ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



5 อาหารเช้า หยุดปัญหาผมบาง-ผมร่วง แพทย์ทดลองเอง เห็นผลจริง ในเดือนเดียว

แพทย์ทดลองเอง ทานอาหารเช้า 5 อย่าง หยุดปัญหาผมบาง-ผมร่วง กระตุ้นรากผม เห็นผลจริง ในเดือนเดียว

ดร.ชีรีน ออกมาเผยเคล็ดลับรักษาปัญหาผมบาง ผมร่วง จากประสบการณ์ตรงที่เธอประสบปัญหาผมบาง ซึ่งสามารถทำตามได้ง่ายไม่ยากใช้เวลาเพียงเดือนเดียว

ตามข้อมูลของ NHS ระบุว่า ผู้หญิงประมาณ 8 ล้านคน และผู้ชายมากกว่า 6 ล้านคนในสหราชอาณาจักรประสบปัญหาผมร่วงหรือผมบางในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

แม้ว่าปัญหาผมบางในมั้งผู้หญิงและผู้ชายอาจจะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่สำหรับผู้ประสบปัญหาเหล่านี้อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง

โดย ดร.ชีรีน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ที่เป็นที่รู้จักจากการแบ่งปันเคล็ดลับเกี่ยวกับสุขภาพ ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอผ่านช่องทางติ๊กต็อก เปิดใจถึงเรื่องปัญหาผมบาง บริเวณข้างขมับศีรษะทั้งสองข้างของเธอ พร้อมแชร์วิธีที่เธอรักษาให้ผมกลับมาหนาขึ้นภายในเวลาเพียงเดือนเดียวง่ายๆ แค่ทานอาหารเช้า 5 อย่างนี้

ในคลิปอธิบายว่า เธอไปตรวจเลือดมา และผลตรวจเธอพบว่า เธอขาดธาตุเหล็กจริงๆ และระดับเฟอร์ริติน (ปริมาณธาตุเหล็กสะสมในร่างกาย เป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดของภาวะขาดธาตุเหล็ก) ของเธอต่ำมาก โดยธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการผลิตฮีโมโกลบิน ซึ่งช่วยให้เม็ดเลือดแดงนำออกซิเจนไปทั่วร่างกาย รวมถึงไปที่หนังศีรษะและรูขุมขน

เมื่อร่างกายมีธาตุเหล็กต่ำ ร่างกายอาจให้ความสำคัญกับอวัยวะที่สำคัญมากกว่า อย่าง หัวใจและปอด มากกว่าการเจริญเติบโตของเส้นผม ซึ่งหากธาตุเหล็กต่ำอาจส่งผลให้รูขุมขนอ่อนแอลง และเส้นผมงอกใหม่ช้าลงได้ ด้วยเหตุนี้เส้นผมจึงอาจหลุดร่วงหรือยาวช้าลง

การขาดธาตุเหล็กอาจทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่า ภาวะผมร่วงแบบเทโลเจน หรือภาวะผมร่วงผิดปกติ เกิดจากการที่เส้นผมจำนวนมากเข้าสู่ระยะพัก (Telogen phase) พร้อมกัน ทำให้ผมร่วงมากกว่าปกติ รวมถึงอาการอื่นๆ อาจรวมถึงความเหนื่อยล้าหายใจถี่หัวใจเต้นอย่างเห็นได้ชัด และเกิดผิวซีด

ภายใน “หนึ่งเดือนถึงหกสัปดาห์” หลังจากที่ ดร.ชีรีนรับประทานอาหารเสริมธาตุเหล็กและ “ฟื้นฟูระดับธาตุเหล็ก” ในร่างกายด้วยการปรับการทานอาหาร เธอก็เริ่มสังเกตเห็นการเจริญเติบโตของเส้นผม

5 อาหารเช้าที่มีธาตุเหล็กสูง

1.ผักโขม (มีปริมาณธาตุเหล็ก 2.7 มก. ต่อ 100 กรัม)

2.ไข่ (มีปริมาณธาตุเหล็ก 0.9 มก. ต่อฟอง)

3.เต้าหู้ (ธาตุเหล็ก 1.5 มก. ต่อ 100 กรัม)

4.ธัญพืชเสริมธาตุเหล็ก (มีปริมาณธาตุเหล็ก 10 มก. ต่อ 100 กรัม อาจแตกต่างกันไป)

5.ถั่ว (มีปริมาณธาตุเหล็ก 5 มก. ต่อ 100 กรัม เมื่อปรุงสุก)

ตามข้อมูล NHS แนะนำว่า ผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ควรได้รับธาตุเหล็กประมาณ 8.7 มิลลิกรัมต่อวัน สำหรับสตรีที่มีอายุระหว่าง 19-50 ปี ควรบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณ 14.8 มิลลิกรัมต่อวัน เนื่องจากการสูญเสียธาตุเหล็กในระหว่างมีประจำเดือน เมื่ออายุ 50 ปีขึ้นไป ความต้องการธาตุเหล็กของผู้หญิงจะลดลงเหลือ 8.7 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเท่ากับผู้ชา...


‘5 กลอุบาย’ หลอกดูดเงินเหยื่อออนไลน์

สน.รอตรวจ โดย บิ๊กสลีป ว่าด้วยเรื่อง เปิด 5 กลอุบายในช่วงนี้ที่มิจฉาชีพใช้บ่อยในการหลอกลวงออนไลน์ หากไม่ตรวจสอบหรือชะล่าใจไปแม้แต่นิดเดียวเงินอาจเกลี้ยงบัญชี เพราะในเมื่อรัฐยังจัดการแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้เราก็จำเป็นต้องป้องกันตัวเอง

“ในบางทีโลกนี้ก็เหมือนเล่นตลกกับชีวิตเกินไป ส่งแต่เรื่องแต่ปัญหาอะไรไม่รู้มาให้คอยแก้ตลอด”

ในเมื่อทางการและหน่วยงานรัฐยังไม่สามารถจัดการกับพวกมิจฉาชีพออนไลน์หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้อย่างชัดเจน ประชาชนคนคนธรรมดาอย่างเราๆก็จำเป็นจะต้องเซฟตี้ตัวเอง หาวิธีป้องกันเงินของเราถูกดูดไปจากบัญชีด้วยตัวเอง

ปกติภัยอาชญากรรมออนไลน์ที่ใช้หลอกลวงเหยื่อจะมีวิธีการที่หลากหลาย แต่ถ้าเป็นช่วงระยะหลังมานี้พบว่ามี 5 เคสสำคัญที่มิจฉาชีพเลือกใช้เอามาเป็นกลอุบายลวงเงินของประชาชน

กลอุบายที่1 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล หรือวัตถุประสงค์อื่นๆ โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้า ผู้เสียหายสนใจทักไปสอบถามข้อมูลเพิ่มผ่านทาง Messenger Facebook และเข้ากลุ่ม Line

จากนั้นมิจฉาชีพแจ้งว่าต้องจ่ายค่าสมัครสมาชิกก่อนจึงจะโพสต์ขายสินค้าได้ ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินไป ต่อมามีการชักชวนให้โอนเงินลงทุนเพื่อรับค่าคอมมิชชัน แต่ไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

กลอุบายที่ 2 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยผู้เสียหายพบโฆษณาสอนการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จากเว็บไซต์ ผู้เสียหายสนใจจึงสอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line จากนั้นชักชวนให้เข้า Group Line สอนการลงทุนและให้ติดตั้งแอปพลิเคชันเพื่อเปิดพอร์ตการลงทุน

ครั้งแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้จริง มิจฉาชีพแนะนำให้โอนเงินลงทุนเพิ่มเพื่อได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น ต่อมาผู้เสียหายต้องการถอนเงิน แต่ไม่สามารถถอนได้ผู้เสียหายเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก

กลอุบายที่ 3 คดีหลอกลวงให้ลงทุนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ โดยผู้เสียหายพบโฆษณาเชิญชวนเทรดหุ้นรวยง่ายผ่านช่องทาง Facebook ผู้เสียหายสนใจทักไป สอบถามรายละเอียดและเพิ่มเพื่อนทาง Line มิจฉาชีพแนะนำและสอนขั้นตอนวิธีการต่าง ๆ ในการเทรดหุ้น ผู้เสียหายจึงโอนเงินเพื่อเทรดหุ้น

ในช่วงแรกสามารถถอนเงินจากระบบได้ เมื่อโอนเงินเพิ่มและเทรดหุ้นได้จำนวนมากขึ้น แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ ตรวจสอบทราบภายหลังจากหน้าเพจ พบว่ามีการแสดงความคิดเห็นด้วยไอคอนรูปหน้าอารมณ์โกรธ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก

กลอุบายที่ 4 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล โดยผู้เสียหายจะได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านข้อความทางโทรศัพท์ อ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ แจ้งว่ามีกิจกรรมพิเศษแจกอุปกรณ์เครื่องครัว ให้เพิ่มเพื่อนทาง Line ชักชวนทำกิจกรรมโอนเงินเพื่อรับค่าตอบแทนที่สูงขึ้น

เมื่อผู้เสียหายสนใจจึงโอนเงินไป ช่วงแรกสามารถถอนเงินออกมาได้จริง จึงโอนเงินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ เมื่อสอบถามไปยังมิจฉาชีพแจ้งว่าผู้เสียหายทำการถอนเงินบ่อยเกินไปทำให้ระบบล็อก ต้องโอนเงินไปเพื่อเปิดระบบให้ทำการแก้ไข ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนเองถูกมิจฉาชีพหลอก

และกลอุบายที่ 5 คดีหลอกลวงให้โอนเงินเพื่อทำงานหารายได้พิเศษ โดยผู้เสียหายได้รับการติดต่อจากมิจฉาชีพผ่านช่องทาง Facebook ชักชวนทำงานหารายได้พิเศษ โดยการโอนเงินสำรองทุนในการสั่งสินค้ามาจำหน่ายเพื่อรับค่าคอมมิชชัน ผู้เสียหายสนใจจึงสอบถามรายละเอียดผ่านทาง Messenger Facebook แล้วเพิ่มเพื่อนทาง Line ทำตามขั้นตอนที่มิจฉาชีพแนะนำ

ช่วงแรกได้รับเงินจริง จึงโอนเงินไปลงทุนเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถถอนเงินได้ มิจฉาชีพอ้างว่ายอดเงินมูลค่าสูงต้องชำระค่าภาษีก่อน จากนั้นโอนเงินไปแล้วก็ยังไม่สามารถถอนได้ ผู้เสียหายจึงเชื่อว่าตนถูกมิจฉาชีพหลอก

จะเห็นได้ว่า มิจฉาชีพ ใช้วิธีการหลอกลวงผู้เสียหาย ด้วยการหลอกให้ลงทุน เพื่อหารายได้พิเศษ หรือหลอกลวงชวนเทรดหุ้น และซื้อสินค้าเพื่อการลงทุน ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย คือ Facebook และส่วนใหญ่มีการให้เพิ่มเพื่อนทาง Line เพื่อสมัครเข้าร่วมลงทุน และมีการใช้ข้ออ้างต่างๆ เพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง

เมื่อผู้เสียหายต้องการถอนเงิน มิจฉาชีพจะกล่าวอ้างว่ามีการทำผิดกฎไม่สามารถถอนเงินได้ ขอย้ำว่าการลงทุนในธุรกิจที่ไม่มีการรับรองโดยหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ เป็นการเสี่ยงต่อการถูกหลอกลวง ผู้เสียหายจึงต้องตรวจสอบและติดต่อสอบถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสอบถามรายละเอียดให้แน่ชัดก่อนที่จะมีการดำเนินการใดๆ

ที่สำคัญขอให้ยังยึดหลักป้องกันภัย 4 ข้อเอาไว้ให้มั่นนั่นคือ 1.ไม่กดลิงก์ 2.ไม่เชื่อ 3.ไม่รีบ และ 4.ไม่โอน ...


ออกข้อบัญญัติใหม่ควบคุมการเลี้ยงสัตว์ฯ

เรื่องนี้คนเลี้ยงสัตว์ในกรุงเทพฯ จำเป็นต้องรู้จริง ๆ และท่านที่อยู่ในต่างจังหวัดก็ต้องรับทราบไว้ ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นการนำร่องก่อนก็ได้ เรื่องร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ จำกัดจำนวนการเลี้ยงโดยดูขนาดบ้าน รวมเรื่องการฝังไมโครชิป ดูแลสุนัขสายพันธ์ดุร้าย

ซึ่งตั้งแต่ช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในการประชุมวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ที่มีสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คณะผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการกรุงเทพมหานคร ร่วมประชุม ณ ห้องประชุมสภากรุงเทพมหานคร อาคารไอราวัตพัฒนา ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร นายนภาพล จีระกุล สก.เขตบางกอกน้อย ในฐานะประธานกรรมการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. … ได้รายงานผลการพิจารณาร่างข้อบัญญัติฯ ของคณะกรรมการวิสามัญฯ โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ประกาศใช้เป็นข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร

โดยได้มีการประชุมร่วมกันใช้เวลารวมทั้งสิ้น 20 ครั้ง ประกอบกับได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนแอปพลิเคชัน Google Forms รวมทั้งรับฟังความคิดเห็นเป็นหนังสือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมควบคุมโรค สำนักงานปศุสัตว์พื้นที่ กรุงเทพมหานคร สัตวแพทยสภา คณะสัตวแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชื่อดังหลายแห่ง และสมาคม-มูลนิธิต่าง ๆ หลังรับฟังความคิดเห็นจากองค์กรด้านสัตว์ต่าง ๆ

สรุปว่าสมควรกำหนดมาตรการควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ โดยมีมติเห็นชอบร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องดังกล่าว โดยมีผลบังคับใช้วันถัดไปหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 360 วัน หวังควบคุมการเลี้ยงสัตว์ ลดปัญหาสัตว์จรจัด สร้างความปลอดภัย และลดปัญหาความเดือดร้อนรำคาญจากสัตว์เลี้ยง หลักการสำคัญของร่างข้อบัญญัตินี้ คือกำหนดขนาดพื้นที่ขั้นต่ำสำหรับการเลี้ยงสัตว์ในแต่ละประเภท เพื่อลดปัญหามลพิษ เช่น กลิ่นไม่พึงประสงค์และเสียงรบกวน ยกตัวอย่างเจ้าของอยู่ห้องเช่าแต่เลี้ยงแมว มากกว่า 50 ตัว สิ่งที่ตามมาย่อมต้องเป็นกลิ่นไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังระบุให้สุนัขและแมวทุกตัวต้องได้รับการฝังไมโครชิปเพื่อเป็นการบันทึกข้อมูล และระบุเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างชัดเจน

มาตรการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดการทอดทิ้งสัตว์เลี้ยง ซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาสัตว์จรจัดในอนาคต หากสัตว์เลี้ยงใดก่อให้เกิดปัญหาหรือรบกวนผู้อื่น เจ้าหน้าที่สามารถติดตามและตักเตือนหรือดำเนินการตามกฎหมายได้ ในส่วนของสัตว์ดุร้ายที่อาจเป็นภัยต่อสาธารณชน หน่วยงานกรุงเทพมหานคร จะดำเนินการย้ายสัตว์ไปยังศูนย์ควบคุมและพักพิงสุนัขกรุงเทพมหานคร ที่ตั้งอยู่ในเขตประเวศ และสำหรับการจัดการกับสัตว์จรจัด กรุงเทพมหานครยังมีหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการทำหมันสัตว์ในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดจำนวนสัตว์จรจัดในชุมชน

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 29 แห่ง พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดย พ.ร.บ.การสาธารณสุข (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2560 ประกอบกับมาตรา 97 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 จึงจำเป็นต้องตราข้อบัญญัติกรุงเทพมหามหานครนี้ สาระสำคัญของร่างข้อบัญญัตินี้ ประกอบด้วย การเลี้ยงสัตว์ ห้ามมิให้ผู้ใด เลี้ยงสุนัขและแมวในที่หรือทางสาธารณะหรือในที่ของบุคคลอื่นโดยปราศจากความยินยอม การปล่อยสัตว์

สถานที่เลี้ยงสัตว์ การควบคุมการเลี้ยงสุนัขและแมว โดยให้กทม.เป็นเขตห้ามเลี้ยงสุนัขและแมว เกินจำนวนที่กำหนด พื้นที่อาคารชุดหรือห้องเช่า ตั้งแต่ 20-80 ตารางเมตรขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 1 ตัว หากเกิน เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว เนื้อที่ดินไม่เกิน 20 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว เนื้อที่ดิน 20-50 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 3 ตัว เนื้อที่ดิน 50-100 ตารางวา เลี้ยงได้ไม่เกิน 4 ตัว เนื้อที่ดิน 100 ตารางวาขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว กำหนดสุนัขควบคุมพิเศษ ได้แก่ พิตบูลเทอเรีย, บูลเทอเรีย, สเตฟอร์ดเชอร์ บูลเทอเรีย, ร็อตไวเลอร์ และ ฟิล่า บราซิเลียโร รวมถึงสุนัขที่มีประวัติทำร้ายคนหรือพยายามทำร้ายคน เมื่อออกนอกสถานที่เลี้ยงต้องใส่อุปกรณ์ครอบปาก ใช้สายจูงที่มั่นคงแข็งแรง และจับสายจูงห่างจากคอสุนัขไม่เกิน 50 เซนติเมตรตลอดเวลา เจ้าของต้องนำสัตว์เลี้ยงไปทำเครื่องหมายระบุตัวอย่างถาวรจากสัตวแพทย์

โดยการฝังไมโครชิปตามมาตรฐานที่ กทม. กำหนด พร้อมนำใบรับรองไปแจ้งเจ้าหน้าที่ ณ สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุขสำนักอนามัยหรือสำนักงาน ผู้ใดฝ่าฝืนข้อบัญญัติดังกล่าวจะมีโทษ หลังจากข้อบัญญัติฉบับนี้ประกาศใช้ ผู้เลี้ยงสัตว์จะต้องจดแจ้งจำนวนสัตว์เลี้ยง และกำหนดให้มีระยะเวลาผ่อนผัน 360 วัน เพื่อให้ผู้เลี้ยงสัตว์มีเวลาปรับตัว ก่อนเริ่มบังคับใช้บทลงโทษตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 หากมีการฝ่าฝืน ทั้งนี้ในกรณีของผู้ที่ต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อการผสมพันธุ์หรือประกอบธุรกิจ ก็สามารถยื่นขออนุญาตเพิ่มเติมได้ตามกฎหมาย

ตอนนี้เมื่อสำรวจสุนัขและแมวในชุมชนพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2567 มีสุนัขและแมว จำนวนทั้งสิ้น 198,688 ตัว สุนัขที่มีเจ้าของ 53,991 ตัว จรจัด 8,945 ตัว รวม 62,936 ตัว ส่วนแมวที่มีเจ้าของ 115,821 ตัว จรจัด 19,925 ตัว รวม 135,752 ตัว จากนี้ ฝ่ายเลขานุการสภากทม.จะเสนอร่างดังกล่าวให้ผู้ว่าฯ กทม. ลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยจะมีผลบังคับใช้วันถัดไปหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 360 วัน.... สามารถติดตามต่อได้ที่ : https://www.dailynews.co.th/articles/4090048/


ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่าง Gen Z ทั่วโลก ให้ความสำคัญทั้งสุขภาพกายและจิตใจ

การดูแลสุขภาพของ Gen Z ไม่ใช่แค่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตเท่านั้น แต่สุขภาพกายก็สำคัญเช่นกัน และพยายามดูแลตัวเองอย่างดี แต่ก็เจออุปสรรค ทั้งค่าใช้จ่าย และสื่อสารข้อมูลที่คลาดเคลื่อน

จากรายงานหัวข้อเรื่อง "Gen Z: เรียกร้องการเข้าถึงและการเปลี่ยนแปลงด้านการดูแลสุขภาพ" ที่สำรวจ Gen Z (อายุ 18-27 ปี) จำนวน 5,000 คนใน 10 ประเทศ และใช้ข้อมูลจาก Decipher Health ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ใหม่ของบริษัทเบอร์สันวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลและการเผยแพร่ข่าวสาร พบว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับทัศนคติด้านสุขภาพของ Gen Z ในปัจจุบัน

บทสรุปส่วนหนึ่งของผลสำรวจพบว่า หลังจากการระบาดของโควิด-19 Gen Z ให้ความสำคัญกับสุขภาพกายพอๆ กับการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิต คือ มีความกังวลด้านสุขภาพกายร้อยละ 56 และสุขภาพจิตร้อยละ 57 ขณะที่ให้ความสำคัญกับทั้งสองด้านเท่ากันที่ร้อยละ 59 ต่างจากความเชื่อทั่วไปที่มองว่า Gen Z สนใจเรื่องสุขภาพจิตมากกว่าสุขภาพกาย

ผลการวิจัยยังแสดงให้เห็นแนวโน้มสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพของ Gen Z ดังนี้

Gen Z ต้องการการดูแลสุขภาพของตนเองแม้ระบบน่าผิดหวัง : โดยร้อยละ 67 ของ Gen Z พอใจกับการดูแลสุขภาพของตนเอง แต่พบอุปสรรคด้านค่าใช้จ่าย การสื่อสารข้อมูลที่คลาดเคลื่อน และร้อยละ 46 รู้สึกว่าการได้รับความสนใจจากบุคลากรทางการแพทย์เป็นเรื่องยาก

Gen Z ยังคงเน้นการพบแพทย์แบบตัวต่อตัว : แม้เป็นคนยุคดิจิทัล แต่ยังไม่เชื่อมั่นข้อมูลสุขภาพออนไลน์และการรักษาทางไกล โดยร้อยละ 80 เคยพบข้อมูลสุขภาพที่ผิดพลาดทางออนไลน์ และมากกว่าร้อยละ 60 ชอบพบแพทย์แบบตัวต่อตัวมากกว่า เพราะรู้สึกได้รับการดูแลที่ดีกว่า

Gen Z เปิดรับข้อมูลจากบริษัทด้านการดูแลสุขภาพ : พร้อมรับฟังข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นประโยชน์ โดยร้อยละ 55 เชื่อว่าบริษัทด้านสุขภาพสามารถตอบสนองความต้องการได้

รายงานนี้ใช้ Decipher Health วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของข้อมูลที่มีผลต่อกลุ่ม Gen Z โดยระบบ AI นี้แสดงให้เห็นความสอดคล้องระหว่างผลการวิเคราะห์กับการสำรวจ ตัวอย่างเช่น การสำรวจพบว่ามีข้อมูลที่ผิดพลาดแพร่หลายในสื่อออนไลน์ที่ Gen Z ใช้ โดยเฉพาะในโซเชียลมีเดีย ซึ่ง Decipher Health ให้คะแนนความน่าเชื่อถือสูงถึงร้อยละ 92 แสดงว่ากลุ่ม Gen Z ยอมรับว่าเป็นความจริง

เมื่อขยายการวิเคราะห์ไปยังกลุ่ม Millennials และ Gen X พบว่ามีคะแนนความน่าเชื่อถือใกล้เคียงกัน (ร้อยละ 91 และ 89 ตามลำดับ) สะท้อนให้เห็นว่า Gen Z มีความกังวลคล้ายคลึงกับกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่วงการสาธารณสุขควรให้ความสำคัญ


เพื่อนตัวเล็ก - ‘เจ้าณเดชน์-ญาญ่า’ไก่หางยาว ชาวขอนแก่นเพาะพันธุ์ขาย...

หลังทราบว่ามีการเพาะพันธุ์ไก่หางยาวที่สุดในประเทศไทย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น พบ นายเฉลิมชัย มณีบุญ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 122 ม.9 บ้านหนองกุงโนนทัน ต.ดอนดั่ง อ.หนองสองห้อง จ.ขอนแก่น โดยที่สนามหญ้าด้านข้างบ้านพักเพาะเลี้ยงไก่รุ่นเล็กขนยังไม่ยาวราว 50 ตัว ส่วนไก่ที่มีหางยาวและมีขนระย้าเลี้ยงไว้หน้าบ้านเพื่อปล่อยให้หางยาวเป็นธรรมชาติและหางไม่พันกัน...

ไก่เพศผู้ชื่อ “เจ้าณเดชน์” อายุ 3 ปี 8 เดือน หางยาววัดได้ 3 เมตร 40 ซ.ม. เกาะอยู่บนคอนแบบสบายๆ ไม่ตื่นตกใจคนแปลกหน้า ส่วนขนระย้ายาวเมตรกว่า อีกตัวชื่อ “เจ้าทองคำ” เพศผู้เช่นกัน หางยาวเกือบ 2 เมตร ทั้งคู่เกาะอยู่บนคอนส่งเสียงขันเป็นระยะ...

นายเฉลิมชัยเล่าว่ารู้จักกับเพื่อนชาวญี่ปุ่น พูดคุยกันเรื่องการเลี้ยงไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่น หลังเพื่อนกลับไปประเทศญี่ปุ่นหิ้วไข่ไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่นกลับมาด้วย 12 ฟอง เป็นเงิน 30,000 บาท นำมาฟักที่บ้าน ได้ลูกไก่ทั้งหมด 7 ตัว ตัวผู้ 2 ตัว ตัวเมีย 5 ตัว จากนั้นซื้อหัวอาหารไก่ชนิดเม็ดมาเลี้ยงจนมีไก่หางยาวเพิ่มขึ้นหลายตัว นำภาพไก่หางยาวโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว มีนักธุรกิจชาวลาวมาติดต่อขอซื้อ พ่อ แม่ ลูก รวม 3 ตัว ในราคา 50,000 กว่าบาท นำกลับไปเลี้ยงที่ประเทศลาว...

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่าไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่นเลี้ยงง่าย เหมือนเลี้ยงไก่บ้านทั่วไป เมื่อขายก็มีราคาสูง นอกจากอาหารเม็ดแล้วอาจต้องหาแตงโม แตงกวา ข้าวคลุกน้ำแกงน้ำต้ม ที่มีปลาร้ามาให้ไก่กินบ้าง และต้องคอยดูแลขนที่ยาวออกมาปีละ 1 เมตร ถ้าไม่คอยดูแลขนจะหลุดและไม่สวยงาม อาบน้ำให้ไก่ทุกตัว 3 เดือนครั้ง โดยเฉพาะเจ้าณเดชน์ที่มีขนยาวที่สุด อาบน้ำแล้วเช็ดขนให้แห้งเพื่อไม่ให้พันกัน...

ผู้ที่สนใจเลี้ยงไก่พันธุ์ดังกล่าวติดต่อซื้อได้ที่นายเฉลิมชัย ไก่ที่เลี้ยงอยู่นั้นเป็นลูกของเจ้าณเดชน์และญาญ่า ติดต่อซื้อไก่หางยาวโบราณญี่ปุ่นได้ที่ 06-1041-9412

จักรพันธ์ นาทันริ...