GISTDA เตรียมจัดงาน 'Thailand Space Expo 2025' มหกรรมด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2568 ที่ไอคอนสยาม กรุงเทพฯ งานนี้เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ร่วมสำรวจศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจในอุตสาหกรรมอวกาศ ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด และสัมผัสว่าเทคโนโลยีอวกาศใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
ปัจจุบัน อวกาศเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนจำนวนมาก ผ่านทั้งการใช้งานเทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ ระบบนำทาง การพยากรณ์อากาศ อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่ต่างเป็นประโยชน์จากการใช้ข้อมูลดาวเทียม รวมถึงอนาคตอันน่าตื่นเต้นของการกลับไปสำรวจดวงจันทร์ พร้อมมุ่งหน้าสู่ดาวอังคาร และเป้าหมายอื่น ๆ ในระบบสุริยะ
GISTDA หรือ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ได้เล็งเห็นถึงโอกาสของการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศ โดยได้จัดงาน Thailand Space Expo ขึ้นในปีนี้ เพื่อยกระดับและต่อยอดจากการดำเนินงาน Thailand Space Week ในช่วงสามปีที่ผ่านมา เปิดโอกาสให้ภาครัฐ เอกชน และประชาชนที่สนใจได้เข้าร่วมงานด้านเทคโนโลยีอวกาศระดับนานาประเทศ กระตุ้นให้เกิดการตระหนักรู้ ส่งต่อแรงบันดาลใจ และต่อยอดความร่วมมือทางธุรกิจ สู่การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอวกาศให้กับประเทศไทย
ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA เปิดเผยว่า “ในปีนี้พวกเรามีความตั้งใจจะจัดงาน Thailand Space Expo เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าของเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศผ่านการเสวนา การพูดคุยแสดงวิสัยทัศน์ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น การอภิปรายของนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้บริหารจากทั่วโลกที่ทำเรื่องเกี่ยวกับเทคโนโลยีอวกาศ และการจัดแสดง
“เราตั้งใจที่จะให้ผู้ร่วมงานได้เห็นว่าอวกาศสร้างเศรษฐกิจ สร้างธุรกิจอย่างไร แล้วผู้คนโดยทั่วไปสามารถทำอะไรกับอวกาศได้บ้าง เราจึงอยากนำเสนอโอกาสที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของเทคโนโลยีอวกาศ โดย GISTDA ได้ติดต่อหน่วยงานธุรกิจที่ทำงานด้านนี้จากหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา จีน อินเดีย เข้ามามีส่วนร่วมในงาน Thailand Space Expo 2025”
ในฐานะหน่วยงานด้านเทคโนโลยีอวกาศของไทย GISTDA ได้มีการใช้ ประโยชน์จากเทคโนโลยีอวกาศที่หลากหลาย อาทิ การวางแผนข้อมูลการทำเกษตรกรรม การติดตามค่าฝุ่น PM2.5 และการตรวจสอบคาร์บอนเครดิตผ่านข้อมูลจากดาวเทียม รวมถึงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศขึ้นเอง
เช่น การพัฒนาดาวเทียมสำรวจโลก THEOS-2A และ THEOS-3 ระบบจัดการจราจรอวกาศ ระบบการติดตามเฝ้าระวังวัตถุอวกาศ ระบบพยากรณ์สภาพอวกาศของประเทศไทย และยังมีการพัฒนาบุคลากร ผ่านโครงการ School Satellite ที่เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยได้ประกอบและทดสอบดาวเทียมจริง ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมอวกาศในระดับโลก ที่ผู้เข้าร่วมงานจะมีโอกาสได้มาเรียนรู้และรับชม
ภายในงานปีนี้ GISTDA ได้รวบรวมผู้นำในอุตสาหกรรม ผู้ริเริ่มนวัตกรรม ผู้ประกอบการ ผู้กำหนดนโยบาย นักลงทุน หน่วยงานอวกาศ และผู้ที่ชื่นชอบด้านอวกาศ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลความก้าวหน้าล่าสุดของการพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศ การสำรวจอวกาศ การประยุกต์ใช้งานข้อมูลจากอวกาศของภาคส่วนต่าง ๆ
รวมถึงเป็นเวทีสำหรับเน้นย้ำเทคโนโลยียุคใหม่ ส่งเสริมความร่วมมือ แสดงศักยภาพของอุตสาหกรรมอวกาศ และขับเคลื่อนโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมอวกาศระดับโลก อาทิ การพัฒนานวัตกรรมขั้นสูง ปัญญาประดิษฐ์ และการประยุกต์นำมาใช้อย่างเกิดประโยชน์สูงสุดบนโลกใบนี้
นอกจากนี้ ดร.ปกรณ์ เสริมว่า “งาน Thailand Space Expo 2025 เปิดโอกาสให้เยาวชนทุกคนได้มาพบกับหน่วยงานและผู้คนที่ทำงานด้านอวกาศจริง ได้ลองคุยแลกเปลี่ยนกับบุคลากร พาร์ทเนอร์ธุรกิจ บริษัททั้งในไทยและต่างประเทศ โดยเฉพาะเด็กจบใหม่ที่กำลังมองหาโอกาสในสายงานอวกาศ ทำให้เกิดการจ้างงานใหม่ ๆ ในระบบเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนประเทศด้วยอุตสาหกรรมอวกาศ”
หากเทียบกับมหกรรมอวกาศระดับโลก อย่างเช่นงาน IAC หรือ International Astronautical Congress ที่เป็นงานประชุมด้านอวกาศระดับนานาชาติ รวบรวมผู้เชี่ยวชาญ ผู้กำหนดนโยบาย และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมอวกาศจากทั่วโลก งาน Thailand Space Expo เป็นเหมือนกับเวทีในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ได้รวบรวมบุคลากรจากนานาประเทศมาไว้ในไทย และเป็นโอกาสอันดีในการได้พบปะแลกเปลี่ยนกับผู้คนในแวดวงอวกาศ โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถร่วมงาน Thailand Space Expo 2025 ได้ระหว่างวันที่ 16-18 ตุลาคม 2568 ณ ชั้น 7 ศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพฯ โดยมีบูธนิทรรศการจากหน่วยงานด้านเทคโนโลยีอวกาศต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงเวทีเสวนา และกิจกรรมที่น่าสนใจมากมาย สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางแฟนเพจของ GISTDA และทุกช่องทางบนโลกออนไลน์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จรวดสตาร์ชิพของบริษัทสเปซเอ็กซ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในโครงการของอีลอน มัสก์ในการส่งมนุษย์ไปยังดาวอังคาร ถูกปล่อยขึ้นจากฐานปล่อยจรวดสตาร์เบส ในรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ในการทดสอบจรวด แต่จรวดดังกล่าวกลับหมุนคว้างก่อนตกลงสู่ทะเลเพียงครึ่งทางของการทดสอบปล่อยจรวด ซ้ำรอยการทดสอบจรวดที่ล้มเหลว 2 ครั้งก่อนหน้าในปีนี้
จรวดสตาร์ชิพความสูง 122 เมตรทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เลยจุดที่จรวด 2 ลูกของสเปซ์เอ็กซ์เกิดระเบิดในการทดสอบในปีนี้ โดยจรวดส่วนบนสามารถขึ้นสู่อวกาศได้สำเร็จ แต่สเปซเอ็กซ์ขาดการติดต่อกับจรวดขับดันส่วนล่างระหว่างการบินลง ทำให้ตกลงสู่ทะเลซึ่งผิดพลาดจากแผนเดิมที่จรวดขับดันส่วนล่างจะถูกควบคุมให้ลงจอดในทะเล
ขณะที่จรวดสตาร์ชิพสามารถขึ้นสู่อวกาศแบบไม่ได้มีการโคจร แต่จรวดดังกล่าวหมุนคว้างขณะปฏิบัติภารกิจไปได้ประมาณ 30 นาที หลังจากที่สเปซเอ็กซ์ล้มเลิกแผนการปล่อยแบบจำลองดาวเทียมสตาร์ลิงค์จำนวน 8 ดวงขึ้นสู่อวกาศ หมายความว่ากลไกของจรวดไม่สามารถใช้งานได้อย่างที่มีการออกแบบ
มัสก์มีกำหนดที่จะขึ้นกล่าวความคืบหน้าในแผนการสำรวจอวกาศของเขาที่ฐานปล่อยจรวดสตาร์เบสหลังการทดสอบดังกล่าว แต่หลายชั่วโมงต่อมา มัสก์ยังไม่ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์และคาดว่าจะยกเลิกการกล่าวความคืบหน้า โดยมัสก์โพสต์ข้อความลงบน X ชื่นชมการดับเครื่องยนต์ของจรวดสตาร์ชิพในอวกาศว่าเป็นไปตามแผน ถือเป็นความคืบหน้าจากการทดสอบเมื่อปีที่แล้ว โดยให้เหตุผลว่าการสูญเสียการควบคุมมาจากถังเชื้อเพลิงหลักของจรวดสตาร์ชิพมีการรั่วไหล
การปล่อยจรวดสตาร์ชิพในครั้งนี้มีการวางแผนให้จรวดสตาร์ชิพโคจรเกือบรอบโลก ก่อนที่จะบังคับจรวดให้ตกลงในมหาสมุทรอินเดียเพื่อทดสอบฉนวนป้องกันความร้อนที่ถูกออกแบบมาใหม่และ flaps ที่ใช้ในการควบคุมที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่ที่จะใช้ในการนำจรวดกลับสู่โลก แต่จรวดดังกล่าวตกลงเหนือทวีปแอฟริกาตอนใต้ ถือเป็นอุปสรรคให้กับเป้าหมายในการพัฒนาจรวดที่อาจมีบทบาทสำคัญในโครงการด้านอวกาศของสหรัฐ...
เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า จากคำสั่งของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้สถานทูตและสถานกงสุลสหรัฐในต่างประเทศยุติการนัดหมายใหม่สำหรับผู้สมัครขอวีซ่านักเรียนและผู้เข้าร่วมโครงการแลกเปลี่ยน อีกทั้งยังเพิ่มการตรวจสอบการใช้โซเชียลมีเดียของนักเรียนต่างชาติอย่างเข้มข้น ในความพยายามจะเนรเทศหรือส่งกลับนักศึกษาต่างชาติ อันเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินนโยบายตรวจคนเข้าเมืองอย่างเข้มงวดของรัฐบาลทรัมป์นั้น ได้สร้างความวิตกกังวลให้กับนักเรียนต่างชาติที่กำลังศึกษาอยู่หรือมีแผนจะเดินทางไปศึกษาต่อในประเทศสหรัฐเป็นอย่างมาก
หนึ่งในนั้นรวมถึงนักเรียนนักศึกษาชาวเกาหลีใต้ ที่ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีจำนวนมากเป็นอันดับ 3 รองจากอินเดียและจีนที่ศึกษาอยู่ในสหรัฐ ที่มีความวิตกกังวลต่อแผนการจะเรียนต่อในสหรัฐ ขณะที่มีหน่วยงานด้านการศึกษาในเกาหลีใต้ออกมาเตือนให้เด็กระมัดระวังการโพสต์สิ่งใดลงในโซเชียลมีเดียที่เสี่ยงจะถูกรัฐบาลสหรัฐตรวจสอบ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อแผนการเรียนต่อได้
พัค ฮยอนแท หัวหน้าของ Worldnet U.S. Overseas Edu Center หน่วยงานด้านการศึกษาในกรุงโซล ที่ให้ความช่วยเหลือนักเรียนชาวเกาหลีใต้ กล่าวว่า ลูกค้าและผู้ปกครองได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามตนอยู่ตลอดเวลาว่าเกิดอะไรขึ้น หลังรับทราบว่ารัฐบาลสหรัฐมีคำสั่งข้างต้น และว่า ทั้งผู้ที่มีนัดสัมภาษณ์วีซ่าและผู้ที่จะยื่นสมัครขอวีซ่านักเรียนต่างมีความกังวลในเรื่องนี้ แต่เท่าที่ตนทราบจนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยกเลิกนัดสัมภาษณ์กับผู้ที่ได้รับการนัดหมายไว้แล้วแต่อย่างใด
อย่างไรก็ดี นายพัคกล่าวว่า การระงับนัดสัมภาษณ์วีซ่านักเรียน อาจทำให้การเริ่มต้นปีการศึกษาล่าช้า และเขาได้แนะนำให้นักเรียนระมัดระวังสิ่งที่โพสต์บนอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะนักเรียนชาย ให้หลีกเลี่ยงการโพสต์อะไรที่สุดโต่งหรือน่ารังเกียจบนโซเชียลมีเดีย เช่น รูประเบิดหรืออาวุธต่างๆ
ขณะที่อีเมล์ของวิทยาลัยศิลปะแห่งหนึ่งที่ทางรอยเตอร์ได้เห็นผ่านตา มีใจความระบุแจ้งต่อนักเรียนต่างชาติที่มีนัดสัมภาษณ์วีซ่าว่าอาจถูกเลื่อนออกไปได้ อีกทั้งยังมีการแนะนำให้นักเรียนต่างชาติสนใจโซเชียลมีเดียน้อยลง
ทั้งนี้การสอบเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศเกาหลีใต้ที่มีการแข่งขันกันสูงมาก เป็นปัจจัยผลักดันให้เด็กเกาหลีใต้จำนวนมากต้องการจะไปศึกษาในต่างประเทศแทน... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/foreign/news_5204408
สายกินดิบต้องระวัง! 5 โรคถึงตายจากการกินดิบ นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกมาเปิดเผยผ่านเพจ “หมอเจด“ ระบุว่า หลายคนเห็นข่าวกินเนื้อวัวดิบแล้วอันตรายจนถึงขั้น “ตุย” ก็เริ่มรู้สึกกลัว หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่ากินอาหารดิบมันส่งผลมากกว่าที่คิด เดี๋ยววันนี้เล่าให้ฟังนะครับว่า
5 โรคอันตรายที่มาจากการกินดิบมีอะไรบ้างจะได้รู้ทันและหลีกเลี่ยงได้
1. ไข้หูดับ
•เกิดจากอะไร?
เชื้อแบคทีเรีย Streptococcus suis ที่อยู่ในหมู โดยเฉพาะหมูที่ดิบหรือสุกๆ ดิบๆโรคนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวนะ แค่กินหมูกระทะไม่แยกตะเกียบก็ติดเชื้อตัวนี้ได้
•อาการเป็นไง?
ไข้สูง ปวดหัว เวียนหัว อาเจียน ถ้าหนักสุดๆ หูหนวกถาวร หรือไม่ก็ไปถึงขั้นช็อกและตายได้เลย
ใครที่เป็นสายลาบเลือด ก้อยหมูดิบ ต้องระวังนะครับซึ่งการป้องกันก็ง่ายมาก ปรุงหมูให้สุกทั่วถึงไม่ต่ำกว่า 70 องศาเซลเซียสแค่นี้ก็ลดความเสี่ยงไปได้เยอะแล้วครับ
2. แบคทีเรียกินเนื้อคน
โรคนี้เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย Vibrio vulnificusในอาหารทะเลสด อย่างหอยนางรมดิบ กุ้งดิบ โดยอาการจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ถ้าโชคร้าย เชื้อแพร่เข้ากระแสเลือด ทำให้เนื้อเน่า และตายได้ ใครที่ชอบกินซีฟู้ดดิบๆ สดๆ โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ป้องกันดีสุด คือกินต้องมั่นใจว่าซีฟู้ดสดจริง ผ่านการแช่แข็งอย่างถูกวิธี หรือไม่ก็กินสุกไปเลย ปลอดภัยกว่าเยอะ
3. พยาธิใบไม้ตับ
หลายคนอาจไม่รู้ว่า พยาธิใบไม้ตับ เป็นภัยเงียบที่ซ่อนอยู่ในปลาน้ำจืด โดยเฉพาะพวกปลาดิบ ปลาร้า ปลาจ่อมที่หลายคนชอบกินกัน แม้แต่ในประเทศไทยเอง จังหวัดขอนแก่นก็ได้ฉายาว่าเป็น “เมืองหลวงมะเร็งท่อน้ำดี” เพราะมีอัตราผู้ป่วยมะเร็งท่อน้ำดีสูงที่สุด ซึ่งสาเหตุสำคัญก็มาจากการติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับนี้แหละ
แล้วมันน่ากลัวขนาดไหน?
ถ้าเราติดพยาธิใบไม้ตับเข้าไป อาการช่วงแรกอาจจะไม่มีอะไรชัดเจน แต่ถ้าเริ่มมากขึ้นก็จะรู้สึก ท้องอืด คลื่นไส้ ปวดท้อง และถ้าปล่อยให้พยาธิอาศัยอยู่ในร่างกายนานๆ มันจะทำให้ท่อน้ำดีอักเสบเรื้อรัง จนกลายเป็น มะเร็งท่อน้ำดี ที่รักษายากมาก
ใครที่เป็นสายกินของแซ่บ อย่างปลาดิบ ปลาร้าจัดๆ ปลาส้มที่หมักไม่นาน ต้องระวังให้ดี วิธีที่ปลอดภัยที่สุดคือ เลือกกินปลาที่ปรุงสุกเรียบร้อย ถ้าต้องกินปลาร้า ปลาส้ม ควรเลือกที่มีแหล่งที่มีมาตรฐานนะ
4. ซาลโมเนลล่า
เชื้อแบคทีเรีย Salmonella ที่ชอบอยู่ในเนื้อไก่ดิบ ไข่ดิบ นมดิบ ซึ่งเชื้อตัวนี้ทำให้ ท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ ไข้สูง ถ้ารุนแรงอาจติดเชื้อในเลือดได้ใครที่ชอบไข่ไก่ดิบต้องระวัง
แลัวป้องกันไงดี?
5. แอนแทรกซ์
ใครตามข่าวช่วงนี้ ก็จะได้ยินชื่อโรคนี้บ่อยๆ มันเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ในเนื้อวัวหรือควาย ความน่ากลัวของมันคือเชื้ออยู่รอดได้นานนับ 10 ปี! เชื้อ Bacillus anthracis มีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนตัวเองเป็นสปอร์ ซึ่งทำให้มันทนมาก ไม่ว่าจะเป็นอากาศร้อนหรือเย็น มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้ สปอร์ของมันสามารถอยู่รอดได้ในดิน น้ำ และแม้กระทั่งบนพื้นผิวต่างๆ ได้เป็น 10 ปีหรือมากกว่านั้นทำให้แม้สัตว์ที่ตายจากเชื้อนี้ไปนานแล้ว เชื้อก็ยังคงมีชีวิตอยู่ในดินหรือบนเครื่องมือที่สัมผัสสัตว์นั้นซึ่งการติดต่อ นอกจากการกินเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อแล้ว เชื้อนี้ยังสามารถติดผ่าน ทางผิวหนัง การสูดหายใจ หรือการสัมผัสกับของเหลวจากสัตว์ที่ติดเชื้อได้เหมือนกัน
อาการเป็นไง?
ไข้สูง ปวดกล้ามเนื้อ อาเจียนเป็นเลือด ท้องเสีย เป็นแผลเนื้อตาย สีดำๆ รวมถึงอาจหนักภาวะช็อก หากเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด จะเกิดภาวะติดเชื้อในเลือด (Sepsis) ที่อาจทำให้เสียชีวิตภายในไม่กี่วันสายเนื้อวัวดิบ เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากนะ ซึ่งป้องกันด้วยการเลือกกินเนื้อที่ผ่านการตรวจคุณภาพหรือไม่ก็กินสุกไปเลยชัวร์กว่ อาหารดิบที่หลายคนชอบ ไม่ว่าจะเป็นลาบเลือด ก้อยหมูดิบ ปลาร้าดิบ ปลาส้ม ซีฟู้ดสด ไข่ไก่ หรือเนื้อวัวดิบ มีความเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อโรค พยาธิ หรือแบคทีเรีย ซึ่งอาจก่อให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรงและอันตรายถึงชีวิตได้ เลี่ยงได้ก็เลี่ยง