ครบเครื่อง
ญ. อมตะ
ครบเครื่อง ญ.อมตะ 6 ตุลาคม 2561

ความสัมพันธ์ในหมู่มวล “แกนนำเสื้อแดง”ที่ระยะหลัง ว่ากันว่า ท่าทีของ “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ชักจะ “แปร่งๆ”ภายหลังพ้นตะรางออกมา ตั้งแต่เมื่อเดือนส.ค. .. คำพูดคำจากลายเป็น “นิวจตุพร” ต้องมีห้อยท้าย-ติดปลายนวมว่า“ปรองดอง - หันหน้าเข้าหากัน”จนติดปาก .. หลายหนถูกคนชื่อเดียวกัน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ตีหน้ายักษ์ ซัดแรงๆ ก็ไม่มีหือ หรือตอบโต้กลับเหมือนเคย .. กระทั่งไม่นานนี้เอง “ซูเปอร์โพล”มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำ ที่เจ้าพ่อโพลอย่าง นพดล กรรณิกา เป็นผอ.อยู่ ปล่อยผลสำรวจ 85.3% สนับสนุนท่าทีของ “ตู่-จตุพร” ที่เคลื่อนไหวการเมืองด้วยความสงบสุข สู่ความปรองดองของคนในชาติ .. ก่อนที่ “จตุพร”จะโผล่ไปร่วมโต๊ะแถลงข่าว “ทางออกประเทศไทย”ของ “พ่อใหญ่จิ๋ว” พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ต้นตำรับ “โซ่ข้อกลาง”.. ที่โยน “ระเบิดหลายลูก”ให้สังคมได้ขบคิด กับไอเดีย “รัฐบาลเฉพาะกาล-เซตซีโรการเมืองไทย”เพื่อหาทางออกให้ประเทศ

ด้วย “เวิร์ดดิ้ง”ที่ดูจะไปไกล ก็ทำให้เสียงส่วนใหญ่ ไม่ค่อยขานรับ “ไอเดียพ่อใหญ่จิ๋ว”ซักเท่าไร รวมไปถึง “เสี่ยเต้น” ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำคนเสื้อแดง ด้วย .. ที่ดูจะไม่ไว้หน้า“พี่ตู่”ลูกคู่ “พ่อใหญ่จิ๋ว”ออกมา “ตีกัน”ทันทีว่า “รัฐบาลเฉพาะกาล” ไม่เป็นไปตามหลักประชาธิปไตย ส่อเจตนา “ล้มเลือกตั้ง”..พร้อมประกาศลั่นว่า แม้กติกาจะไม่เป็นธรรม แต่ก็สนับสนุนอย่างที่สุดให้มีการเลือกตั้ง ในวันที่ 24 ก.พ.62 .. ท่าทีค้านหัวชนฝาของ “น้องเต้น”ก็เหมือนส่งบทมาให้ “พี่ตู่”ได้อรรถาธิบายไอเดีย ที่ไปร่วมพูดคุยกับ“ลุงจิ๋ว”อีกครั้ง .. ระบุประมาณว่า อย่าหลงไหลเสียงข้างมาก เคยแพ้ยับเยินมาแล้ว เมื่อครั้งโหวตรัฐธรรมนูญ 2560 กระทั่ง “สูตรตั้งรัฐบาล”ก็ล็อกไว้ในแบบที่ “นักเลือกตั้ง”หมดท่าสู้ จึงเสนอให้ “พรรคการเมือง”มาคุยกัน ..พร้อมกับบางวรรค ที่ “ฝ่ายประชาธิปไตย”อาจจะ “แสลงใจ” โดยเฉพาะช่วงที่ “ประธานตู่”บอกว่า เลือกตั้งไป ก็ไม่เป็นประชาธิปไตย .. “ถ้าคิดแบบนักเลือกตั้ง ว่าเลือกตั้งยังไงก็ได้ ภายใต้กติกาอันนี้แล้วมีเรื่อง แล้วใครจะรับผิดชอบ …เราก็ต้องยอมรับความเป็นจริง ดัดจริตพูดสวยๆ ใครก็พูดกันได้” ..

มั่นใจเกินร้อย เชื่อมั่นในความสวยและเชื่อในพลังความสามารถของตัวเอง ใครจะมองจะคิดยังไงก็แล้วแต่ ขอมั่นใจในตัวเองให้เกินร้อยก็พอใจแล้ว นิโคลีน พิชาภา ลิมศนุกาญจน์ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2018 จะบอกเรื่องราวในใจที่น่าจะยิ่งใหญ่ ให้กับแฟนได้อ่านกัน

"จะทำให้เต็มที่ ถามว่ากี่เปอร์เซ็นต์คงเกิน 100 และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะคว้ามงกุฎมิสเวิลด์ มาฝากพี่น้องชาวไทยให้ได้ค่ะ"

"นิโคลีนคิดว่าจะใช้ความเป็นตัวของตัวเองนี่แหละค่ะ มั่นใจ จริงใจ มีน้ำใจ ใช้เสน่ห์ความเป็นไทย บวกกับความทันสมัยแบบสากลด้วยค่ะ ไปสู้นางงามชาติอื่นๆ ได้จนคว้าที่ 1 มาได้".

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางยังชุมชนท่องเที่ยวบ้านหนองเงือก ต.แม่แรง อ.ป่าซาง เพื่อร่วมประกาศเจตนารมณ์ "ลำพูนเมืองสะอาด ปราศจากโฟม" ร่วมกับชาวลำพูน และพบปะกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ข้าราชการ ประชาชน ที่มาต้อนรับกว่า 1,500 คน

โดย นายกฯ ขึ้นเวทีกล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า มาทำบุญวันนี้รู้สึกตื้นตัน วันนี้รู้สึกมีความสุขตั้งแต่เช้ารู้สึกหัวใจเต้นช้าลง ไม่ตื่นเต้นเหมือนอยู่กรุงเทพฯที่มีเรื่องให้แก้ทั้งวันทั้งคืน มานี่ทุกคนมีความสุขเห็นรอยยิ้ม อาหารอร่อยเป็นความสุขธรรมชาติ ถือว่าเยี่ยมเยือน ไม่ใช่เจ้าใหญ่นายโตที่ไหน และวันนี้มารับฟังปัญหาต่างๆ

นายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ได้เอาเงินลงมาแจก แต่มารับฟังประชาชน ขอชาวลำพูนอย่าไปชอบคนพูดปากหวาน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้จริง เราอย่าเปลี่ยนแปลงประเทศด้วยความรุนแรง ด้วยสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ถ้าใช้กำลังทะเลาะกันไปมา วันหน้าก็ใช้กำลังกันต่อ เมื่ออีกฝ่ายแข็งแรงเท่ากันหรือมากกว่าก็กลับมาสู้กันใหม่ มันไม่ได้ ทุกประเทศในโลกเลิกหมดแล้ว หลายปัญหาแบกนี้แก้รัฐบาลนี้ บางอย่างแก้ได้บางอย่างแก้ไม่ได้แต่เราพยายามแก้ทุกอย่าง อย่าให้ใครมาบิดเบือนเรื่องต่างๆ เดี๋ยวเรื่องเหล่านี้จะมาอีกเยอะพอเปิดเวทีคอยดู ประวัติอะไรต่างๆ ของตนจะต้องมีมาอีกเยอะ ท้องถิ่นคอยดูนะ เรื่องตัวเลขหนี้สาธารณะอย่าให้ใครมาบิดเบือน เราบริหารอย่างเหมาะสม

"เรื่องเหล่านี้จะเกิดขึ้นอีกในระยะเวลาอันใกล้ใช่หรือไม่ นายกเทศมนตรี , อบจ. , อบต.คอยดูเถอะเดี๋ยวมาอีก พอเริ่มเปิดเวทีประวัติที่ไม่เคยมีก็จะมี ชีวประวัติผมก็จะมายาวมากกว่าปกติ ผมเกิดมาผมรู้ประวัติผมมีแค่ไหน แต่มันชอบเติมให้ผม มีสองอย่างคือ เติมกับลด"

ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Pavin Chachavalpongpun" ในลักษณะท้าทายอีกฝ่ายหนึ่ง หลังจากก่อนหน้านั้นมีผู้โพสต์ข้อความในเชิงข่มขู่ให้ใครก็ได้ช่วยไปตบปากของนายปวิณ โดยพร้อมกู้ยืมเงินมาเสียค่าปรับให้ โดย ‘ปวิณ’ ระบุว่า "บินมาเลยค่ะ มาค่ะ รอ...." พร้อมกับขึ้นโพสต์ข้อความของคู่กรณีที่อ้างชื่อเฟชบุ๊กว่า "Sang lyala" ซึ่งมีข้อความระบุว่า "ผมไม่ได้มีเงิน ไม่ได้รวย แต่ใครก็ได้ช่วยตบปากมันแทนผมหน่อย เอาเลือดชั่วมันออกให้ผมที ถ้าจะต้องเสียค่าปรับ ผมยอมที่จะไปกู้เงินมาชดใช้ให้งงง พูดจริงไม่ได้พูดฮาเพื่อสนุก"

สาเหตุที่มีคนเข้าไปโจมตี ‘ปวิน’ ในช่วงนี้ เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้ เขาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊กมีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหมอบกราบ และควรยกเลิกวัฒนธรรมนี้ ทำให้มีผู้เข้าโจมตี ‘ปวิณ’ อย่างดุเดือด โดยเฉพาะเพจ "ประชาชน ไซเบอร์" ระบุว่า การหมอบ ก้มกราบ เป็นวัฒนธรรมอันดีงามของไทย เป็นมารยาทที่ผู้น้อย ผู้ด้อยอาวุโสกว่าพึงกระทำต่อผู้อาวุโสที่เคารพรักนับถือ และผู้มีพระคุณ ไม่มีใครบังคับว่าต้องทำ

ตั๊ก-บงกช ได้รับเกียรติไปร่วมงานเทศกาลภาพยนตร์ “Asian Pop-Up Cinema 2018” ณ เมืองชิคาโก้ สหรัฐอเมริกา และเปิดตัวในนามผู้ผลิตภาพยนตร์เลือดใหม่ในลุคปัง!!สไตล์ชุดผ้าไทยที่ใครเห็นต้องเหลียวหลัง พร้อมนำพาภาพยนตร์ “Sad Beauty เพื่อนฉัน...ฝันสลาย” เข้าฉายเมื่อวันที่ 26 กันยายน ณ AMC River East งานนี้นอกจาก “Sad Beauty เพื่อนฉัน...ฝันสลาย” จะทำให้สาวกคอหนังร้อง “ว้าว” ตั๊กในฐานะคนผลิตหนังยังส่องประกายเข้าตาสื่อต่างชาติ ได้รับเชิญไปร่วมสัมภาษณ์พิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ อาทิ HollywoodChicago.com , FF2 Media.. 2 สื่อต่างแดนชื่อดัง ฯลฯ ซึ่งสื่อหลังสุดเน้นโฟกัสงานหนังที่ผลิตโดยผู้หญิง

ตั๊กเล่าถึงการสัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติว่า “รู้สึกดีใจที่ได้รับการต้อนรับที่ดีมากๆ สื่อต่างประเทศให้ความสำคัญกับหนังไทยมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้วงการหนังไทยได้ก้าวไปไกลและยิ่งกว่าความภูมิใจที่สุดคือ สื่อต่างชาติให้ความสนใจในตัวเราไม่ใช่ในฐานะนักแสดง แต่คือฐานะของผู้สร้าง ผู้กำกับ หลายคำถามที่สื่อฯ สัมภาษณ์เรา ตั๊กประทับใจมากๆ อย่าง ผู้สื่อข่าว Stephanie A. Taylor จาก FF2 Media ถามถึง การวางแผนงานในประเทศไทยที่มีผู้สร้างภาพยนตร์ผู้หญิงไม่กี่คน และรับมือยังไงกับการเป็นคนกลุ่มน้อยในอุตสาหกรรมที่มีแต่ผู้ชาย?

ตั๊กตอบเค้าว่า “ตั๊กมีความสุขกับการทำหนังอินดี้ที่สามารถจับต้องได้กับผู้คนประเภทต่างๆ การทำภาพยนตร์ตามกระแสอาจจะหมายถึงสามารถทำเงินได้มากขึ้น แต่ตั๊กมองถึงผลระยะยาวมากกว่านั้นคือการที่ผู้ชมเข้าใจภาพยนตร์ที่ต้องการสื่อสาร ยอมรับว่าในไทย sad Beauty อาจไม่ใช่แนวหนังที่คนไทยส่วนใหญ่ดู แต่สำหรับต่างประเทศผลตอบรับดีมากจนแม้แต่เราเองยังคาดไม่ถึง คิดว่าเพราะหนังเป็นแนวอินดี้ที่ผสมความแมส เป็นอินดี้ที่ดูรู้เรื่อง และบางส่วนมาจากเรื่องจริง เป็นความตั้งใจของตั๊กที่อยากจะเล่าเรื่องเพื่อนสนิท ทำให้หนังมีสตอรี่ที่น่าสนใจ แต่ในขณะเดียวกันการทำหนังเรื่องนี้ก็มีความเหนื่อยมาก กับการต่อสู้เพื่อสร้างผลงานในฐานะผู้กำกับหน้าใหม่ แม้ว่าในประเทศไทยจะค่อนข้างเปิดโอกาสให้กับผู้กำกับหญิง แต่ก็มีบางคนบางกลุ่มที่ไม่สนับสนุนให้ผู้กำกับหญิงเข้ามาในวงการ”

สุชาติ ลายน้ำเงิน สมาชิกพรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีรัฐบาลไทยประสานไปยังรัฐบาลอังกฤษ เรียกร้องให้มีการจับกุมตัว คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาดำเนินคดีในประเทศไทย ว่า ไม่ต้องมองไปถึงกรณี คุณยิ่งลักษณ์ เอาแค่กรณีพระชั้นผู้ใหญ่ที่เดินทางไปลี้ภัย เยอรมัน เพราะเขามองว่าพระพุทธศาสนากำลังจะถูกทำลาย อีกทั้งการพยายามดำเนินคดียังมาจากรัฐบาลทหาร เพียงเท่านี้ก็ให้ลี้ภัยแล้ว หรือแม้แต่ผู้ลี้ภัยชาวซีเรีย ไปลี้ภัยในเยอรมัน เพราะเขาให้ความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชน ส่วน คุณยิ่งลักษณ์ เดินทางไปนครดูไบของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ รู้เพียงแต่ว่างานวันเกิด ท่านทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีอดีต ส.ส.เดินทางไปพบทั้งท่านทักษิณ และ คุณยิ่งลักษณ์ เยอะ

“วันนี้เราอย่าไปใส่ร้ายซึ่งกันและกันให้มาก คุณยิ่งลักษณ์ เป็นคนไทย เราควรมองว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศเกิดความสามัคคี พูดเพียงแต่ว่าท่านทักษิณ และ คุณยิ่งลักษณ์ ต้องกลับมารับโทษ จะรับได้อย่างไร ทำไมหลายประเทศ ไม่ใช่มีเพียงดูไบ ต่างยินดีต้อนรับเท่านั้น หลายประเทศตะวันออกกลาง อยากเชิญให้ไปเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจ ไปอยู่ที่ไหนก็ได้ เขาอยากให้อยู่ โดยเฉพาะท่านทักษิณ มีเพื่อนมากไปกัมพูชา รู้จักกันดี สมเด็จฮุนเซ็น ที่รัสเซีย รู้จักวลาดิเมียร์ ปูติน เดินทางไปไหนได้หมด ยกเว้นประเทศไทย วันนี้เราคิดแต่จะเอาชนะ เอาความสะใจกันเพียงแค่นั้นหรือ โดยไม่เห็นแก่ประชาชนเลยหรืออย่างไร เราต่างเป็นคนไทยด้วยกันทั้งนั้น”