ครบเครื่อง
ญ. อมตะ



ครบเครื่อง ญ.อมตะ 16 มีนาคม 2562

สวยทุกชุด! คอลเลกชั่นทรงออกแบบ พระองค์หญิงสิริวัณณวรีฯ สุดยอดเจ้าหญิงแฟชั่น

แฟชั่นโชว์แห่งปี 2019 ที่ทุกคนรอคอย กับคอลเลกชั่นทรงออกแบบ สปริง/ซัมเมอร์ 2019 ภายใต้แบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME ที่วันนี้ ไลฟ์สไตล์ไทยรัฐ จะพาทุกคนไปเกาะติดขอบรันเวย์ พร้อมนำภาพและเรื่องราวของงานนี้มาฝาก

เริ่มต้นด้วย ณ ดินแดนแห่งใหม่ในห้วงจักรวาล ที่ซึ่งเต็มไปด้วยการพัฒนาถึงขีดสุดของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) อันล้ำยุค หากแต่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกใหม่นี้ ไม่ว่าจะเป็นสิงสาราสัตว์ หรือพืชพรรณต่างๆ ล้วนแต่มีหน้าตาที่เปลี่ยนไป ไม่คุ้นเคยเหมือนในอดีต อันเป็นผลจากการกลายพันธุ์ (Mutation) แต่ทุกชีวิตในที่แห่งนี้ ล้วนแล้วแต่มีความสุขและอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ดินแดนแห่งนี้มีนามว่า NARAVANNA โลกใหม่ซึ่งเป็นแรงบันดาลพระทัยหลักของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ในการทรงงานออกแบบคอลเลกชั่นประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2019 ที่มีชื่อว่า Abode of Metamorphosis ภายใน "SIRIVANNAVARI" ที่โดเด่นด้วยโครงสร้างเสื้อผ้าที่ดูเฟมินีน งานปักชั้นครู ไปจนถึงลายกราฟิกทรงออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่งแบรนด์ SIRIVANNAVARI ทรงมีรับสั่งถึงคอลเลกชั่นล่าสุดว่า "เรื่องราวในครั้งนี้ เป็นการเดินทางสู่โลกใหม่ ที่มีชื่อว่า NARAVANNA โดยโลกใบนี้คือโลกแห่งสันติ โลกแห่งความสุข ที่มีอยู่ในจักรวาลอันไกลโพ้น ปราศจากร่องรอยแห่งอารยธรรมดั้งเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เป็นผลแห่งการกลายพันธุ์ของโลกเก่าทั้งสิ้น สภาพแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตแปลกใหม่ในโลกแห่งนี้ ล้วนแล้วคือ แรงบันดาลใจที่ข้าพเจ้าได้ถ่ายทอดออกมาเป็นรายละเอียดของคอลเลกชั่นล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นลวดลายของแผงวงจรปัญญาประดิษฐ์ และกลเฟืองที่แฝงอยู่ในต้นไม้หรือสัตว์ป่า งานหัตถศิลป์แบบชนเผ่าแอฟริกัน ไปจนถึงอารยธรรมใหม่ในโลกอนาคต"

"สำหรับคอลเลกชั่นนี้ โครงสร้างของเสื้อมีความซับซ้อนมาก โดดเด่นมากด้วยโครงสร้างเสื้อแบบ Deconstructive (โครงเสื้อที่ไม่ใช่ตามแบบแผนเดิมๆ) และ Asymmetrical (โครงเสื้อแบบไม่สมมาตร) โดยได้นำมาผสมกับเทคนิคการตัดเย็บแพทเทิร์นและรายละเอียดอันหลากหลายเข้าไปอีก เพื่อความแปลกใหม่และความเท่ให้แก่คอลเลกชั่น อาทิ การตัดเย็บด้วยผ้าพลีต 3 มิติจากเวิร์กช็อป Ge'rard Lognon (เจราร์ โลนญง) ในกรุงปารีส เทคนิคการเย็บแบบลาย Quilt (ลายข้าวหลามตัด) รวมไปถึงการนำเอางานศิลปะแบบแอฟริกัน ชนเผ่ามาไซ มาร่า มาผสมผสานกับงานปัก จากช่างฝีมือชั้นเลิศ ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI เอง

สำหรับคอลเลกชั่นเสื้อผ้าทรงออกแบบประจำฤดูกาลสปริง/ซัมเมอร์ 2019 ประกอบด้วยจำนวนเสื้อผ้าทั้งสิ้น 67 ลุค แบ่งเป็นเสื้อผ้าสุภาพสตรี 59 ลุค และเสื้อผ้าสุภาพบุรุษ 8 ลุค สำหรับคอลเลกชั่นเสื้อผ้าสุภาพสตรีมีความโดดเด่นที่หลากหลาย ตั้งแต่ชุดกระโปรงผ้าทวีตรูเล็กซ์สีน้ำเงิน ที่เข้าคู่กับเสื้อโบเรโล่ (Bolero Jacket) แล้วออกมาเป็นรูปทรงของเสื้อโค้ตพาร์ก้า (Parka Coat) ชุดเดรสยาวคัตเอาต์ช่วงลำตัว (Cut-outmidriff dress) ผ้าไหมแก้วที่กระโปรงพลิ้วไหวด้วยผ้าไหมซีฟองลายกราฟิกประจำซีซั่น ชุดทวิตเพ็พลั่มเดรส ที่สอดแทรกชายกระโปรงด้วยผ้าตารางเมทาลิกเงิน (Quilted Metallic Pepium Dress) ที่สะท้อนเรื่องราวของโลกแห่งอนาคต หรือจะเป็นเสื้อผ้าไหมบุหงา (Silk Tulle) ที่หรูหราด้วยขนนกที่ปักซ้อนบนเลื่อมและลูกปัดที่ปักเป็นลายม้าลาย ที่เข้าคู่กับกางเกงยีนส์ไบเกอร์ ไปจนถึงชุดราตรีคอร์เซ็ตสีขาว (Corset) ที่โดดเด่นด้วยชายกระโปรงพู่ผ้าไหมสีแดงเบอร์กันดีกรุยกรายและปักซ้อนด้วยพู่ลูกปัดแบบแอฟริกัน

สิ่งพิเศษที่เห็นได้ชัดในคอลเลกชั่นนี้ก็คือ จากปักจากช่างฝีมือชั้นครู SIRIVANNAVARI Atelier and Academy โดยซีซั่นนี้ได้นำเสนอผลงานปักหลายรูปแบบบนเสื้อผ้าหลายสไตล์ อาทิ ขนนก คริสตันมุก ไปจนถึงงานฝีมือประจำซีซั่นอย่างงานถักร้อยและลูกปัดแบบแอฟริกัน

เอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งที่โดดเด่นของแบรนด์ SIRIVANNAVARI ก็คือลายพิมพ์กราฟิกฝีพระหัตถ์ ซึ่งลายพิมพ์ภาพกราฟิกทรงออกแบบประจำซีซั่นนี้ พระองค์ได้ทรงออกแบบลายพิมพ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวของ NARAVANNA ดังนั้นภาพกราฟิกฝีพระหัตถ์ จะเป็นการผสมผสานรายละเอียดของโลกใบใหม่ ซึ่งมีทั้งสัตว์กลายพันธุ์ และพืชพรรณหรือสัตว์ป่า ที่แฝงไว้ด้วยลวดลายของแผงวงจรและกลเฟืองของปัญญาประดิษฐ์ โดยลายกราฟิกฝีพระหัตถ์นี้ ได้ปรากฏให้เห็นอยู่ในคอลเลกชั่น ตั้งแต่เสื้อผ้าและกระเป๋าของสุภาพสตรี เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้าของสุภาพบุรุษ ไปถึงคอลเลกชั่นผ้าพันคอ ซึ่งมี 2 ขนาด คือ ผ้าพันหูกระเป๋า และผ้าคลุมไหล่ (120x120ซม.)

นอกจากนี้ คอลเลกชั่นล่าสุดยังนำเสนอคอลเลกชั่นเครื่องประดับที่ดูวิจิตรตระการตา ภายใต้ธีมของคอลเลกชั่นเสื้อผ้าด้วยเช่นกัน โดยซีซั่นนี้ มีทั้งไฟน์จิวเวลรี่ (Fine Jewellery) และแฟชั่นจิวเวลรี่ (Fashion Jewellery) ในส่วนของไฟน์จิวเวลรี่ของสุภาพสตรีนั้น มีให้เลือกสรรทั้ง แหวน ต่างหู และสร้อยคอ โดยนำเอาสัญลักษณ์ประจำแบรนด์อย่างตัว S และรูปนกยูง มาทำให้ดูโก้หรูด้วยการขึ้นตัวเรือนทองชมพู 18K (18K Rose Gold) ประดับเปลือกมุก ไข่มุก หินลาพิสลาชูลีลีน้ำเงิน (La[is Lazuil) และหินมาลาไคท์สีเขียว (Malachite) ไฮไลต์อยู่ที่โชคเกอร์ทองชมพูรูปนกยูงและช่อขนนกยูง ในขณะที่คอลเลกชั่นแฟชั่นจิวเวลรี่นั้น ดูโมเดิร์นด้วยการขึ้นตัวเรือนด้วยทองเหลืองชุปโรเดียมและทอง 14K แล้วนำมาตกแต่งด้วยวัสดุหลากหลาย เพื่อให้เข้ากับธีมหลักของคอลเลกชั่น อาทิ คริสตันจากสวารอฟสกี้ (Swarovski) ขนนก และลูกปัดเคนย่าจากโรงงานคาซูรี (Kazuri) อาทิ แหวนประดับลูกปัดแอฟริกัน กำไลประดับคริสตัลให้เป็นหน้าเสือ ต่างหูประดับขนนก ไปถึงเทียร่าเงินประดับคริสตัล

สำหรับคอลเลกชั่นเครื่องหนังในซีซั่นนี้ มีความโดดเด่นที่เทคนิคการตัดเย็บหนังชั้นเยี่ยมจากอิตาลีที่มีความละเอียด รวมไปถึงรายละเอียดการตกแต่งที่อยู่ภายใต้ธีมของคอลเลกชั่นเสื้อผ้า ดังเห็นได้จากกระเป๋าทรงกระบอกที่ตกแต่งด้วยหนังงูไพธอน พู่หนังและจี้ชาร์ม (Charm) รูปสัตว์และสัญลักษณ์ S ล้อมรอบ หรือจะเป็นกระเป๋าลายม้าลายกราฟิกฝีพระหัตถ์ประจำซีซั่นและปักทับด้วยป้ายลายนกยูงของแบรนด์ ในขณะที่คอลเลกชั่นรองเท้าก็มีความหลากหลายรูปแบบ ทั้งรองเท้าส้นสูงสองโทนสีแบบสลิงแบค (Sling back shoes) ที่ดูเรียบร้อยโก้หรูด้วยการเอาหนังวัวและหนังงูไพธอนมาผสมกัน หรือรองเท้าที่เผยให้เห็นเรียวเท้าของผู้สวมใส่ให้ดูเซ็กซี่ ที่ตัดเย็บด้วยหนังวัวอิตาเลียน หนังสือพิมพ์ลายเสือ ตกแต่งด้วย คริสตัน พู่ไหม และโลหะทอง โดยส้นรองเท้าดูเก๋ด้วยโลหะด้วยโลหะลายกลเฟือง หรือรองเท้าแตะที่สวมใส่สบายที่ตกแต่งด้วยขนนกและลูกปัดแบบแอฟริกัน

เพื่อความสมบูรณ์ของคอลเลกชั่น องค์ดีไซเนอร์ทรงออกแบบคอลเลกชั่นชุดว่ายน้ำซึ่งทำให้ผู้สวมใส่เพิ่มความเซ็กซี่ด้วยโครงสร้างแบบคัตเอาต์ (Cut Out) อวดเรือนร่างของหญิงสาว อีกทั้งยังมีเสื้อคลุมอาบน้ำเพื่อไลฟ์สไตล์ที่โก้หรูสำหรับสุภาพสตรี นอกจากนี้ คอลเลกชั่นนี้ยังมีเสื้อผ้าสไตล์แอคทีฟแวร์ (Active wear) สำหรับสาวๆ ที่รักการออกกำลังกาย เป็นครั้งแรกอีกด้วย

สำหรับคอลเลกชั่นสุภาพบุรุษภายใต้แบรนด์ S’Homme (เอส ออม) นั้นมีความโก้หรูสไตล์ แมสคิวีน (Masculine) ของโลกแห่ง NARAVANNA อย่างชัดเจน ดังเห็นได้จากเสื้อเทรนช์โค้ตสีเบจประดับฮู้ด ทีประดับตราสัญลักษณ์ของแบรนด์บนแขนเสื้อ เสื้อแจ็กเกตซาฟารีสีเหลืองที่ตกแต่งกระเป๋าเสื้อทั่งสี่ ด้วยแถบสีเหลืองแบบแอฟริกันที่เข้าคู่กับกางเกงคร็อปสีน้ำเงิน ไปจนถึงชุดสูทกระดุมสองเม็ดสีเสจกรีน (Sage Green) สำหรับเสื้อเชิ้ตในซีซั่นนี้ เอกลักษณ์สำคัญคือ การตกแต่งสาบเสื้อด้วยแถบสีแบบแอฟริกัน ส่วนทรงของกางเกงมีความโมเดิร์นมาก ด้วยทรงแบบคร็อปท์ (Cropped Pants) ในขณะที่คอลเลกชั่นรองเท้า ก็เสนอทั้งรองเท้าหนังกลับผูกเชือก รองเท้าโลเฟอร์ (Loafer) ตัดเย็บจากผ้าพิมพ์ลายกราฟิกฝีพระหัตถ์ประจำซีซั่น และรองเท้าตกแต่งด้วยลูกปัดสไตล์แอฟริกัน ส่วนคอลเลกชั่นกระเป๋า ก็นำเสนอกระเป๋าหลากสไตล์ ทั้งกระเป๋าคาดเอวหนังกลีบสีคาเมล กระเป๋าคลัทช์ผ้าลายกราฟิกฝีพระหัตถ์ ประดับสัญลักษณ์ S ของแบรนด์ และกระเป๋าดัฟเฟิล (Duffle Bag) ที่ตัดเย็บจากผ้าลายกราฟฟิกฝีพระหัตถ์และตกแต่งด้วยหนังวัวธรรมชาติ นอกจากนี้แล้ว คอลเลกชั่นล่าสุด ยังนำเสนอผลิตภัณฑ์อื่นๆ อย่างครบครัน ตั้งแต่ไฟน์จิวเวลรี่ อย่างแหวน ที่ตัวเรือนทำจากทองคำขาว ประดับเปลือกมุก หินลาพิสลาซูสีสีน้ำเงิน และหินมาลาไคท์สีเขียว แฟชั่นจิวเวลรี่ อาทิ สร้อยหนังประดับจี้ และเข็มกลัดประดับเสื้อสูท (Pin suit) รูปหัวเสือและสัญลักษณ์ตัว S ไปจนถึงเนกไท เสื้อคลุมอาบนน้ำและกางเกงว่ายน้ำ ลายกราฟิกฝีพระหัตถ์ประจำฤดูกาล ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของแบรนด์ที่ได้นำเสนอคอลเลกชั่นชุดว่ายน้ำชาย

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งเพิ่มเติมว่า “ในฐานะของผู้ประพันธ์เพลง ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ และองค์อุปถัมภ์ของมูลนิธิวงดุริยางค์ซิมโฟนีกรุงเทพ หรือ RBSO (Royal Bangkok Symphony Orchestra) ข้าพเจ้าได้ประพันธ์เพลงใหม่ 5 ท่อน เพื่อให้วง RBSO บรรเลงประกอบแฟชั่นโชว์ ได้แก่ 1) Vanishing Inhabitation 2) Fragmentary Time 3) Abode of Metamorphosis 4) AI/Memorandum 5) Tribal Transcendence โดยข้าพเจ้าเริ่มต้นการแต่งทำนอง จากการเล่นเครื่องมาริมบา (Marimba) ที่มีวิวัฒนาการมาจากแถบแอฟริกา จนได้แนวทางและทำนองหลัก แล้วข้าพเจ้าก็นำเอากลุ่มเครื่องดนตรีประเภท Rhythm Section เช่น เบส กีต้าร์ กลอง และเครื่องซินธิไซเซอร์ และกลุ่มเครื่องดนตรีคลาสสิกอย่าง เครื่องเป่าและเครื่องสาย เข้ามาผสมผสานให้มีความกลมกล่อมขึ้น นอกจากนี้ ข้าพเจ้ายังได้ออกแบบเครื่องดนตรีชิ้นใหม่ขึ้นมา ชื่อว่า เครื่องรีฟอร์ม (Reform) ที่เป็นเครื่องดนตรีที่ให้เสียงแบบเพอร์คัสชั่น ซึ่งข้าพเจ้าได้นำเอาวงล้อมาประกอบกับเครื่องตีต่างๆ เพื่อให้เสียงของเครื่องตีมีความกลมกลืนมากขึ้น”

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ทรงมีรับสั่งปิดท้ายว่า "เพื่อทำเพลงให้น่าสนใจมากขึ้น สำหรับแฟชั่นโชว์และให้มีความล้ำยุค สอดคล้องกับคอลเลกชั่นเสื้อผ้า ข้าพเจ้าจึงได้นำเอาเสียงสังเคราะห์ อาทิ เสียงคลื่นความถี่ต่างๆ และเสียงการติดต่อสื่อสารในห้วงอวกาศ เข้ามาทำหน้าที่เป็นเสียงโอบล้อมเสียงดนตรีทั้งหมด อีกทั้งยังสร้างความพิเศษด้วยการเชิญ คุณรัดเกล้า อามระดิษ มาร้องเพลงประกอบ ซึ่งเนื้อเพลงเป็นบทกวีที่ข้าพเจ้าได้ประพันธ์เอง โดยคุณรัดเกล้าใช้เทนนิคการร้องที่เรียกว่า "รีไซเททีฟ" (Recitative) ซึ่งเป็นการแสดงแบบกึ่งร้องกึ่งพูด"

"I’ve reconnected within elsewhere.

As a part of a whole, it’s here in "NARAVANNA"

Where silence embraces me and restores beauty in such immensity"

ตอนหนึ่งจากบทประพันธ์ พ.ศ.2561 ใน พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์

ทั้งนี้ สามารถชมคอลเลกชั่นทรงออกแบบประจำฤดูกาล สปริง/ซัมเมอร์ 2019 ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI และ S’HOMME ได้ที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน.