ข่าวใหญ่ขึ้นหนึ่งของหนังสือพิมพ์ภาคภาษาอังกฤษและภาษาไทยที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ศาลสหรัฐ จำคุกชายไทย 7 ปี เป็นจำนวน 78 เดือน อดีตอาจารย์วิชาชีววิทยาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในภาคเหนือของประเทศไทย และเป็นเจ้าของกิจการร้านอาหารไทยที่รัฐยูทาห์ในข้อหานำดีวีดีหนังโป๊ะเด็กเ จำนวน 36 แผ่นเข้าประเทศ
ข่าวระบุว่า นายมนู ปนาทกุล ซึ่งสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาทางด้านการศึกษา ได้ยอมรับสารภาพตามข้อหาอาญาว่า ด้วยการขนส่งวัถตุลามกเกี่ยวกับเด็ก โดยหวังว่าจะรับได้รับความปราณีลดหย่อนโทษจากศาล และระหว่างอยู่ในศาล ได้ขอความกรุณาผู้พิพากษา กล่าวผ่านล่าม นานกว่า 20 นาที ขอให้ส่งตนกลับประเทศไทย แทนการจำคุกในประเทศสหรัฐอเมริกา โดยสัญญาว่าจะขอบวชเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา เพื่อปรับปรุงตัวเองเสียใหม่ พร้อมกับขอความเมตตาจากผู้พิพากษาว่ามีภรรยาและบุตร 2 คน รอการดูแลอยู่ที่ประเทศไทย ปรากฏว่าผู้พิพากษาได้ปฏิเสธ แต่ได้สั่งลงโทษจำนวนปีที่ ทนายความของ นายมนู ร้องขอ คือ 78 เดือน
อย่างไรก็ดี นายเจมส์ มาฮาน ผู้พิพากษา กล่าว ว่า ตนเชื่อว่า นายมนู ปนาทกูล จะถูกเนรเทศกลับประเทศไทยทันที หลังจากได้รับโทษจำคุกครบตามกำหนดแล้ว ข่าวกล่าวว่า นายมนู ปนาทกูล จะเดินทางขึ้นเครื่องบิน ที่สนามบินเมืองรัฐเวกัส เพื่อเดินทางรัฐยูทาห์ แต่มาถูกหน่วยรัฐบาลกลางของสหรัฐตรวจตราจนกระทั่งถูกจับเสียก่อน ทางด้านสถานกงสุลใหญ่ และกรมสารนิเทศ ได้เคยประกาศเตือนชาวไทยให้ระมัดระวัง เรื่องการนำซีดี
หรือ วีซีดี แผ่นโปรแกรมต่าง ๆ เพื่อจัดจำหน่าย หรือกระทำการใด ๆ เพื่อทางธุรกิจ การค้า จะผิดกฏหมาย.. นอกจากนี้แล้ว ยังมีหลายตัวอย่าง ที่ชาวไทยบางคน ยังนำติดตัวเช่น มา เนื้อแดดเดียว หมู ปลาสลิดแห้ง น้ำพริกต้องปิดผนึกอย่างดี ผักผลไม้ พริกสด โจ๊กที่มีรูปไข่ ขนมเปี๊ยะมีรูปไข่ ขนมไหว้พระจันทร์ไข่สองฟอง ไข่ฟองเดียว
ถูกตรวจจับปรับสินไหมทั้งนั้น ทิ้งไปมากต่อมากแล้ว แต่ยังไม่เคยจำกัน จนมีข่าวใหญ่เกิดขึ้นอย่างนี้ คงจะเป็นอุทาหรณ์ จะได้ระมัดระวังอย่านำมาเป็นอันขาด นายดาบ..เคยเห็นกับตาที่สนามบินนครซานฟรานซิสโกมี ชาวไทยคนหนึ่งนำพริกสด แค่ 23 เม็ด ถูกปรับ 250 เหรียญสหรัฐอเมริกา บ่นอุบอิบ ใครจะไปช่วยได้ สมรู้ร่วมคิดกันโทษจะหนักเข้าไปอีก รีบเผ่นกลับบ้านใครบ้านฉันเถอะดีกว่า...เล่นกับกฏหมายลำบาก.. อย่า อยู่ อย่าง ยาก .. จะลำบากกับชีวิต .. อยู่ แบบ มิดชิด ชีวิตจะราบรื่น..
จะพบกับปัญหาสารพัดอย่างต้องนำหลักธรรมมาช่วยเสริม ต้องค่อยแก้ไข ไม่มีสิ่งใดแก้ไขไม่ได้ ยกเว้นชะลอความตาย พอได้อยู่ชั่วคราว แต่เรื่องความตายแน่นอน.. กลับไปเมืองไทยคราวครั้งนี้ได้เรียนรู้การตอบแทนพ่อแม่ อย่างไร เราควรจะทำอย่างไร ทำอย่างไรให้พ่อแม่มีความสุข ทำให้สังคมคนรอบข้างกาย มีความสุข.. ผู้ปกครองได้ฟังแล้ว ไม่ชื่นใจ ก็ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว..
ทุกวันจันทร์ มีเพื่อน ๆ รวมพลกัน ไปถวายอาหารที่วัดพุทธประทีป ซานฟรานซิสโก สร้างบุญร่วมกุศล อย่างภาคภูมิในความเป็นคนไทย ที่นับถือพระพุทธศาสนา ยิ่งในช่วงเข้าพรรษา จะมาถึง กลุ่มแม่บ้าน เตรียมตั้งผ้าป่า เพื่อสมทบทุนสร้างสองชั้นสอง ของวัดอีกด้วย..