ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ทีมแกะสลักน้ำแข็งไทย คว้าที่ 2 ในงาน International Snow Sculpture ครั้งที่ 49 ประเทศญี่ปุ่น

ไม่แพ้ชาติใดในโลก “ทีมนักแกะสลักหิมะ” ตัวแทนประเทศไทยได้คว้ารางวัลรองชนะเลิศ ในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 49” วันที่ 3 - 7 กุมภาพันธ์ 2568 ณ เมืองซัปโปโร จังหวัดฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น

งาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 49” งานการแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งประจำปีที่ประเทศญี่ปุ่น ณ เมืองซัปโปโร ซึ่งเป็นงานแกะสลักน้ำแข็งครั้งใหญ่ที่มีหลายประเทศเข้าร่วม รวมถึงตัวแทนประเทศไทยก็ได้เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ด้วย

ซึ่งการแข่งขันนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ส่งทีมนักแกะสลักเข้าร่วมการแข่งขันแกะสลักหิมะนานาชาติ ณ เมืองซัปโปโรในทุกปี เริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2534 จนถึงปัจจุบัน โดยประเทศไทยคว้ารางวัลชนะเลิศถึง 9 ครั้ง ซึ่งเป็นการคว้ารางวัลชนะเลิศติดต่อกัน 3 ปีซ้อน (Grand Champion) จำนวน 2 ครั้ง

ผลปรากฏว่าในปี 2568 นี้ ทีมนักแกะสลักหิมะตัวแทนประเทศไทยที่เข้าร่วมงานแข่งขัน ได้โชว์ศักยภาพอีกครั้ง คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ในงาน “International Snow Sculpture ครั้งที่ 49” รอบนี้ด้วย

ปีนี้ทีมแกะสลักน้ำแข็งไทยนั้น สร้างผลงานประติมากรรมที่ชื่อว่า “The World Water Festival” เป็นงานแกะสลักที่ถ่ายทอดเสน่ห์ไทย ผ่านวันปีใหม่ไทย หรือเทศกาลสงกรานต์ โดยผลงานออกมาในรูปแบบช้าง พร้อมเรื่องราวความผูกพันและอบอุ่นของช้างแม่ลูกให้คนทั่วโลกได้เห็น

ผลงานประติมากรรมหิมะที่ออกแบบอย่างวิจิตรครั้งนี้ ถ่ายทอดเอกลักษณ์ความเป็นไทยอย่างชัดเจนในเรื่องของความผูกพัน อบอุ่นในครอบครัวผ่าน ‘ช้างแม่-ลูก’ ซึ่งเป็นสัตว์มงคลคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย พร้อมอิริยาบถขณะเล่นสายน้ำในเทศกาลสงกรานต์อย่างสนุกสนาน สะท้อนถึงความมีชีวิตชีวาของประเพณีไทย

โดยเทศกาลสงกรานต์ ที่ถูกนำในรูปแบบประติมากรรมครั้งนี้ ขับเคลื่อนด้วยแรงบันดาลใจ ที่ประเพณีนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ หรือยูเนสโก (United Nations Educational, Scientific and Cultural Organization : UNESCO)

อีกทั้ง “ประเพณีสงกรานต์” นี้ ยังเป็นอีกหนึ่งในเทศกาลที่ถูกยกระดับให้เป็นเทศกาล Signature Thailand เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรม Soft Power สาขาเฟสติวัลและสาขาท่องเที่ยวเพื่อที่จะยกระดับประเพณีสงกรานต์ของไทยให้เป็นหนึ่งใน 10 เทศกาลสำคัญระดับโลก เพื่อสะท้อนศักยภาพและส่งเสริมภาพลักษณ์ประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก

ระหว่างรายการแข่งขันนี้ ททท. ยังได้จัดกิจกรรมแจกพวงกุญแจช้างไทยลายผ้าขาวม้าให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาร่วมชมรูปปั้นแกะสลักหิมะของประเทศไทย ด้วยกิจกรรมเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปตนเองกับรูปปั้นแกะสลักหิมะ พร้อมทั้งแชร์เป็นสาธารณะเผยแพร่ทางช่องทางโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นหนึ่งกิจกรรมในการต่อยอดประชาสัมพันธ์ให้ประเพณีไทยนี้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้นด้วย


พลังที่ซ่อนอยู่ของดอกไม้ : ดอกไม้ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึกได้อย่างไร

คุณเคยสังเกตไหมว่า การเดินเข้าไปในห้องที่เต็มไปด้วยดอกไม้สามารถทำให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นทันที? หรือการได้รับช่อดอกไม้ในวันธรรมดา ๆ สามารถเปลี่ยนวันนั้นให้กลายเป็นวันที่น่าจดจำได้? ดอกไม้ไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่งที่เพิ่มความสวยงามเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อจิตใจ ช่วยลดความเครียด สร้างความสุข และทำให้จิตใจสงบขึ้นอีกด้วย

การเชื่อมโยงทางอารมณ์นี้เองที่ทำให้ดอกไม้เป็นของขวัญที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาล ไม่ว่าจะใช้แสดงความรัก แสดงความยินดี หรือให้กำลังใจใครสักคน แต่ทำไมดอกไม้ถึงมีอิทธิพลต่ออารมณ์ของมนุษย์มากขนาดนี้?

วิทยาศาสตร์เบื้องหลังดอกไม้และสุขภาพทางอารมณ์ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส (Rutgers University) พบว่า การได้รับดอกไม้สามารถเพิ่มความสุขได้ทันทีและช่วยลดความเครียดในระยะยาว ขณะที่นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard) พบว่าการมีดอกไม้สดในบ้านหรือที่ทำงานสามารถช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการทำงาน และสร้างสภาวะจิตใจที่ดีขึ้น

เพื่อให้เข้าใจมากขึ้นว่า ดอกไม้สามารถกระตุ้นอารมณ์และสร้างความรู้สึกดี ๆ ได้อย่างไร เราได้พูดคุยกับ UrbanFlowers ร้านดอกไม้ชั้นนำในกรุงเทพฯ ที่เห็นปรากฏการณ์นี้ทุกวัน

"ดอกไม้ไม่ได้เป็นเพียงของตกแต่ง แต่มันสื่อถึงอารมณ์และความรู้สึกอย่างลึกซึ้ง การเลือกช่อดอกไม้ที่เหมาะสมสามารถเปลี่ยนความหมายของของขวัญให้พิเศษขึ้นได้" โยฮันเนส เบิร์กสตรอม ผู้ก่อตั้ง UrbanFlowers กล่าว "ลูกค้าหลายคนไม่ได้เลือกดอกไม้แค่เพราะความสวยงาม แต่เพราะมันสามารถแสดงออกถึงความรัก ความซาบซึ้ง และความทรงจำได้"

นี่คือเหตุผลว่าทำไมดอกไม้ยังคงเป็นส่วนสำคัญของทุกวัฒนธรรม ตั้งแต่การใช้ในโอกาสสำคัญ ไปจนถึงการให้เพื่อเติมเต็มวันธรรมดา ดอกไม้แต่ละชนิดมีผลต่ออารมณ์ที่แตกต่างกัน ดอกไม้แต่ละชนิดสามารถกระตุ้นอารมณ์ที่แตกต่างกัน การเลือกดอกไม้ที่เหมาะสมจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ต้องการ

การนำดอกไม้มาใช้ ไม่ว่าจะเป็นของขวัญหรือตกแต่งบ้าน สามารถช่วยสร้างผลกระทบเชิงบวกได้มากกว่าที่คิด เทรนด์ใหม่: การให้ของขวัญที่มีความหมายมากกว่ามูลค่า ในปัจจุบัน คนให้ความสำคัญกับของขวัญที่มีคุณค่าทางอารมณ์มากกว่าของขวัญที่มีมูลค่าสูง ทำให้ดอกไม้กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยม เพราะสามารถแสดงความรู้สึกโดยไม่ต้องใช้คำพูด

"เราพบว่าคนเริ่มมองหาของขวัญที่เป็นมากกว่าสิ่งของ และนั่นทำให้ดอกไม้มีบทบาทมากขึ้น" เบิร์กสตรอมกล่าว "เราจึงออกแบบการจัดดอกไม้ที่สะท้อนความรู้สึกที่แตกต่างกัน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเลือกสิ่งที่ตรงกับอารมณ์และโอกาสที่ต้องการสื่อสารได้มากที่สุด"

ทำไมดอกไม้ถึงเป็นของขวัญที่ไม่มีวันตกยุค แม้ว่าของขวัญจะเปลี่ยนไปตามยุคสมัย แต่ดอกไม้ยังคงได้รับความนิยมเพราะมันสื่อความรู้สึกได้มากกว่าคำพูด ดอกไม้สามารถเพิ่มพลังบวก เติมเต็มอารมณ์ และสร้างความทรงจำที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นวันสำคัญ หรือเพียงเพื่อทำให้วันธรรมดาดูพิเศษขึ้น

สำหรับผู้ที่มองหาช่อดอกไม้ระดับพรีเมียมในกรุงเทพฯ UrbanFlowers มีการจัดดอกไม้ที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถัน เพื่อตอบโจทย์ทุกโอกาสสำคัญ


ปักหมุด! ชวนชม“ดาวศุกร์สว่างที่สุด”ครั้งแรกของปี

ในช่วงหัวค่ำของวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2568 ดาวศุกร์จะโคจรมาอยู่ในตำแหน่งที่ปรากฏสว่างที่สุด สังเกตได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ จนถึงเวลาประมาณ 21:00 น. ปรากฏสว่างเด่นชัดทางทิศตะวันตก คาดว่ามีค่าอันดับความสว่างปรากฏมากถึง -4.6 (ดวงจันทร์เต็มดวง มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ -12) หากดูผ่านกล้องโทรทรรศน์จะเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวยังสามารถสังเกตเห็นดาวเสาร์ปรากฏถัดลงมาใกล้ขอบฟ้า อีกทั้งยังมีดาวพฤหัสบดีปรากฏสว่างบริเวณกลางท้องฟ้า และดาวอังคารปรากฏสว่างเป็นสีส้มแดงทางทิศตะวันออกอีกด้วย หากทัศนวิสัยท้องฟ้าดีสามารถชมความสวยงามของดาวศุกร์ และดาวเคราะห์ต่าง ๆ ได้ด้วยตาเปล่าอย่างชัดเจน

ดาวศุกร์สว่างที่สุด (The Greatest Brilliancy) คือช่วงที่ดาวศุกร์โคจรห่างจากโลกในระยะที่เหมาะสม และมีขนาดเสี้ยวค่อนข้างใหญ่ทำให้สะท้อนแสงได้มากที่สุด จึงปรากฏสว่างมากบนท้องฟ้า สำหรับในช่วงอื่น แม้ดาวศุกร์จะมีเสี้ยวที่หนากว่า แต่ด้วยตำแหน่งอยู่ที่ห่างจากโลก ความสว่างจึงลดลงตามไปด้วย

การที่เราเห็นดาวศุกร์เป็นเสี้ยวอยู่เสมอ เนื่องจากดาวศุกร์เป็นดาวเคราะห์ลำดับที่ 2 ถัดจากดาวพุธ โคจรรอบดวงอาทิตย์ใกล้กว่าโลก จึงไม่สามารถเห็นดาวศุกร์สว่างเต็มดวงได้ เพราะจะปรากฏสว่างเต็มดวงเมื่ออยู่หลังดวงอาทิตย์ ดังนั้น คนบนโลกจึงมองเห็นดาวศุกร์ปรากฏเป็นเสี้ยวอยู่เสมอ ความหนาบางของเสี้ยวแตกต่างกันไปในแต่ละตำแหน่งของวงโคจร และปรากฏอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์ได้มากที่สุด 47.8 องศา เราจึงสังเกตเห็นดาวศุกร์ได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนดวงอาทิตย์ขึ้นหรือหลังดวงอาทิตย์ตกเท่านั้น ไม่เคยปรากฏอยู่กลางท้องฟ้าหรือในช่วงเวลาดึก สำหรับคนไทยจะมีชื่อเรียกดาวศุกร์ในแต่ละช่วงเวลาต่างกันไป ได้แก่ “ดาวประจำเมือง” คือ ดาวศุกร์ที่ปรากฏทางทิศตะวันตกในช่วงหัวค่ำ และ “ดาวประกายพรึก” คือ ดาวศุกร์ที่ปรากฏทางทิศตะวันออกในช่วงเช้ามืด

สำหรับปรากฏการณ์ดาวศุกร์สว่างที่สุด ในครั้งที่ 2 ของปีนี้ จะปรากฏดาวศุกร์สว่างช่วงเช้ามืด ในวันที่ 24 เมษายน 2568 ปรากฏสว่างเด่น เห็นชัดเจนด้วยตาเปล่าทางทิศตะวันออก ตั้งแต่เวลาประมาณ 04:00 น. จนดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้า

ขอบคุณข้อมูล/ภาพ : เพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ


ทำความรู้จัก 'THANIYA1988' สมการจากสมดุลแห่งภูมิปัญญาไทย

วันอังคาร ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568:ทำความรู้จักกับ THANIYA1988 สมการจากสมดุลแห่งภูมิปัญญาไทย, ความคิดสร้างสรรค์ และฟังก์ชั่นที่มาพร้อมสุนทรียะ

THANIYA1988 (ฐาณิญา1988) แบรนด์เครื่องปั้นเซรามิกเพ้นท์มือ งานคราฟต์สัญชาติไทย ที่เป็น “สากล” ทั้งยังนำพาชื่อและผลงานจากภูมิปัญญาไทย ที่ผ่านการคิดและสร้างสรรค์อย่าง “ทันสมัย” ครบครันด้วยดีไซน์ ฟังก์ชั่น คุณภาพ และที่สุด คือ ดีกรีงานฝีมือสุดพิถีพิถัน จนเข้าตาหลายแบรนด์หรูระดับโลกอย่างชาเนล และหลุยส์ วิตตองที่มาคัดสรรไปเป็นของขวัญในแฟชั่นอีเว้นต์ เรียกว่าเป็นปรากฎการณ์ความสำเร็จที่ยกระดับทั้งคุณค่าและมูลค่าให้กับงานคราฟต์ไทยได้อย่างเต็มภาคภูมิ

จากเครื่องใช้ ของแต่งบ้าน สู่การเป็นของสะสม สำหรับทั้งลูกค้าชาวไทยและนานาชาติ ล่าสุด THANIYA1988 กำลังจะมี Pop-Up Exhibition เปิดตัวผลงานคอลเล็กชั่นใหม่ The Stellar Zodiac Collection ที่ไอคอนคราฟต์ ระหว่างช่วง Bangkok Design Week 2025 เทศกาลออกแบบกรุงเทพ ภายใต้ธีม “Design Up+Rising : ดีไซน์พร้อมบวก+”

จับภูมิปัญญางานเซรามิกและเครื่องหอมไทย มาแต่งองค์ให้ทรงเสน่ห์

ด้วยความชื่นชอบในงานศิลปะ กลิ่นอายความเป็นไทย อีกทั้งบริบทแวดล้อมที่เชื่อมโยงเข้มข้นกับงานคราฟต์ไทยมายาวนาน ในบทบาทความเป็นผู้ผลิต ทั้งงานเซรามิกจากรุ่นคุณยาย และงานเครื่องหอมในยุคคุณแม่ เมื่อคุณแม็ทช์ – ฐาณิญา เจนธุระกิจ ผู้สร้างแบรนด์ THANIYA1988 จบการศึกษาต่อด้าน Engineering Business Development จาก Warwick University ประเทศอังกฤษ กลับมาบริหารธุรกิจครอบครัว จึงริเริ่มคิดสร้างผลิตภัณฑ์ของตนเอง

โดยต่อยอดจากทรัพยากรคุณภาพสำหรับการสร้างสรรค์งานฝีมือสุดละเมียด ไม่ว่าจะเป็นองค์ความรู้ด้านงานเครื่องหอม ทีมช่างฝีมือหลายสาขา มากประสบการณ์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความคิดสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ ทั้งในเชิงพาณิชย์และสุนทรียะ เกิดเป็นสมการที่ลงตัว ขับเคลื่อนให้แบรนด์เซรามิกคราฟต์ในนาม THANIYA1988 ซึ่งเปิดตัวขึ้นในพ.ศ. 2555 เป็นที่รู้จักด้วยผลงานเครื่องเซรามิกที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เติบโตต่อเนื่องมาจนปัจจุบัน และยังคงมุงมั่นพัฒนาไม่หยุดยั้ง เพื่อนำเสนอประสบการณ์แห่งไลฟ์สไตล์สุดรื่นรมย์ให้แก่ลูกค้าและผู้ที่ชื่นชอบในงานเซรามิกคราฟต์ได้ติดตามไม่ขาดสาย

ฐาณิญา 1988 คราฟต์ไทย หัวใจโมเดิร์น ส่งเซรามิกกรุ่นกลิ่นหอม พร้อมฟังก์ชั่นและดีไซน์ทันยุค ถูกใจผู้บริโภค

เสน่ห์ของผลงานเซรามิกในนาม THANIYA1988 สอดประสานภูมิปัญญางานฝีมือเข้ากับอัตลักษณ์ไทยในมุมมองใหม่ ถ่ายทอดโดยสรรพกำลังจากชุมชนช่างฝีมือ ช่างปั้น ซึ่งแม่นยำในความเหมาะเจาะพอดีของอุณหภูมิ ช่างเพ้นท์ ที่มีฝีไม้ลายมือพลิ้วไหว งานเครื่องหอมหลากประเภท เลือกสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ทั้งดอกไม้และสมุนไพร มาผสมผสาน ปรุงกลิ่นอย่างประณีตจนได้มวลความหอมกลมกล่อม ละมุนละไม

ลายเส้นเพ้นท์มือพลิ้วสารพัดลวดลาย สีสัน จับจุดความต่างอย่างตอบโจทย์

ศิลปะงานเพ้นท์มือในลวดลายต่างสไตล์ คืออีกจุดเด่นและเป็นรายละเอียดสำคัญที่ทำให้ผลงานของ THANIYA1988 โดดเด่น มีเอกลักษณ์เฉพาะ ทั้งเส้นสายลายเพ้นท์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ ทำให้เครื่องใช้เซรามิกเป็นของตกแต่งชิ้นสวยเรียบง่าย ชวนมอง และงามเหนือกาลเวลา หรือลวดลายกราฟิกทันสมัย ที่ทวิสต์แนวทางการออกแบบหลากหลาย ในต่างสีสัน ทั้งเรียบหรู สดใส และสวยเท่ ต่างอารมณ์ ตอบรับทุกความต้องการใช้งานได้อย่างลงตัว

The Stellar Zodiac Collection by THANIYA1988

ไอเดียการเชื่อมโยงโลกแห่งจักรราศี ในชื่อ The Stellar Zodiac Collection เซรามิกคราฟต์คอลเล็กชั่นล่าสุดที่ THANIYA1988 นำเสนอความคิดสร้างสรรค์ด้วยผลงานเซรามิกและเครื่องหอมกลิ่นพิเศษ ซึ่งมีคอนเซ็ปท์มาจากความเชื่อที่มีมายาวนาน “ชีวิต ดวงดาว ชะตา ฟ้าลิขิต” ชีวิต ผูกพัน เชื่อมโยงกับดวงดาว จักรวาล และวัตถุในท้องฟ้า ดังคำกล่าว “As Above So Below”

ทุกชิ้นงานเด่นจับตาด้วยลายเพ้นท์โทนสีฟ้า ตกแต่งขอบโลหะสีทอง บอกเล่าจินตนาการบนท้องฟ้าและจักรวาล พร้อมด้วยสัญลักษณ์ของ 12 จักรราศี ในหลายรูปผลิตภัณฑ์เครื่องหอมและเครื่องใช้หลากดีไซน์ ซึ่งไม่เพียงน่าชื่นชม น่าใช้ แต่ยังเป็นอีกขั้นแห่งศิลปะจากภูมิปัญญาไทย ที่ควรค่าแก่การสนับสนุน และเก็บสะสมยิ่งนัก

พบกับ The Stellar Zodiac Collection Pop-Up Exhibition โดย Thaniya 1988 8-25 กุมภาพันธ์นี้ ที่ Event Space ชั้น 4 ICONCRAFT, ICONSIAM

สัมผัสงานคราฟต์ไทยในมุมมองใหม่ ปลุกพลังภูมิปัญญาสุดสร้างสรรค์ และร่วมขับเคลื่อนทุกเส้นสายแห่งแรงบันดาลใจ โดยคราฟต์ฮีโร่ ทั้งช่างฝีมือระดับตำนาน นักออกแบบ และผู้ประกอบการ จากจิตวิญญาณและความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ไทย สู่สายตาแห่งสากล ที่ไอคอนคราฟต์