดูกาลดูดาวครั้งแรกของปีในธีม “Halloween Starry Night” ชวนแต่งกายฮาโลวีนร่วมส่องดาว และวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์หลากหลายขนาด ท่ามกลางเสียงดนตรีไพเราะขับกล่อมตลอดงาน
วันที่ 3 - 4 พฤศจิกายน 2568 Starry Night over Chiang Mai เวลา 17:00-22:00 น. ในธีม Moon Night Party in the Park ชวนเปิดประสบการณ์ดูดาว ชมเดือน ใจกลางสวน อบจ. เชียงใหม่ กับคาราวานกล้องโทรทรรศน์กว่าครึ่งร้อย และหลากหลายกิจกรรมดาราศาสตร์ ภายในงานปลายฝนต้นหนาว ดูดาวฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ผู้สนใจลงทะเบียนร่วมงาน พร้อมดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 วันลอยกระทง จันทร์เต็มดวง แบบ Super Full Moon ดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี คืนลอยกระทง วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน เวลา 18:00-22:00 น. ชวนแต่งกายชุดไทยและพื้นเมืองธีม “ลอยกระทง” ชมดวงจันทร์เต็มดวงใกล้โลกที่สุดในรอบปี พร้อมร่วมกิจกรรมลอยกระทงดิจิทัลในอวกาศ เฉพาะที่อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ ส่วนภูมิภาคพบกันที่ หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา
วันที่ 14 - เช้า 15 ธันวาคม 2568 ฝนดาวตกเจมินิดส์ เริ่มชมปรากฏการณ์ได้เวลา 20:00 น. เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้า อัตราการตกสูงสุดประมาณ 150 ดวงต่อชั่วโมง ไร้แสงจันทร์รบกวน ชวนร่วมนอนนับฝนดาวตก และชมวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ที่เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา ติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมได้ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
วันที่ 27 - 28 ธันวาคม 2568 NARIT Night at the Museum 2025 เวลา 18:00-22:00 น. เปิดนิทรรศการดาราศาสตร์ ท้องฟ้าจำลองรอบพิเศษยามค่ำคืน และกิจกรรมดูดาว พร้อมร่วมฉลองเทศกาลคริสต์มาสท่ามกลางหมู่ดาวพร่างพราวและลมหนาวปลายปี พร้อมกัน 5 แห่ง ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ ภูมิภาค นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา
วันเสาร์ที่ 10 มกราคม 2569 NARIT AstroFest 2026 คืนดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี เวลา 09:00-22:00 น. มหกรรมดาราศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ในวันเด็กแห่งชาติ หนึ่งปีมีเพียงครั้งเดียวกับการเปิดบ้านอุทยานดาราศาสตร์สิรินธร พิเศษ! ช่วงค่ำ ชวนชมปรากฏการณ์ “ดาวพฤหัสบดีใกล้โลกที่สุดในรอบปี” ส่วนภูมิภาคพบกันได้ที่หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา
วันเสาร์ที่ 24 มกราคม 2569 Starry Night over Korat เวลา 18:00-22:00 น. ณ จังหวัดนครราชสีมา สัมผัสความมหัศจรรย์ของท้องฟ้ายามค่ำคืน กลางเมืองโคราช
วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2569 และวันเสาร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ 2569 TNO Open House 2026 เปิดบ้านหอดูดาวแห่งชาติ บนดอยอินทนนท์ จ. เชียงใหม่ สัมผัสเทคโนโลยีกล้องโทรทรรศน์ขนาด 2.4 เมตร ใหญ่และทันสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และกล้องโทรทรรศน์ขนาด 1 เมตร ชมวัตถุห้วงอวกาศลึกและดาวเคราะห์ด้วยตาเปล่าผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาดใหญ่ กำลังขยายมากกว่าตามนุษย์ถึง 90,000 เท่า จัดเพียง 2 ครั้ง/ปี จำกัดรอบละ 120 คน เฉพาะกิจกรรมนี้ ค่าสมัคร 300 บาทต่อคน เปิดรับสมัคร 1 พฤศจิกายน 2568 ทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (ในช่วง Live เวลา 20:00 น. เป็นต้นไป)
วันอังคารที่ 3 มีนาคม 2569 จันทรุปราคาเต็มดวงเหนือฟ้าเมืองไทย เวลา 18:00-22:00 น. ชวนชมปรากฏการณ์ “จันทรุปราคาเต็มดวง” สังเกตได้ด้วยตาเปล่าทุกภูมิภาคทั่วไทย NARIT เตรียมจัดสังเกตการณ์พร้อมกัน 5 แห่ง ณ อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ. แม่ริม จ. เชียงใหม่ และหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติฯ นครราชสีมา ขอนแก่น ฉะเชิงเทรา และสงขลา
นอกจากนี้ NARIT Public Night ยังเปิดดูดาวทุกคืนวันเสาร์ กิจกรรมดูดาวสำหรับประชาชน ชมวัตถุท้องฟ้าผ่านกล้องโทรทรรศน์ขนาด 0.7 เมตร และกล้องโทรทรรศน์ขนาดต่าง ๆ อีกหลายชนิด พร้อมแนะนำการดูดาวเบื้องต้น ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 18:00-22:00 น. ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย
อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ (พฤศจิกายน - พฤษภาคม ของทุกปี) เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป
หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา นครราชสีมา ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) (เปิดให้บริการตลอดปี)
หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ขอนแก่น ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น (เปิดให้บริการตลอดปี)
หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ฉะเชิงเทรา ตำบลวังเย็น อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา (เปิดให้บริการตลอดปี)
หอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา ตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา (เปิดให้บริการตลอดปี)
ที่มา : NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ
ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและพิษวิทยาได้ออกมาเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการบริโภคพืชผักบางชนิดที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรับประทานแบบดิบ เนื่องจากพืชเหล่านั้นมีสารพิษตามธรรมชาติในกลุ่ม "ไซยาโนไกลโคไซด์ (Cyanogenic Glycosides)" ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็น "ไซยาไนด์" ที่มีอันตรายต่อร่างกายและอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ หากได้รับในปริมาณมาก
พืชผักที่มีไซยาไนด์ตามธรรมชาติ (ต้องระวังเป็นพิเศษ)
มันสำปะหลัง (Cassava): มีสารพิษหลักคือ ลินามาริน (Linamarin) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีรสขม (ก้านเขียว) จะมีปริมาณไซยาไนด์สูงกว่าชนิดหวาน
หน่อไม้ (Bamboo Shoots): หน่อไม้ดิบทุกชนิดมีสารไซยาไนด์ในปริมาณสูง
ถั่วลิมา (Lima Beans): เป็นถั่วบางชนิดที่มีสารก่อไซยาไนด์
อัลมอนด์ชนิดขม (Bitter Almonds): มีสาร อะมิกดาลิน (Amygdalin) สูง ซึ่งจะปล่อยไซยาไนด์ออกมาเมื่อถูกบดหรือเคี้ยว (ต่างจากอัลมอนด์หวานที่ปลอดภัยกว่า)
สบู่ดำ (Jatropha curcas): เป็นพืชที่มีพิษรุนแรงและ ห้ามรับประทานโดยเด็ดขาด
คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ: วิธีกำจัดพิษไซยาไนด์ในอาหาร
แม้พืชเหล่านี้จะมีพิษ แต่ร่างกายมนุษย์สามารถขับสารพิษออกได้เองหากได้รับในปริมาณน้อย และสารพิษส่วนใหญ่สามารถทำลายได้ด้วย "ความร้อน" และ "การแปรรูป"
มาตรการลดปริมาณไซยาไนด์ที่แนะนำพืชวิธีลดพิษที่ถูกต้อง
มันสำปะหลังการปอกเปลือกและต้ม/อบ: ควรปอกเปลือกออกให้หมด (เพราะสารพิษอยู่ใต้เปลือกมาก) จากนั้นนำไปหั่น/สับ และต้มในน้ำเดือดจนนิ่ม ควรเปลี่ยนน้ำต้มทิ้งหลายครั้ง เพื่อให้สารพิษละลายออกไป
หน่อไม้การต้ม: ต้องนำมาต้มในน้ำเดือดนานอย่างน้อย 10-15 นาที หรือจนกว่าจะนิ่ม (ห้ามรับประทานหน่อไม้ดิบเด็ดขาด) การดองก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยลดพิษได้ แต่ยังคงต้องปรุงสุกอีกครั้งก่อนบริโภค
อัลมอนด์ชนิดขมการให้ความร้อน/การแปรรูป: มักไม่นิยมรับประทานดิบ ควรนำไปผ่านกระบวนการแปรรูป เช่น การคั่ว หรือบดที่ใช้ความร้อน เพื่อทำลายสารพิษ
ถั่วลิมาการต้ม: ควรนำถั่วมาแช่น้ำและต้มในน้ำเดือดจนสุก
ข้อควรระวังพิเศษสำหรับ "สบู่ดำ": พืชชนิดนี้แม้จะเคยมีข่าวลือว่าสามารถนำมาใช้บริโภคหรือทำยาได้ แต่เนื่องจากมีสารพิษรุนแรง การรับประทานอาจนำไปสู่พิษเฉียบพลันที่ทำลายระบบทางเดินอาหารและระบบประสาทได้ จึงห้ามนำมารับประทานทุกส่วนโดยเด็ดขาด!
22 ตุลาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ (Louvre Museum) กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งในเช้าวันนี้ (22 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากต้องปิดทำการชั่วคราวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (19 ต.ค.) เนื่องจากเหตุโจรกรรมเครื่องประดับราชวงศ์ฝรั่งเศสที่สร้างความเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้ อย่างไรก็ตาม ห้องจัดแสดง อพอลโล แกลเลอรี (Apollo Gallery) ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโจรกรรม ยังคงปิดให้บริการเพื่อการสืบสวนเพิ่มเติม
รายงานระบุว่า เครื่องประดับราชวงศ์ฝรั่งเศสจำนวน 8 ชิ้น ถูกโจรกรรมโดยกลุ่มคนร้าย 4 คน ซึ่งขณะนี้ยังคงหลบหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 100 นาย กำลังเร่งติดตามเบาะแสเพื่อจับกุมผู้ต้องสงสัยและนำของมีค่ากลับคืนมา
แหล่งข่าวในฝรั่งเศสเปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงเวลา ประมาณ 9.30–9.40 น. ของวันอาทิตย์ (ตามเวลาท้องถิ่น) โดยกลุ่มคนร้ายขี่ สกู๊ตเตอร์ เดินทางมาถึงพิพิธภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ เลื่อยยนต์ขนาดเล็ก ก่อนใช้ ลิฟต์ขนส่งสินค้า เข้าถึงห้องจัดแสดงที่หมายตาไว้ จากนั้นทำการโจรกรรมและหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่พิพิธภัณฑ์ยืนยันว่า ขณะนี้มีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยทั่วพื้นที่ และให้ความร่วมมือกับตำรวจอย่างเต็มที่เพื่อเร่งคลี่คลายคดี พร้อมย้ำว่าการเปิดให้บริการอีกครั้งในวันนี้จะอยู่ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลก
เอเอฟพี.รายงาน เมื่อวันพุธที่ 22 ตุลาคม 2568 กล่าวว่า หลังจากปิดให้บริการไป 3 วันเพราะเกิดเหตุโจรกรรมเครื่องประดับราชวงศ์อันล้ำค่า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีสกลับมาเปิดให้เข้าชมได้อีกครั้ง
ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งเป็นเวลาเปิดทำการปกติของพิพิธภัณฑ์ ผู้เข้าชมกลุ่มแรกเริ่มเดินเข้าสู่สถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลกแห่งนี้ แม้ว่าทางพิพิธภัณฑ์ระบุว่าหอศิลป์อพอลโลซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุโจรกรรมเมื่อวันอาทิตย์ ยังคงปิดให้บริการอยู่
การปล้นอย่างอุกอาจในเวลากลางวันแสกๆ ไม่นานหลังจากพิพิธภัณฑ์เปิดทำการ ก่อให้เกิดความเสียหายโดยประมาณ 88 ล้านยูโร (ประมาณ 3,350 ล้านบาท) ซึ่งอัยการปารีสระบุว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่สามารถเทียบได้กับการสูญเสียมรดกทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศส
เจ้าหน้าที่สืบสวนจำนวนมากกำลังตามหาตัวผู้กระทำความผิด โดยตั้งสมมติฐานว่าเป็นกลุ่มอาชญากรต่างชาติที่ปีนบันไดจากบนรถบรรทุกเพื่อบุกเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ และทำมงกุฎประดับเพชรหล่นไว้ขณะหลบหนี
พวกเขาขโมยของล้ำค่าไปได้ 8 ชิ้น รวมถึงสร้อยคอมรกตและเพชรที่จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 พระราชทานแก่จักรพรรดินีมารี-หลุยส์ และรัดเกล้าที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นของจักรพรรดินีเออเฌนี ซึ่งประดับด้วยเพชรเกือบ 2,000 เม็ด
นักท่องเที่ยวต่างผิดหวังที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ใจกลางกรุงปารีสในวันรุ่งขึ้นหลังจากเกิดเหตุโจรกรรม และพิพิธภัณฑ์ยังคงปิดทำการในวันอังคาร แต่ในวันพุธ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็กลับมาต้อนรับพวกเขาอีกครั้ง
เมื่อปีที่แล้ว พิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลกได้ต้อนรับผู้คน 9 ล้านคนเข้าสู่โถงทางเดินและห้องจัดแสดงอันกว้างขวาง
การโจรกรรมครั้งนี้จุดชนวนให้เกิดข้อถกเถียงเกี่ยวกับการขาดการรักษาความปลอดภัยในพิพิธภัณฑ์ของฝรั่งเศสอีกครั้ง หลังจากที่สถาบันอื่นๆ อีกสองแห่งถูกโจมตีเมื่อเดือนที่แล้วโลรองต์ นูเนซ รัฐมนตรีมหาดไทยกล่าวกับสื่อท้องถิ่นว่า "การสืบสวนกำลังดำเนินอยู่โดยเจ้าหน้าที่มากกว่าร้อยนาย ซึ่งผมมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าเราจะพบตัวผู้กระทำความผิด"
ลอรองซ์ เดส์ คาร์ส ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ฯยังไม่ได้แถลงต่อสาธารณะใดๆ นับตั้งแต่เกิดการโจรกรรม และมีกำหนดปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมาธิการวัฒนธรรมของวุฒิสภา ในเวลา 16.30 น.
เดส์ คาร์สซึ่งกลายเป็นผู้หญิงคนแรกที่บริหารพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในปี 2021 คาดว่าจะถูกสอบสวนเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยที่หอศิลป์อพอลโล ซึ่งเป็นที่เก็บรักษาอัญมณีของราชวงศ์
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา พิพิธภัณฑ์ได้ออกมาตอบโต้คำวิจารณ์ที่ว่าตู้โชว์ที่ใช้ปกป้องเครื่องประดับที่ถูกขโมยนั้นมีความเปราะบาง โดยระบุว่าตู้โชว์เหล่านี้ติดตั้งในปี 2019 และแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้นอย่างมาก.